กิจกรรมบำบัดกับการไปให้ถึงเป้าหมายการทำงานที่พึ่งพิงน้อยที่สุด


กิจกรรมบำบัดกับการส่งเสริมการทำงาน

Case : ชื่อมอ(นามสมมติ) เพศหญฺิง อายุ 59 ปี ไม่มีโรคประจำตัว เข้ามาที่สถานคุ้มครองวันที่ 9 กัยายน 2561

คะแนนในแบบประเมิน PFFS-T = 2 คะแนน      

ระดับความเปราะบาง = ไม่เปราะบาง 

High 2+ Scores = - หรือ Healthy 

การออกแบบกิจกรรมเพื่อไปถึงเป้าหมายการมีงานทำโดยพึ่งพิงคนอื่นน้อยที่สุด

            เนื่องจากผู้รับบริการใกล้จะสู่ช่วงวัยสูงอายุ แม้ความสามารถในการทำกิจกรรมของผู้รับบริการในตอนนี้ ถือว่าเป็นกลุ่ม high function แต่การส่งเสริมสุขภาพและคงความสามารถในการทำกิจกรรมไว้ ก็จะช่วยให้ผู้รับบริการ มีความสามารถในการจะทำกิจกรรมต่างๆด้วยตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยจะเป็นการแนะนำท่าทางการออกกำลังกายป้องกันการล้ม แนะนำการออกกำลังกายบริหารสมอง และแนะนำการแอโรบิคเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรง 

ท่าทางป้องกันการล้มที่จะให้ผู้รับบริการทำ มีดังนี้ 

*โดยแต่ละท่าควรทำ 8-15 ครั้งต่อเซต โดยพักครั้งละ 1-3 นาที จากนั้นให้ทำซ้ำอีก 2-3 เช็ต*

ท่าทางการออกกำลังบริหารสมองมีดังนี้

/อ้างอิง https://www.dop.go.th/th/news/1/3892             

และจากการสัมภาษณ์ผู้รับบริการ ผู้รับบริการเคยมีประสบการณ์เกี่ยวกับการทำอาหารมาก่อน คือการเปิดร้านกุ้งเผา อาหารทะเล และมีหน้าที่ในการทำอาหารคือเผากุ้งเป็นหลัก และมีความชอบที่ได้ทำ จึงจะส่งเสริมการทำกิจกรรมการทำอาหารซึ่งเป็นกิจกรรมที่ผู้รับบริการมีประสบการณ์อยู่แล้วในอดีต สามารถพัฒนาทักษะต่อไปให้ดีขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยจะแนะนำกิจกรรมทำอาหารจากเมนูที่สามารถทำได้ง่าย ขั้นตอนไม่มาก และดัดแปลงวัตถุดิบได้หลากหลาย เช่น อาหารประเภทยำ สุกี้ม้วน  เป็นต้น ซึ่งจากการทำกิจกรรมกลุ่มยำวุ้นเส้นในครั้งที่แล้ว ผู้รับบริการบอกว่าตนเองไม่ได้ทำอาหารนานแล้ว แต่จากการสังเกตผู้รับบริการเมื่อได้ลองทำกิจกรรม ก็พบว่าผู้รับบริการสามารถบอกขั้นตอนการทำได้ รู้วิธีในการจัดการวัตถุดิบอย่างเหมาะสม ตั้งแต่ขั้นตอนการล้างผัก การหั่นผัก การหมักหมู การลวกวัตถุดิบ การปรุงน้ำยำ การยำวัตถุดิบรวมกัน ผู้รับบริการสามารถจดจำขั้นตอนและบอกปริมาณที่เหมาะสมในการทำยำได้ 

           ดังนั้น การส่งเสริมกิจกรรมจะทำเกี่ยวกับการทำอาหารที่หลากหลายประเภท เมื่อผู้รับบริการสามารถทำอาหารที่มีขั้นตอนน้อย ๆ ได้แล้ว อาจจะมีการ Grade กิจกรรมทำอาหารให้มีความยากมากขึ้น โดยจะให้ทำอาหารที่มีขั้นตอนซับซ้อนและต้องใช้ความระมัดระวัง ความรอบคอบมากยิ่งขึ้น เพื่อพัฒนาทักษะการทำงาน , cognitive ให้พร้อม และเนื่องจากการจะเปิดร้านอาหาร ต้องมีการจัดการระบบหลายๆอย่าง ทั้งค่าใช้จ่าย ต้นทุน การจัดการเงิน ซึ่งผู้รับบริการเคยมีประสบการณ์เปิดร้านอาหารมาก่อน ดังนั้น อาจจะเป็นการส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ในอดีตตอนที่ผู้รับบริการเปิดร้านอาหารนั้นยังไม่มี เช่น การโอนจ่ายด้วยมือถือ การแสกนจ่ายคิวอาร์โค้ด เป็นต้น ก็จะต้องมีการจัดทำกิจกรรมการสอนการใช้งานเทคโนโลยีสมัยใหม่ เพื่อที่ผู้รับบริการจะสามารถบริหารร้านได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และนำไปสู่การสร้างคุณค่าในตัวเองอย่างมีความสุขของผู้รับบริการอีกด้วยค่ะ

 

ขอบคุณค่ะ

6323026 พิมพ์ณดา รุ่งสิริวัฒนะชัย เลขที่ 21

 

คำสำคัญ (Tags): #กิจกรรมบำบัด
หมายเลขบันทึก: 710582เขียนเมื่อ 24 พฤศจิกายน 2022 23:25 น. ()แก้ไขเมื่อ 24 พฤศจิกายน 2022 23:25 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท