การผูกเสี่ยว ผูกมิตรไมตรี
ดร.ถวิล อรัญเวศ
เพื่อนดี มีค่ายิ่งกว่าทอง มนุษย์เราเป็นสัตว์สังคม ต้องพึ่งพาอาศัยกันและถ้อยทีถ้อยอาศัยกันได้
แต่การที่จะผูกมิตรไมตรีกันได้ บางครั้งก็ยากแสนยาก เพราะรู้หน้าอาจไม่รู้ใจ ดังนั้น หลักธรรม จะเสริมสร้างให้เราเป็นที่ไว้เนื้อเชื่อใจให้กับใคร ๆ ได้เสมอ
การผูกเสี่ยว ผูกเพื่อน หรือผูกมิตรไมตรีนั้น ในทางพระพุทธศาสนา ได้สอนให้คนเรารู้จักสงเคราะห์กันและกันในหมวดธรรมที่เรียกว่า “สังคหวัตถุ 4” อันได้แก่
1. ทาน
การรู้จักให้ คือการให้สิ่งของแบ่งปันซึ่งกันและกัน ให้ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กันและกัน ให้ความปรารถนาดีต่อกันและกัน สามารถให้ได้ทั้งวัตถุสิ่งของและการให้ที่ไม่ใช่วัตถุสิ่งของ
2. ปิยวาจา
การู้จักพูด พูดจาสุภาพอ่อนโยนต่อกันและกัน รู้จักทักทายพร้อมยกมือไหว้ แถมรอยยิ้มให้ด้วย การพูดจาเป็นสิ่งสำคัญ เพราะคนเราจะเป็นที่รักของเพื่อนๆ ประการสำคัญข้อหนึ่งคือ การรู้จักพูด มีวาทศิลป์นั้นเอง
3. อัตถจริยา
การรู้จักทำประโยชน์ต่อกันและกัน การบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อกันและกันหรือต่อมวลมิตร ญาติสนิท และคนทั่วไป ไม่นิ่งดูดาย
4. สามานัตตตา
การวางตัวเสมอต้นเสมอปลาย ให้เป็นที่เชื่อถือของเพื่อนๆหรือเหล่ามวลมิตร
กล่าวสั้นๆ ได้ว่า โอบอ้อมชาวประชา เจรจาไพเราะ สงเคราะห์ผู้คน เสมอต้นเสมอปลาย นี้แหละจะทำให้เราเป็นที่รักและได้รับความไว้วางใจจากเพื่อนๆ หรือผูกไมตรีจิต
มิตรภาพนั้นเอง
สรุป
หลักการผูกมิตรไมตรี
“โอบอ้อมอารี
วจีไพเราะ
สงเคราะห์ผู้คน
เสมอต้นเสมอปลาย”
ไม่มีความเห็น