เพียงไม่กี่คนที่บ้าน...


เพราะความคิดที่ว่า "ใกล้" นั่นแหละ ที่ทำให้เธอเริ่มห่างเหินจากบ้าน

ผมเพิ่งเล่าเรื่องที่ตนเองกำลังจะกลับบ้านไปไม่นาน...  แต่ท้ายที่สุดก็มีนิสิตหญิงท่านหนึ่งเอาการ์ดอวยพรปีใหม่มามอบให้ พร้อมกับชวนผมไปร่วมเดินป่าในอุทยานฯ แห่งหนึ่ง  เพียงเพราะอยากจะไปพักผ่อนกับบรรดาเพื่อนฝูง  แต่ทั้ง ๆ ที่เธอเองก็เพิ่งยืนยันกับผมว่า  เธอไม่ได้กลับบ้านมานานร่วม 3 เดือน เพราะบ้านอยู่ไม่ไกลนักจาก จ.มหาสารคาม จะกลับตอนไหนก็ได้ ....(ผมเป็นงง) !!

    เพราะความคิดที่ว่า "ใกล้" นั่นแหละ  ที่ทำให้เธอเริ่มห่างเหินจากบ้าน  คิดว่าจะกลับวันไหนก็ได้  แค่อึดใจเดียวก็ไปถึงแล้ว...จนท้ายที่สุดเธอก็ไม่ได้กลับบ้านมานานร่วม 3  เดือน

    ผมไม่มีเวลาคุยนานนัก  แต่ก็ย้ำกับเธอว่า "บ้านคือความสวยงามเสมอ"  และเมื่อเธอย่างก้าวเข้าสู่โลกแห่งการทำงาน มีอาชีพที่ต้องหาเลี้ยงตนเองก็ยิ่งมีโอกาส "ห่างเหิน" และอาจ "ห่างหาย" ไปจากบ้านมากยิ่งขึ้น

   หรือแม้แต่การแต่งงานไปมีครอบครัว มี "บ้านหลังใหม่"  เธอเองก็อาจยิ่งหาเวลากลับไปเยือนบ้านและคนที่บ้านได้อย่างอยากลำเค็ญ  ..โทรศัพท์ อาจสื่อสารความอาทรได้จริง แต่มันจะเทียบเท่ากับการสัมผัสจริงด้วยตัวตน ได้เหรอ ????

    ผมพูดทีเล่นทีจริงกับเธอว่า โทรศัพท์ "บอกรักและคิดถึง" ได้ก็จริงแต่  "โอบกอดแม่"  ไม่ได้นะ  พร้อมทั้งให้หนังสือยืมไปอ่านเล่นในช่วงเดินป่า  โดยไม่ลืมย้ำให้เธออ่านบทกวีบทหนึ่งที่มีชื่อว่า "ไปไหม"

................

กระทั่งเวลาประมาณ ๑๐ นาฬิกาเศษของวันนี้ (๒๘  ธันวา ๒๕๔๙)  เธอส่งเสียงหวานใสผ่านโทรศัพท์มายังผมอีกครั้ง  และบอกกับผมว่า "กำลังเก็บของกลับบ้าน" 

และบอกเล่าว่า หลังจากได้อ่านบทกวีที่ผมให้ยืมไปนั้น เธอก็ไม่ลังเลที่จะเปลี่ยนใจจากการไปเที่ยวพักผ่อนที่อุทยานไปสู่การกลับไปพักผ่อนที่บ้าน

เธอบอกว่า เพื่อนฝูงรุมด่ากันยกใหญ่  แต่ก็เข้าใจ  และเห็นใจ เพราะแม่อยู่บ้านกับพี่สาวเท่านั้น...ส่วนคุณพ่อเสียชีวิตไปนานกว่า ๑๐ ปี

เธอยังไม่ลืมที่จะเย้าแย่กลับมาว่า จริงดังที่ผมบอก คือ  ไปเที่ยวกับเพื่อนต้อง "ติดหนี้" แต่การกลับบ้านดีกว่าแน่นอน  เพราะไม่มีหนี้ แต่โชคดีจะได้ตังค์กลับมาอีกต่างหาก...!!!

................

เป็นเรื่องดี ๆ  ที่ผมได้รับเนื่องในเทศกาลปีใหม่อีกเรื่องหนึ่ง...เป็นเสมือนของขวัญปีใหม่อีกชิ้นที่โบยบินมากับสายลมหนาว

และอดที่จะนำบทกวีที่ว่านั้นมาฝากชุมชนการแลกเปลี่ยนไม่ได้ คือ

......

กลับบ้านเกิดดีไหม...ไปเยี่ยมแม่

กลับไปดูความแก่ของแม่ไหม

ว่านานเนิ่นเหินห่างอยู่อย่างไร

หง่อมเหงาเพียงใดกับวัยชรา

กลับไปกราบแม่ไหม  ไปด้วยกัน

กราบแม่เธอ  แม่ฉัน แล้วซบหน้า

เกลือกกลางอกเหี่ยวยาน อกมารดา

แล้วปลดปล่อยน้ำตาสักนาที

ไปเยี่ยมแม่ดีไหม..ไปดูรัก

กลับไปดูให้ประจักษ์เป็นสักขี

ไปดูรักแท้ซึ่งแม่มี

ดูแววตา อารี อันจีรัง

เคยแอบฉกเศษเหรียญในเซี่ยนหมาก

ซื้อโน่นนี่ยามอยากเคยฝากหวัง

เคยแม่เฆี่ยน หลายหนแทบก้นพัง

ก่อนนิ่งฟังเทศนาน้ำตาพรู

ไปไหม...ไปอบอุ่น  ไปหนุนตัก

ฟังคำรักแม่พร่ำให้ฉ่ำหู

ไปสบตาให้เห็นแววเอ็นดู

เถอะกลับไปรับรู้ ตาคู่นั้น

ไปนั่งมือเท้าคางอยู่กลางชาน

อ้าปากหวอ ฟังนิทานตำนานสวรรค์

ฟังเรื่องยาย  เรื่องตา  เรื่องสารพัน

เรื่องกระต่ายบนดวงจันทร์ แม่สรรมา

ไปไหม...ไปด้วยกันสักวันไหม

ไปให้แม่ ดีใจ ลูกไปหา

แม่ยังรัก ยังห่วง ดังดวงตา

ขอค่ารถแม่ตอนลา...ยังน่ารัก

 

(บทกวีโดย สุขุมพจน์  คำสุขุม)

 

หมายเลขบันทึก: 69869เขียนเมื่อ 28 ธันวาคม 2006 12:13 น. ()แก้ไขเมื่อ 28 เมษายน 2012 11:19 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (20)

เข้ามาเสพความห่วงหาห่วงใยของแม่จากอ้อมกอดแสนอบอุ่นของบทกวีค่ะ อ่านแล้วอยากกลับบ้านจัง เมื่อสักครู่พี่สาวโทรมาค่ะ บอกว่าให้กลับบ้านในช่วงเทศกาลปีใหม่ เพราะหากกลับหลังจากนี้คงไม่ได้เจอกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาพ่อแม่พี่น้อง และหลาน ๆ ค่ะ ก็เลยกำลังตัดสินใจอยู่...มาอ่านบันทึกนี้แล้วอยากเก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋าเดินเท้าเปล่าไปเหยียบพื้นดินท้องนาที่บ้านเหมือนกันค่ะ

เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะกับประโยคนี้ "เพราะความคิดที่ว่า "ใกล้" นั่นแหละ  ที่ทำให้เธอเริ่มห่างเหินจากบ้าน" เพราะตอนที่ทำงาน (ยะลา) ส่วนบ้านอยู่สงขลา เพราะความคิดว่าใกล้บ้านนั่นแหละค่ะ กลับเมื่อไรก็ได้แต่เผลอแป๊บเดียวอ้าวเกือบปีแล้วเหรอ...แต่พอมาเรียนต่อเพราะคิดว่าไกลจะไม่ได้กลับ...ก็เลยกลับมันซะทุกเดือน ๆ ละครั้งค่ะ...เป็นความใกล้ที่ห่างเหินจริง ๆ ค่ะ 

ว้า...ปีใหม่นี้คุณแม่ไปเยี่ยมหลานๆและครอบครัวพี่สาวค่ะ // อดกอดคุณแม่เลย

มาเยี่ยม...ใกล้ปีใหม่

มาชื่นชมมุมคิดที่ดี ๆครับ

ขอบคุณครับ

  • ขอบคุณในทุกถ้อยคำ นะครับ
  • อาจารย์เสกสรรค์ ประเสริฐกุล  กล่าวไว้ในเรื่องสั้น "คนกับเสือ"   มีตอนหนึ่งที่กล่าวถึงบ้าน ผมชอบมาก คือ  "ในเมื่อที่นี่เป็นบ้าน หวนคืนใยต้องมีเหตุผล"
แล้วพี่จะกลับบ้านเื่มื่อไหร่ละครับ ใกล้ๆแค่สหัสขันธ์เองนี่นา

คุณ นายบอน!-กาฬสินธุ์

  • กลับบ้านเช้าสาย ๆ ของวันเสาร์  เพราะคงต้องดูละคร จักร ๆ วงศ์ ๆ เสียก่อน ...5555
  • แล้วคุณบอนล่ะครับ มีโปรแกรมสัญจรไปที่ใดบ้าง
  • กระนั้น ก็ขอให้มีความสุขในเทศกาลปีใหม่ และทุก ๆ วันของชีวิต นะครับ
ดีนะครับ ที่พี่ติดแค่ละครจักรๆวงศ์ๆ นึกว่าติดละครเกาหลีด้วย ไม่ั้ั้งั้นได้กลับตอนเที่ยงแหงๆ

สุขสันต์ในเทศกาลปีใหม่เช่นกันครับ ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ไหนก็ตาม

DSS@MSU ( หนิง )

  • ขำ อะไร ครับ เจ้
  • เพิ่งตื่น  หรือ ยังไม่นอนกันแน่
  • สำหรับผมคงรู้นะครับ เพิ่งตื่นขึ้นมาทำงาน
  • ขำแฟนละครจักรๆวงศ์ๆไงคะ
  • ยังไม่ได้นอนเลยค่ะ  เพิ่งกลับมาจากตักศิลา ไง  แต่กำลังจะขอตัวแล้วหละค่ะ  ราตรีสวัสดิ์นะคะ
หาตัวช่วยหรือครับ รับมือนายบอนไม่ไหวแล้วหรือครับ
งั้น ฝากท่านหัวหน้าด้วยนะครับ บันทึกที่พี่หนิงระบุมาน่นแหละครับ
  • ก็เท่าที่รู้จากคุณหนิง
  • ก็เห็นจะมีแต่คุณบอนนี่กระมังที่แวะวนเป็นคู่รักคู่กรรม เป็นแขกประจำชกคำต่อคำกันในทุก ๆ ยก
  • ผมจะเชียร์ หรือ เป็นกรรมการกันดีละ

blog ของน้องหนุ่ยค่ะ คุณพนัส  รบกวน ลปรร ให้น้องหนุ่ยด้วยสิคะ

  • กำลังแกะรอย....สักครู่ครับ เจ้

ส่วนนายบอน เค้าเป็น Modurator ค่ะ  ^__*  ฝากข้อคิดกระตุ้น blogger ทั่วแหละค่ะ  แต่สงสัยพี่หนิงเป็นคนเฉื่อยเลยกระตุ้นกันบ่อยๆไง

ไปแล้วๆ ขอตัวน๊า

  • เห็นตอนขึ้นต้นบันทึก
  • นึกว่าคุณแผ่นดิน จะเปลี่ยนใจไม่กลับบ้าน
  • กลายเป็นเปลี่ยนใจคนอื่นแทน
  • กลอนเพราะมาก อ่านแล้วขนลุก
  • โชคดีที่แม่อยู่ใกล้ๆ กำลังว่าจะพาแม่ไปเที่ยวไหนดี ปีใหม่นี้
  • สวัสดีปีใหม่ ทุก ๆ คนนะครับ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท