สายธารความรู้สู่การเลี้ยงโคอย่างพอเพียง ตอนที่ 26 KM กับการเลี้ยงโค


ดีใจที่ได้เข้าร่วมโครงการ KM เพราะทำให้ได้เรียนรู้และถ่ายทอดความรู้และสิ่งดีงามให้แก่กันและกันและเปิดโอกาสให้ตนเองได้เรียนรู้โลกกว้างจากที่เคยรู้จักแต่ตัวเองและเคยทำแต่สิ่งเดิม ๆ มาพัฒนาการทำงานในแบบใหม่อย่างมีระบบภายใต้การจัดการความรู้

        ในวันนี้ได้มีโอกาสไปเยี่ยมชมฐานเรียนรู้ของน้องกิ่งที่อำเภอพุทไธสง  จังหวัดบุรีรัมย์และฐานเรียนรู้ของพ่อทอง ศรีธรรมมาได้เรียนรู้จากภูมิปัญญาชาวบ้านอีก 3 ท่านมีพ่อกว้าง    พ่อวิจิตร  และพ่ออุ่น  ที่แสนใจดี บอกเล่าทุกเรื่องที่ท่านได้ทำ KM ที่ผ่านมา

         พ่อ  ทุกท่าน เดินทางมาสวนน้องกิ่งด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส  พร้อมใจที่ลุย KM  กันต่อไปย่างเต็มที่   พ่อกว้างและพ่อวิจิตรมาพร้อมรุกคุณแต๋นคู่ใจพร้อมทั้งอุปกรณ์การสอนครบครัน  ส่วนพ่ออุ่นและพ่อทองมาพร้อมกับรถมอเตอร์ไซด์เพื่อนยากพร้อมมาดหล่อเหลาเอาการที่ใครก็คาดไม่ถึง  พ่อ ๆ ทุกท่านบอกว่าทำ KM แล้วลืมแก่ทำให้หน้าตาดีตามไปด้วย

         ในภาพรวมนั้นทุกท่านบอกว่าดีใจที่ได้เข้าร่วมโครงการ KM  เพราะทำให้ได้เรียนรู้และถ่ายทอดความรู้และสิ่งดีงามให้แก่กันและกันและเปิดโอกาสให้ตนเองได้เรียนรู้โลกกว้างจากที่เคยรู้จักแต่ตัวเองและเคยทำแต่สิ่งเดิม ๆ มาพัฒนาการทำงานในแบบใหม่อย่างมีระบบภายใต้การจัดการความรู้

        พ่อกว้างบอกว่า การทำ KM ทำให้รู้ว่ายังมีความรู้อีกมากมายที่เรามีแต่ไม่ได้เอามาใช้ไม่ได้เอามาจัดการเพราะเคยชินกับอะไรที่ง่าย ๆ จนแทบจะไม่หลงเหลือความรู้ดั้งเดิมของตนเองรวมทั้งยังดูถูกความรู้เดิม ๆ อีกด้วย   โดยที่พ่อกว้างนั้นได้ชูประเด็นการพัฒนาพันธุ์ข้าวเป็นพระเอก  แต่ไม่ได้หมายความว่าท่านได้ทิ้งการทำ KM   ในเรื่องอื่นแต่ท่านได้พยายามให้ทุกคนมองเห็นว่า การปลูกข้าว การปลูกพืชผักและการเลี้ยงสัตว์เป็นสิ่งที่เกี่ยวเนื่องสัมพันธุ์กัน เพราะพืชต้องพึ่งพาปุ๋ยจากสัตว์และสัตว์ก็ยังต้องพึ่งพาอาหารจากพืช  สำคัญที่สุดต้องอาศัยการจัดการอย่างเป็นระบบของเจ้าของด้วย

       นอกนั้นพ่อกว้างยังมีมุมมองต่อเรื่องการจัดการความรู้เกี่ยวกับโคว่า  จะเลี้ยงโคให้ดีต้องมีอาหาร  เหมือนคนเราได้รับอาหารดีมีเพียงพอก็จะเจริบเติบโตดี สติปัญญาดี  การเลี้ยงโคก็เช่นกัน

      ไม่มีเจ้าโคคนไหนดีใจที่เห็นโคผอม

      เจ้าของโคจะดีใจและเป็นสุขเมื่อเห็นโคอ้วนถ้วนสมบูรณ์

      เมื่อต้องการให้โคสมบูรณ์ก็ต้องให้โคได้กินอาหารสมบูรณ์ด้วย  พ่อกว้างได้แนวคิดจากท่านครูบา ว่าการเลี้ยงโคทุกวันนี้ต้องให้หญ้ามาหาโค ไม่ใช่ให้โคไปหาหญ้า  จึงตัดสินใจปลูกหญ้าเลี้ยงโค ในขณะเดียวกันก็ต้องการเปลี่ยนวิธีคิดเกี่ยวกับการเลี้ยงโคด้วย  จึงยอมสละที่นาของตนเองไปหลายไร่มาทำนาหญ้าให้ชาวบ้านร่วมเรียนรู้กันเป็นกลุ่มทดลองปลูกหญ้ากินนีสีม่วงมาเลี้ยงโคจนชาวบ้านประจักษ์ในสายตาว่าเกิดผลดีจริง  ทุกวันนี้นอกจากชาวบ้านจะมีแปลงหญ้าของกลุ่มแล้วทุกคนยังนำแนวคิดในเรื่องการทำนาหญ้าไปทำในพื้นที่ของตนเองเพื่อเลี้ยงโคได้เป็นอย่างดี  ซึ่งถือว่าเป็นกุสโลบายที่แยบยล เพราะถ้าพ่อกว้างไปสนับสนุนให้ทุกคนปลูกหญ้าที่นาของตนเองตั้งแต่แรกคงไม่ประสบผลสำเร็จ ด้วยข้ออ้างประการทั้งปวงเพราะความเคยชินที่ทำแต่นาข้าวมาตลอด  จึงยอมเสียสละเพื่อให้เกิดการเรียนรู้จริงและนำไปทำได้อย่างไม่กังขา  และที่แน่ไปกว่านั้นหญ้าที่นาของพ่อกว้างจะมีรสเค็มปะแล่ม ๆ นิดเพราะใช้น้ำกร่อยรดหญ้า เป็นการเพิ่มแร่ธาตุให้โคไปในตัว  ท่านบอกว่าได้ลองชิมหญ้าด้วยตนเองเพื่อเป็นการการันตีในสิ่งที่ตนเองทำ

      เมื่อได้ทำในเรื่องการทำนาหญ้าเลี้ยงโคประสบผลสำเร็จแล้วท่านก็ได้ทำเรื่องการพัฒนาพันธุ์ข้าวไปด้วย เพื่อให้ได้พันธุ์ข้าวที่ดีเหมาะสมกับท้องถิ่น  และการทำนาก็มีผลพลอยได้ตามมาคือฟางข้าว

      แต่คนทั่วไปฟางข้าวจะเก็บเกี่ยวได้รอบเดียวก็หมด คือหลังเกี่ยวหลังนวด  แต่สำหรับพ่อกว้าง ลงทุนทำนาครั้งเดียว เกี่ยวข้าวได้  2  ครั้ง และเกี่ยวฟางข้าวได้ 3  ครั้ง  ซึ่งเป็นการลงทุนที่ค้มค่า

      ก็ไม่ยากแต่ต้องขยันและจัดการถูก

      เกี่ยวครั้งแรก ได้ข้าว และฟางข้าว

      เกี่ยวครั้งที่สองเกี่ยวซังข้าวที่ยังสดโดยเหลือสูงจากพื้นประมาณ 1  ฟุต

      เมื่อเกี่ยวซังข้าวแล้วปล่อยน้ำเข้าแปลงนาก็จะได้ลูกข้าว

     จ้างคนอื่นเกี่ยวลูกข้าว แบ่งข้าวกัยคนละครึ่ง พ่อกว้างได้ข้าวรอบสอง และฟางข้าวรอบสาม

     วัวได้กินฟางที่ยังสดใหม่อยู่เรื่อย ๆ  คุณค่าอาหารย่อมมากกว่าฟางแห้ง ๆ ที่เก็บไว้นาน ๆ ไม่ต่างจากปลาแห้งที่ตากแล้วตากอีกจนแข็งโป๊ก เป็นใครคงไม่อยากิน เช่นเดียวกันกับโคที่กินแต่หญ้าแห้งอาจเหมือนเบื่อได้ซักวันก็เป็นได้

     นอกจากนั้นแล้วเมล็ดข้าวที่ได้จากการเกี่ยวลูกข้าวก็สามารถนำไปเลี้ยงโค หมู เป็ด ไก่ได้อีกทอด

 

หมายเลขบันทึก: 70757เขียนเมื่อ 3 มกราคม 2007 23:55 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 17:43 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

OK ครับ

น่าจะพยายามแกะออกป็นชุดๆ และแต่ละชุดเป็นอย่างไร

ไปแตละครั้งควรจะมีกรอบความคิดไว้รองรับ เป็นส่วนๆ ไม่ใช่ไปวิ่งตามความรู้เพียงอย่างเดียว

  • อ่านแล้วนึกถึงบรรยากาศเก่าๆ จังเลยครับ
  • ดีใจด้วยที่เดินมาถูกทางครับ

โชคดีปีหมูทองนะครับอาจารย์พันดา

ขอบคุณครับ

อุทัย

 

   key word จาก ดร.วนิดา 

ถ้าทำไม่ชัด  เราจะเป็น : เป็นตัวผ่านความรู้

วิ่งตามความรู้

วิ่งหาความรู้

เล่นซ่อนหาความรู้

เล่นปั่นแปะความรู้

เล่นเป่าหยิงฉุบความรู้

แท้ที่จริงแล้วความรู้ ..มันสะกดรอยตามเราไปทุกที่ทุกทาง ทุกเวลา ทุกกรณี  

ช่วงปีใหม่ ได้รับหนังสือ

"ระบบการเรียนรู้ใหม่ ไปให้พ้นวิกฤติ แห่งยุคสมัย"

เขียนโดยท่านอาจารย์ใหญ่ ประเวศ วะสี เป็นหนังสือครบรอบ 84 ปี ศสตราจารย์ระพี สาคริก

ขึ้นบทที่1 อาจารย์ใหญ่ฟันธงเลยว่า

โลกวิกฤต เพราะการศึกษาทิ้งชีวิต

ดังนั้น เรื่องที่นักศึกษากำลังทำต้องเกาะขอนชีวิตใหม้หมั่น ไม่ยังงั้นมีโอกาสจมน้ำ ตุ๊บป่อง คุ๊บป่อง แล้วจะขึ้นอืดในที่สุด

อาจารย์แสวงที่เคารพ

       สวัสดีปีใหม่ จิตใจเบิกบานค่ะอาจารย์ ตอนนี้ออกพื้นที่เพื่อค้นหากลุ่มตัวอย่างที่ชัดเจนและพยายามเก็บข้อมูลตามที่วางประเด็นหลักกว้างๆตามที่วางแผนไว้ โดยครั้งต่อไปจะตั้งกรอบตามประเด็นในรายละเอียดตามพิมพ์เขียวที่ให้อาจารย์พิจารณาไปแล้ว  ไม่ทราบว่าถูกทางไหมค่ะอาจารย์

       ขอบคุณค่ะ

    

            สวัสดีปีใหม่ค่ะอาจารย์อุทัย  ขอให้สมาชิกบ้านอันพิมพ์ทุกคนพบแต่สิ่งดีงามตลอดปีหมูทองและตลอดไปค่ะ

            เวลาออกพื้นที่เหมือนองคาพยพไม่ครบส่วน เราชาวพัฒนบูรณาการศาสตร์จึงเฝ้ารอการกลับมาของอาจารย์ตลอดเวลา  เพราะถ้าครบมีอะไรที่ท้าทายให้ทำอยู่พอสมควร

            ดีใจค่ะที่อาจารย์บอก OK  แต่ต้องพยายามเพิ่มอีกมากโข เพราะนี่เพียงแค่เริ่มต้นจริงไหมค่ะ

           ขอบคุณค่ะ

ขอบพระคุณค่ะพ่อครู

       จะพยายามใหชัด และจะอยู่ตรงกลางของเส้นขนานความรู้มาเชื่อมประสานเป็นความรู้ที่มีชีวิตชีวาน่าสนใจและเกิดประโยชน์อย่างจริงจัง

       จะวิ่งตามความรู้ให้ทัน

       จับเอาความรู้มาจัดการ

        ให้ความรู้เป็นวิถีชีวิต

       จนความรู้วิ่งตามเราไม่ทันในที่สุด

       จะพยายามและทำให้ได้

        คงมีขอนไม้ใจดีให้เกาะเวลาหมดแรง

        ขออย่างเดียวขอนไม้อย่าเพิ่งเบื่อแล้วลอยหนีให้ลอยคอตายขึ้นอืดก็พอค่ะ

       ขอบคุณค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท