ประชุม PCT ตาครั้งที่ 3/2550


มีคนทำแล้วแต่คนอื่นไม่รู้ ไม่ได้ใช้เครื่องมือนี้ ทำให้ปัญหาแก้ไม่จบ

วันนี้ได้เข้าประชุม PCT ตาตอนบ่ายสองโมงคร้าบ

ระหว่างนั้นนึกไปพลางๆ คิดว่าเนื้อหาที่จะพูดมันจะแรงไปไหมน้า (ถ้ายังแรงไปก็ขออภัยด้วยนะครับ ไม่มีเจตนาให้ใครโกรธนะคับ)

พอไปถึงจริงๆ พบว่าบรรยากาศเป็นกันเองมาก...

คุณหมอสุกัญญาเป็นประธานนั่งหัวโต้ะร่วมกับคุณหมอกวิน

โดยเริ่มจากเอาประเด็นเก่าที่ค้างคามาคุยกันต่อก่อนครับ

คราวก่อนผมไม่เข้า+เป็นเรื่องการปฏิบัติของพยาบาลมากกว่าผมเลยนั่งฟังอือออไป

เสร็จแล้วมาเข้าประเด็นเรื่องอื่นๆ โดยคุณหมอให้ผมเสนอก่อน ขอบคุณครับ

 ผมแจกชีทข้อเสนอให้ทุกคนอ่าน พอดีเห็นว่าจะมา 15 คนเลยเตรียมพอดี ใครไม่ได้ก็อ่านที่นี่ได้ขอรับ แหะๆ

แล้วสรุปเนื้อหา 4 ข้อ จบใน 5 นาที

  • เรื่องยาตัวอย่างที่มีน้อยนิด ว่าจะคุยกันก่อนจะมีการใช้
  • ยาเตรียม 3%NACL ที่ฝ่ายผลิตทำมาใหม่มีอายุยาวถึง 2 เดือนแล้วครับและ ยาเตรียมตาแบบอื่นๆ อยากให้มารับช่วงบ่ายถ้าเป็นไปได้
  • วันหมดอายุยาตาหลังเก็บตู้เย็น คุณหมอกวินได้พูดสาเหตุที่ให้ยาอยู่ 2 เดือน ผมก็พึ่งถึงบางอ้อครับ ตกลงกันเข้าใจครับว่าให้อยู่ได้เดือนเดียวหลังเปิดใช้ยาครับ
  • ลำดับการใช้ยาตา ความรู้ใหม่มากของผม
    คือ คุณหมอกวินอยากให้น้ำตาเทียมหยอดตัวแรกสุด ถ้ามีหลายตัวเพราะ กลัวว่าน้ำตาเทียมจะไปล้างออกหรือเจือจางยาอื่นลง ยาAntibiotic เป็นตัวสุดท้ายของยาหยอดเพราะอยากให้ออกฤทธิ์นานที่สุด ส่วนยาป้ายเป็นตัวสุดท้ายอยู่แล้ว (เหมือนเดิมครับ)
  • มีการถกกันเล็กน้อยเรื่องการสอนวิธีใช้ยาตาครับ เพราะเราไม่เคยร่วมกันจริงๆ เรื่องการสอน คือ ถ้าคุณหมอว่างก็จะสอนแต่ถ้ายุ่งติดพันก็มาที่ห้องยา ทำให้ผมคิดว่าควรมาคุยกันรายละเอียดให้ตรงกันคราวนี้ครับ
    • พอผมพูดจบได้งานมาเพิ่ม 2 อย่าง คือ

      1. แจ้งยอดยาตัวอย่างรายอาทิตย์+แจ้งอีกทีถ้ายาหมด

      2. ทำอัลบั้มยาตา ช่วยคุณหมอที่ไม่มียาแสดงให้คนไข้ดูทำให้สอนคนไข้ลำบาก+เช็คดูว่าคนไข้ได้รับและใช้ยาถูกต้องไหม ว่าจะลองคุยเวชนิทัศน์ก่อน ไม่ก็ลองคุยกะพี่เอ้ว่าช่วยได้ไหม-มีข้อระวังนิดตรงที่ยาถ้าเปลี่ยนยี่ห้อทีหรืออัพเดตที ต้องมาแก้ไขด้วย (เอาอันเก่ออกใส่ตัวใหม่เข้าไป)

    • การบ้านอีกอย่าง คือ ยาตา 3%NACL เอามาพ่นได้ไหมเพราะที่ตึกเองมีเคสใช้แค่ 4 ML แต่ต้องเบิก ขวดใหญ่ 450 ML ซึ่งมันค่อนข้างเปลือง (เปิดแล้วอยู่ได้วันเดียว) ก็จะลองถามฝ่ายจัดซื้ออีกทีนะครับว่าจะมีแบบหลอดจิ๋วมาไม๊

แต่ต่อจากผมมาบรรยากาศก็ค่อยๆ ร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ

ประเด็นที่ถกกันร้อนที่สุด คือ เรื่องการส่งตรวจคนไข้ตาไปแผนกอื่นๆ

เหตุเกิดจากพี่นุ เถียงเด็ดขาดว่าพี่ได้ทำตรงนี้แล้วแต่คุณหมอและคนอื่นๆ หลายคนบอกว่าไม่เคยรู้ไม่เคยเห็น

พี่นุเลยวิ่ง....ไปเอาตัวอย่างใบที่บอกว่า ตรวจที่ไหนบ้างมาให้ดู

เกือบทุกคนเลยถึงบางอ้อ ว่าใบนี้นี่เอง

พี่เล็ก (ศุภรัตน์) สรุปได้ว่าเกิดจากการสื่อสารไม่ทั่วถึง คือ มีคนทำแล้วแต่คนอื่นไม่รู้ ไม่ได้ใช้เครื่องมือนี้ ทำให้ปัญหาแก้ไม่จบ
เห็นด้วยคร้าบ (ผมเคยเห็นแต่ไม่รู้เหมือนกันว่าคืออันหยัง)

พี่นุเกิดอาการของขึ้นครับว่า แกทำมาหลายปีแล้วทำไมไม่เคยเห็นกัน...อูย โชคดีที่ผมอยู่ห้องยาเลยไม่โดนไปด้วย หุๆ

แต่พี่เล็กโดนครับ โดนเต็มๆ อิอิ

แล้วก็มีการถกกันครับว่าเหน็บไว้กับแฟ้มทำไมมองไม่เห็นกัน เลยคุยเสนอไอเดียมากมาย (เสียงแซ่ดกันทั้งห้องเลยนะ เสียงดังสุดก็เป็นพี่นุครับแกยังโมโหที่ไม่มีใครมองเห็นที่แกทำ แหะๆ)

จากการเสนอไอเดียจบลงที่ การแม็กเรียงกันเป็นแถวสวยตามลำดับในแฟ้มเพื่อให้ทุกคนได้รู้ว่าคนไข้ตรวจกี่แผนก แผนกไหนมั่ง

มีแย้งเล็กๆ ว่าระวังบังสติกเกอร์เเพ้ยาที่มุมแฟ้มนะครับ (ใครแย้งมะรู้ อิอิ)+กลัวว่าแฟ้มจะเยินหากแม็กอย่างนี้บ่อยๆ ปัญหาจุกจิกอีกสารพัดครับ (ต่อยอดปัญหากันเก่งจริงๆ) แต่คุณหมอสุกัญญาก็เสนอให้ลองทำกันดูครับ ทำไปคิดไปนะ

บรรยากาศร้อนตัดกับแอร์ที่เย็นเฉียบแต่สนุกดีครับ มีการหยอดมุกมาเรื่อยๆ คลายบรรยากาศได้ไม่น้อย

ในทางกลับกันครับ หน่วยอื่นก็ไม่รู้เหมือนกันว่า เรามีการเตือนว่า คนไข้แพ้ยาได้จากตัวโปรแกรม ถ้าคนไข้แพ้ยาและมีการยืนยันที่เราแล้ว จึงมาลงข้อมูลในเครื่องคอมพิวเตอร์

แต่ปัญหาส่วนใหญ่จะเป็นว่าคนไข้ไม่รู้ว่าแพ้ยานะสิ เฮ่อ จนปัญหาครับ(อย่างน้อยก็ลดเรื่องแพ้ยาซ้ำละนะ)

เป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ที่ดีครับ ได้ยินอะไรที่ไม่รู้มามากมาย

จบด้วยประฑานบอกนัดครั้งต่อไป 24 มค.50 ครับ

ปล. มีเรื่องเกี่ยวกะเบาหวานด้วยครับ ได้รู้ว่าคนไข้เบาหวานหยอดยาขยายตายาก ต้องใช้โดสมาก+ทิ้งเวลานานกว่าคนปกติ มีคนเสนอกันคนเบาหวานตรวจวันอื่นได้ไหม แต่ก็พูดยากครับจะให้คนไข้วันนึงมาตรวจอย่างนึงก็ดู...นะ

บันทึกพิมพ์ด้วยความเร่งรีบกลับไปบ้าน ด้วยเวลา 38 นาที (ขอไม่แต่งละครับ รีบไปแย้ว)

 

หมายเลขบันทึก: 69731เขียนเมื่อ 27 ธันวาคม 2006 16:54 น. ()แก้ไขเมื่อ 13 มิถุนายน 2012 08:17 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)
แวะมาสวัสดีปีใหม่กับบรรยากาศการสอนหนังสือที่ชายแดนอันหนาวเหน็บ
เข้ามาเยี่ยมค่ะ

ขอบพระคุณครับคุณจันทร์เมามาย

  • เล่าได้บรรยากาศดีมาก ซึ่งเหมือนๆ กันในการประชุม ที่ช่วยกันระดมสมองกันขนาดหนักเช่นนี้

ขอแลกเปลี่ยนบางประเด็นครับ

  • การลดอุบัติการแมกซ์ตำมือ และบาดมือผู้ปฏิบัติงาน ทำได้ยากครับ เพราะถึงแม้ จะมีซองพลาสติกใส ในหน้าแรกของเวชระเบียน (ของศิริราช) เอาไว้ใส่กระดาษจิปาถะ เช่นสติกเกอร์ชื่อ HN ใบนัด ฯลฯ  แต่ผู้ปฏิบัติงาน ก็ยังชอบแมกซ์ที่ปกหน้าอยู่ดีครับ

หมอสุข 

พี่ขจิต

สวัสดีปีใหม่ล่วงหน้าเช่นกันขอรับ ทำไมไปซะไกลเลยละครับ

ผอ.อัจฉรา

ขอบคุณที่มาเยี่ยมคร้าบ

ขอบคุณคุณหมอสุข ที่มาแลกเปลี่ยนครับ

  • ตอนแรกใช้ตัวหนีบอยู่ครับแต่เนื่องจาก เอกสารที่ต้องการโชว์มากขึ้นเรื่อยๆ เช่น บัตรคิว, ใบตรวจ, แพ้ยา ทำให้มันซ้อนกันมองไม่เห็นเพื่อให้ทุกคนที่ใช้เห็นชัด เลยลงเอยที่การแม็กซ์นี่ละครับ จะได้กระจายไปมองปราดเห็นชัดและมั่นใจว่าไม่หลุดหายไประหว่างทาง
  • ส่วนที่ศิริราศทำซองพลาสติกก็ดี ผมไม่เห็นภาพ เดาว่าเหมือนซองใส่ยาไหมครับ

ขำๆกับประโยคนี้ค่ะ "ต่อยอดปัญหากันเก่งจริงๆ "

ถือว่าเป็นเคล็ดลับ KM ด้วยมั้ยเนียะ

พี่พัชรา

  • ผมใช้คำว่าเก่งครับ เพราะการคาดเดาทุกอย่างมาจากประสพการณ์จริงๆ รู้ว่าจะมีปัญหายังงี้ๆ นะ
  • ถ้าต่อแล้วช่วยกันแก้ได้ถือว่าดีครับ
  • แต่ถ้าคาดเดากันไปเรื่อยๆ ผมว่าไม่ดีครับ เพราะจะรวมกระจุกปัญหาไป แล้วจะกลัวกันใหญ่ (ไม่มีคนเสนอการแก้หรือวิธีแก้ไม่พอกับปัญหาครับ เหอๆ)
  • ที่สุดแล้วต้องลงไปลองปฏิบัติดูครับว่า ทำแล้วมันมีปัญหาจริงไหมแล้วมันมีวิธีแก้ได้ไหม

สวัสดีปีใหม่ครับ ท่านจันทร์ฯ

สวัสดีปีกุน

ผมมาเมียงๆมองๆหลายครา ว่าแต่เวทีในที่ทำงานท่าน ดุเดือดกันจริงๆ

ที่ไหนมีปัญหาให้แก้ไข ก็หมายถึงที่นั่นมีการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง

ขอให้ท่านมีความสุข สุขภาพดี และอบอุ่นด้วยคนเข้าใจ(พิเศษ) ตลอดปีใหม่ และปีต่อๆไปนะครับ

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท