"รักวัวให้ผูก รักลูกให้ตี" สำนวนนี้ทุกท่านคงเคยได้ยิน
ทำไมรักวัวจึงให้ผูก
เพราะการผูกวัว คือการใกล้ชิดวัว เหมือนเพลงลำวงสมัยก่อนที่ว่า "ใกล้เข้ามาอีกนิด ชิดเข้ามาอีกหน่อย สวรรค์น้อย ๆอยู่ในวงฟ้อนรำ..."
การอยู่ใกล้ชิดเป็นการสร้างความคุ้นเคย ที่ทำให้ทั้งคนและวัวอยู่ด้วยกันราบรื่นชื่นสุข
เราๆ ท่าน ๆจะพบเห็นคนเลี้ยงโคตามหมู่บ้านจะนิยมจูงวัว ไปเลี้ยง หรือจูงวัวไปผูกตามหัวไร่ปลายนา หรือจูงวัวไปค้า
วัวก็จะเดินตามเจ้าของต้อย ๆ ไม่ดุร้ายเหมือนวัวเมืองกระทิงดุแถวๆ สเปนโน่น
ที่วัวเจ้านั้นเชื่องเดินตามเจ้าของเพราะถูกเลี้ยงและถูกฝึกมาตั้งแต่เล็ก
เมื่อวานนี้ได้มีโอกาสไปเยี่ยมฟาร์มลูกศิษย์
เขามีโรงเรือนและคอกพักที่แน่นหนา แต่ไม่ชอบขังวัวไว้ในคอก จะใช้วิธีจูงไปผูกตรงนั้นตรงนี้เรื่อย ๆ และใช้อาหารล่อหลอกให้วัวทำตามคำสั่ง ลูกโคก็ฝึกป้อนหญ้าด้วยมือและลูบหัวเบา วันดีคืนดีก็แปรงขนให้ด้วย ผลที่ได้ตอนนี้ เดินไปไหนวัวทักทายด้วยการผงกหัวกันเป็นทิวแถว ส่วนวัวตัวเล็กตัวน้อยก็วิ่งตามกันเป็นพรวน ไม่ว่าจะฉีดยา ตีเบอร์ก็ง่ายไปหมด
ขนาดเราเป็นคนอื่นวัวก็ไม่ตื่น จนต้องออกปากเตือนลูกศิษย์ว่า เชื่องมากก็อันตราย เดี่ยววัววิ่งตามชาวบ้านไปไกลแล้วจะยุ่ง
ก็คงเหมือนกับคนเราที่ไม่ต้องการถูกขัง ต้องการคนเอาใจใส่ดูแลความไว้เนื้อเชื่อใจก็จะเกิดขึ้น
ดังที่พ่อครูบอกว่าไม่ควรขังแม่โค หรือลูกโคไว้ต่างหาก ควรผูกหรือจูงไปมาเพื่อให้คุ้นเคยกับคนจะทำให้โคเชื่อง หรือทำให้แม่โคไม่หวงลูกและดุร้ายอีกต่อไป
ท่านใดมีเคล็ดไม่ลับดี ๆ ในการเลี้ยงโคให้เชื่อง ช่วยบอกต่อด้วยค่ะ
ขอบคุณค่ะ
เงื่อนไขของการถูกขัง คือการได้รับการปลดปล่อย
เงื่อนไขของการปลดปล่อยคือสิทธิและหน้าที่
สิทธิคือสิ่งที่ควรมี หน้าที่คือสิ่งที่ต้องทำ
วัวมีหน้าที่อย่างหนึ่งคือกินหญ้า
ดังนั้นสิทธิอย่างหนึ่งของวัวคือการได้เลือกหญ้ากินเอง
ใครเลี้ยงใครก็เป็นประเด็นที่ต้องวิเคราะห์วิจารย์ให้ชัดครับ
ขอให้เขียนเรื่องนี้ด้วย
สิทธิของวัว และสิทธิของ "เจ้าของวัว" ก็น่าสนใจเช่นเดียวกัน
เราคงมีคำตอบนะครับ
ไม่งั้นเสียชื่อคนบุรีรัมย์แย่เลย
อาจารย์แสวงที่เคารพ
ใครเลี้ยงใครระหว่างคนกับวัว คงอยู่ที่เจ้าของวัวเป็นหลักค่ะ
เพราะถ้าคนเลี้ยงวัวอย่างดี ด้วยความรักและใจใส่ ผลผลิตที่ได้จะกลับมาเลี้ยงเจ้าของวัวได้ในตัวของมันเอง
แต่ถ้าสักแต่ว่าเลี้ยง แล้วหวังว่าวัวจะเลี้ยงตัวเองต่อไปรับรองจอดไม่ต้องแจวทุกราย
ขอบคุณค่ะ
ผมเปิดประเด็นให้วิเคราะห์นะครับ
ตัวอย่างเช่น
ถ้าคนเลี้ยงวัว
ถ้าวัวเลี้ยงคน
อยากให้ลองวิเคราะห์จริงๆ แล้วจะเห็นภาพการจัดการความรู้ที่แตกต่างกัน
แน่ๆ ไม่เชื่อก็ลองดู
เรื่องนี้น่าจะอยู่ในกรอบวัตถุประสงค์การเลี้ยงครับ
แล้วแจงเป็นชุด และการจัดการความรู้อีกทีหนึ่ง
ผมสงสัยว่าคุณคิดว่าผมพูดเล่นละมั้งครับ
บางทีอาจจะใช่ เช่นเรื่องพ่อบ้านผอม
แต่บังเอิญไม่ใช่คราวนี้ครับ
ขอบคุณค่ะอาจารย์ ที่ช่วยเพิ่มประเด็นวัตถุประสงค์ให้อีกทำให้มองเห็นประเด็นการเก็บข้อมูลเพิ่มขึ้นค่ะ
ขอบคุณค่ะ