วันที่ ๒๖ ธ.ค. ๔๙ สภามหาวิทยาลัยมหิดล ไปเยี่ยมชื่นชม ๓ หน่วยงาน คือ ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ และวิทยาลัยราชสุดา ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ตั้งอยู่ที่ "ชายขอบ" ของวิทยาเขตศาลายา ๒ ฝั่งถนนปิ่นเกล้า-นครชัยศรี
ไม่ทราบว่าเป็นความบังเอิญหรือไม่ ที่ ๓ หน่วยงานเขาจัดกลุ่มนำเสนอกันเอง ประกอบกับบรรยากาศในห้อง Music Auditorium ของวิทยาลัยดุริยางคศิลป์มันเป็นใจ ทำให้ผมมองเห็น (ไม่ทราบว่าเห็นถูกหรือเห็นผิด) ว่ามหาวิทยาลัยมหิดลประกอบด้วยหน่วยงาน ๒ กลุ่ม
(๑) หน่วยงานกลุ่มกระแสหลัก (conventional) ของศาสตร์ด้านสุขภาพ เช่น คณะแพทยศาสตร์ พยาบาลศาสตร์ ทันตแพทยศาสตร์ เทคนิคการแพทย์ เภสัชศาสตร์ ฯลฯ เป็นหน่วยงานที่ตั้งมานาน มีฐานะมั่นคง มีความเป็นศาสตร์ที่ชัดเจน
(๒) หน่วยงานกลุ่มกระแสแสวงหา หรือกระแสทางเลือก กระแสทดลอง เป็นกลุ่มของศาสตร์ใหม่ ศาสตร์ของ "คนล้นบาท" (คำพูดของ รศ.ดร.สุกรี เจริญสุข ผอ.วิทยาลัยดุริยางคศิลป์) ต้องการจินตนาการสูง
มหาวิทยาลัยมหิดลโชคดีที่มีผู้บริหารและสภามหาวิทยาลัยที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกล คิดก่อตั้งหน่วยงานทั้ง ๓ ขึ้นในลักษณะที่น้อยคนนักที่จะเห็นความสำคัญในช่วงก่อตั้ง แต่ก็ได้พิสูจน์แล้วว่า ๒ หน่วยงานที่มีระยะเวลาทำงานมาเกิน ๑๐ ปี (วิทยาลัยราชสุดา & ดุริยางคศิลป์) ได้กลายเป็นผู้นำในศาสตร์ใหม่นี้ไม่ใช่แค่ในระดับประเทศ แต่เป็นผู้นำในระดับภูมิภาคเอเซียตะวันออก
และเชื่อว่าศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก ก็จะพัฒนาขึ้นเป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่ชี้นำแก่สังคมในด้านการพัฒนาศาสตร์ เช่นเดียวกับที่วิทยาลัยราชสุดาเป็นผู้นำของศาสตร์เกี่ยวกับคนพิการ และวิทยาลัยดุริยางคศิลป์เป็นผู้นำด้านดนตรี
รายละเอียดจะได้นำมาลงในบันทึกต่อๆ ไป
ผมได้เรียนรู้และเห็นช่องทางที่สภามหาวิทยาลัย จะทำหน้าที่ส่งเสริมให้เกิดการสนธิพลัง (synergy) ระหว่างหน่วยงานทั้งสองกระแส
วิจารณ์ พานิช
๒๖ ธ.ค. ๔๙
ไม่มีความเห็น