และแล้วก็ถึงวันที่ชาวกิจการนิสิต ของ มมส หันมาพูดคุยเกี่ยวกับการจัดการความรู้กันซะที (ณ วันที่ ๒๕ ธ.ค. ๒๕๔๙ เวลาประมาณ ๙ นาฬิกาเศษ) โดยก่อนหน้านี้ คุณหนิง และข้าพเจ้า ได้กระโจนออกจากระบบหน่วยงานเข้าไปท่องแวะ แลกเปลี่ยน เรียนรู้กับท่านอื่น ๆ มาชั่วระยะสั้น ๆ
ข้าพเจ้านำเสนอประเด็นต่อที่ประชุมเกี่ยวกับ "ก้าวย่าง" หรือ "จังหวะก้าว" ของกองกิจการนิสิตที่มีต่อการ "จัดการความรู้" ๓ ประเด็น คือ
๑. ตั้งคณะทำงานในระดับองค์กร โดยมีบุคลากรที่หลากหลายตามสายงานมาเป็นคณะกรรมการขับเคลื่อนอย่างเป็นรูปธรรม
๒. จัดเวทีบรรยาย/เสวนาสร้างองค์ความรู้ในเรื่อง KM ในหน่วยงาน โดยประสานทีมงานของ มมส มาช่วยชี้แนะ ซึ่งให้บุคลากรทุกคนมีส่วนร่วมในการรับฟัง รับรู้ เพื่อให้เห็นความสำคัญของการจัดการความรู้ที่มีต่อ "ตนเอง" และ "สถาบัน" อันหมายถึง กองกิจการนิสิต และมหาวิทยาลัยมหาสารคาม และต้องไม่ลืมที่จะขยายแนวร่วมเครือข่ายไปสู่ "นิสิต" และ "องค์กรนิสิต" ในอนาคตอันใกล้ หรือแม้แต่การก้าวเดินไปพร้อมกันทั้งชาวกองกิจฯ และนิสิต ฯ
๓. กระตุ้นในชาวกองกิจการนิสิตสมัครเป็นสมาชิกและฝึกเขียนblog อันเป็นกระบวนการของการฝึกฝนทักษะการจัดการความรู้ของตนเอง สื่อสารแลกเปลี่ยนออกสู่สาธารณชน เพราะเมื่อวิเคราะห์ สังเคราะห์แล้ว กองกิจฯ มีศักยภาพและมีกิจกรรมสร้างสรรค์จำนวนมากที่ควรต่อการหยิบยกมา "แลกเปลี่ยน - เรียนรู้"
นอกจากนี้ข้าพเจ้ายังแสดงทัศนะว่า KM คือวัฒนธรรมที่ดีที่ควรมีอยู่ในองค์กร โดยเฉพาะการเป็น "สังคมแห่งการเรียนรู้" ...ส่วนรูปแบบการนำเสนอข้อมูลเป็น "สไตล์" ของแต่ละบุคคลที่สามารถจะรังสรรค์ขึ้นมาเป็นกลวิธีในการบอกกล่าว เล่าความ...แต่ก็ควรที่จะ เริ่มด้วยใจและมีการตกผลึกทางความคิดด้วยเช่นกัน
(ถามว่าจำเป็นมั๊ย) .ในโลกของการทำงานควรต้องมีจุดหมายปลายทางเสมอไปหรือไม่ ?
สำหรับข้าพเจ้าก็ยืนยันว่า "จำเป็น" และ "จำเป็นอย่างยิ่ง" การมีจุดหมายปลายทางช่วยให้เรามีทิศทางของการเดินทาง และเมื่อกำหนดจุดหมายปลายทาง เราก็ต้องออกเดินทาง....
ซึ่งข้าพเจ้าก็เชื่อว่า KM นี่แหละคือแนวทาง หรือกลไกหนึ่งในการที่จะนำพาเราไปสู่จุดหมายปลายทางของการทำงาน อย่างน้อยก็ช่วยให้เราได้สำรวจ สังเคราะห์และจัดหมวดหมู่องค์ความรู้ที่มี (หรือไม่มี) ในตัวของเราเอง เพื่อนำไปสู่การเสริมสร้างพัฒนาโลกทัศน์ของเราเองไปในตัว
กาลครั้งหนึ่ง โกวเล้ง กล่าวไว้ว่า
"...ความชื่นชมที่แท้จริงในการงาน
ย่อมเกิดขึ้นในขณะที่ท่านกำลังเคลื่อนไปข้างหน้า
มนุษย์ยังมีชีวิต ก็ต้องมีอุดมการณ์
มีจุดหมายก็ต้องก้าวเดินไป..."
และแล้วชาวกองกิจฯ ก็ได้เวลาเริ่มต้นกับคนอื่นซะที ...และบัดนี้....เราก็กำลังออกเดิน
ทุกย่างก้าวล้วนแต่สำคัญ "ถึงเราจะก้าวช้า แต่เราก็อย่าก้าวถอยหลัง"
ผมเชื่อมั่นว่ากองกิจการนิสิต เดินมาถูกทางแล้วครับเป็นกำลังใจให้กองกิจการนิสิต มมส. อย่างแรงครับ
วิชิต
คุณแผ่นดินครับ
ผมนำเอา"ยุทธศิลป์" บทหนึ่งของ ซุนวู มาเติมเต็มครับ เห็นว่า หากจะ "รุก" ต้องดูปัจจัยแห่งชัยชนะ ครับ
......
องค์กรสามารถมองเห็นชัยอยู่เบื้องหน้าจาก ๕ วิถีทาง
มองเห็นว่าเมื่อใดควรรุกและไม่ควรรุก ย่อมมีชัย
รู้ว่าควรใช้ทรัพยากรมากน้อยเพียงใด ย่อมมีชัย
ตอบรับวัตถุประสงค์ของทั้งผู้น้อยและผู้ใหญ่ ย่อมมีชัย
นอนรอและเตรียมพร้อมที่จะกระหน่ำเมื่อคู่แข่งหลวมตัว ย่อมมีชัย
สามารถนำโดยปราศจากการก้าวก่ายอย่างขาดระบบ ย่อมมีชัย
ผู้รู้วิถีทางทั้ง ๕ รวมถึง หลักธรรมะ คือ "ผู้ชนะ"
.........
เพื่อการก้าวรุกต่อไปครับ คุณแผ่นดิน