เมื่อฉันไปร่วมถวายพระพรองค์สมเด็จพระจักรพรรดิ


ทรงเป็นพระสหายที่สนิทสนมกับในหลวงมานานหลายสิบปีแล้ว

 Imperial Palace New Year Greeting

 ในภาพ องค์สมเด็จพระจักรพรรดิและพระบรมวงศานุวงศ์ญี่ปุ่นเสด็จออก ณ ระเบียงด้านหน้าพระราชวังอิมพีเรียลด้านใน เปิดโอกาสให้ประชาชนเข้าไปถวายพระพรเนื่องในโอกาสปีใหม่ และทรงมีพระราชดำรัสอวยพรประชาชนทั้งประเทศด้วย  โดยในปีหนึ่งในเขตพระราชฐานด้านในนี้จะเปิดให้ประชาชนเข้าไปได้เพียง ๒ ครั้ง คือ วันเฉลิมพระชนมพรรษาองค์สมเด็จพระจักรพรรดิ คือ วันที่ ๒๓ ธค. และ วันที่ ๒ มค. เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่

 

 ฉันเิริ่มสนใจติดตามอ่านบทสัมภาษณ์องค์สมเด็จพระจักรพรรดิตั้งแต่ทรงเสด็จเยือนประเทศไทยในฐานะพระราชอาคันตุกะของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในงานฉลองสิริราชสมบัติเมื่อกลางปีนี้แล้ว  ด้วยเหตุผลง่าย ๆ คือฉันกำลังเตรียมตัวจะมารับทุนที่ประเทศของท่านนี่เอง  ดังนั้น  ในบรรดาพระราชอาคันตุกะทั้งหลาย  ฉันจึงมีความสนใจที่จะอ่านเรื่องราวเกี่ยวกับพระองค์ท่านมากกว่าใคร อีกทั้งฉันต้องการจะเก็บข้อมูลไว้ไปรายงานเซนเซวิชาดาบซามูไรของฉันด้วย

 และยิ่งฉันได้อ่านบทสัมภาษณ์องค์สมเด็จพระจักรพรรดิมากขึ้นเท่าใด ก็ยิ่งทราบว่าท่านและราชวงศ์เบญจมาศทรงมีความสนิทสนมผูกพันกับในหลวง และราชวงศ์จักรีของเราอย่างลึกซึ้งมาเป็นเวลานานหลายสิบปีแล้ว  และสำหรับในหลวงของเรานั้น  องค์สมเด็จพระจักรพรรดิท่านทรงสนิทสนมด้วยเป็นพิเศษ  และนี่เป็นครั้งแรกด้วยที่ทรงเสด็จเยือนต่างประเทศอย่างเป็นทางการในฐานะองค์สมเด็จพระจักรพรรดิซ้ำถึงสองครั้ง  เพราะปกติตามธรรมเนียม protocol มักจะไม่ทำซ้ำกัน  คือถ้าเคยเสด็จแล้ว  อีกครั้งจะไม่นับเป็นทางการ  แต่จะเสด็จเป็นการส่วนพระองค์มากกว่า

นอกจากนี้  ประเทศไทยยังเป็นประเทศแรกที่ทรงเสด็จหลังจากทรงครองราชย์อีกด้วย  ซึ่งเรื่องอย่างนี้ ทั้งในเรื่อง protocol และในเรื่องการเลือกเสด็จไทยเป็นประเทศแรก  ผู้ที่อยู่ "นอกวงการ" อาจไม่เห็นเป็นเรื่องสำคัญอะไร  แต่สำหรับ "คนใน" แล้ว  นับว่า  องค์สมเด็จพระจักรพรรดิทรงถวายพระเกียรติในหลวงของเราเป็นอย่างยิ่งมาก

ถ้าอยากจะทราบถึงความชื่่นชมที่ทรงมีต่อในหลวงของเราว่ามากแค่ไหน  ก็อาจจะพอยกตัวอย่างได้  ในคำพระราชทานสัมภาษณ์ของพระองค์ท่านที่มีต่อสื่อมวลชนชาวญี่ปุ่นก่อน ที่จะทรงเสด็จเยือนประเทศไทยเป็นทางการในคราวงานฉลองของในหลวงนั่นเอง

 ฉันนั้นเป็นคนรักในหลวง  และในส่วนของต้นตระกูลของฉันเองก็เคยได้มีโอกาสมารับใช ้เบื้องพระยุคลบาทถึงญี่ปุ่นมาตั้งแต่สมัยล้นเกล้าร.๕มาจนถึงร.ปัจจุบัน  กล่าวได้ว่า  ต้นตระกูลฉันก็ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากทั้งสองราชวงศ์ ในการดูแลทุกข์สุขมานานกว่าร้อยปีแล้วในสองประเทศในต่างกรรม ต่างเวลากัน  จนกระทั่งมาถึงรุ่นของฉันนี่  ฉันก็ยังได้รับน้ำใจไมตรีจากแผ่นดินนี้มาเป็นระยะ ๆ ไม่ขาดสาย  จนกระทั่งถึงวันนี้

 ดังนั้น  ฉันจึงยึดเอาองค์คุณธรรมข้อกตัญญูกตเวทิตาูธรรมเป็นที่ตั้ง  แล้วก็น้อมใจไว้ว่า ถ้ามีโอกาส ฉันก็อยากจะไปแสดงมุทิตาจิตต่อผู้ที่เคยให้การช่้วยเหลือเกื้อกูลแก่ฉันและต้นตระกูลมามิได้ขาด  จึงเป็นที่น่ายินดียิ่ง  ที่ได้ทราบเืมื่อไม่กี่อาทิตย์นี้เองว่า  ทุก ๆ ปี  ที่ญี่ปุ่นจะเปิดให้ประชาชนเข้าไปถวายพระพรองค์พระจักรพรรดิได้ในช่วงปีใหม่  ฉันเลยตั้งใจไว้ว่า  ไม่ว่าจะหนาวเหน็บแค่้ไหน  ก็จะสู้เพียรไปร่วมงานให้ได้  เพียงเพื่อจะส่งใจไปกวายพระพร และกล่าวอนุโมทนากับกิจต่าง ๆ ที่ท่านทรงทำในการบำบัดทุกข์ บำรุงสุขต่อราษฎร  ทั้งที่ได้รับการเผยแพร่ออกสู่สายตาประชาชน และที่ไม่ได้รับการเผยแพร่

 การไปเข้าเฝ้าจะเป็นอย่างไร  เดี๋ยวพรุ่งนี้มาเล่าต่อดีกว่า  วันนี้เหนื่อยมากแล้ว.....

หมายเลขบันทึก: 70615เขียนเมื่อ 3 มกราคม 2007 02:01 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 16:55 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

สวัสดีค่ะ

  • ดีจังเลยนะคะ  ได้อ่านแล้ว  มีความรู้คู่ความสุข
  • ครูอ้อย...จะรออ่านบันทึกต่อไปนะคะ

ขอบคุณค่ะ

 

ขอบพระคุณมากค่ะ คุณสิริพร ที่่กรุณาแวะมาอ่าน และให้กำลังใจ :-)

อาจารย์มาเชียร์ และนำเข้าแพลนเน็ตแล้ว พิชัย
ขอบคุณค่ะ อาจารย์  เดี๋ยวต้องตามไปดูว่าอาจารย์มีแพลเน็ตไหนบ้าง
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท