ดีใจที่แม่ป่วย

😀ดีใจที่แม่ป่วย😀 #Ep1 

😕ลูกที่พูดคำนี้เป็นคนไม่ดี แช่งให้แม่ป่วย ไม่รักแม่ ไม่น่าคบหา บลา บลา บลา 

😒ผู้เขียนเชื่อแน่ว่า ประโยคเหล่านี้ ผุดในใจของคุณผู้อ่านหรือ คุณผู้ฟังทันที เพราะวลีนี้ ตามสัญญาเดิม (สัญญาคือความเชื่อเดิมๆ ค่านิยมเดิมๆในสังคม) แปลความหมายได้ว่า เป็นความรู้สึกยินดี ในสิ่งที่ทำความทุกข์ร้อนแก่บุพการี เปรียบดังการสนับสนุนให้เกิดความทุกข์นั้น 

😕ดังนั้น ผู้พูดคงมีเจตนาร้ายต่อแม่อย่างแน่นอน

 😍ช้าก่อนค่ะ….. หยุดความคิดนี้ไว้ก่อนสักครู่…. หายใจเข้า ยาว…… หายใจออก ยาว……สลับกันสัก 5 ครั้ง เข้า ออก เข้า ออก เข้า ออก เข้า ออก เข้า ออก เอาล่ะ คราวนี้ ลองคิดใหม่อีกครั้ง คิดใคร่ครวญ คิดตรึกตรอง อย่างแยบคาย

 😉เหตุใด? ผู้พูดจึงกล่าวคำพูดนี้ เขาคิดอะไรในใจ? เค้าดีใจ แสดงว่า เขาได้ประโยชน์จากการป่วยของแม่ ประโยชน์อะไรที่เขาได้จากการเจ็บป่วยของแม่ การเจ็บป่วยทำให้เกิดความทุกข์แก่ร่างกายและจิตใจของแม่ การเจ็บป่วยทำให้สูญเสียเงินทอง ทำให้ใช้เวลาในการไปพบแพทย์ ทำให้ต้องมีการดูแลใกล้ชิดแม่ ทำให้ต้องหาเวลามาดูแลแม่ ทำให้ต้องทำความเข้าใจอาการป่วยของแม่ ทำให้ต้องปรับอาหารให้แม่ ทำให้ต้องจัดยาให้แม่ คำตอบ มาแล้วค่ะ วลีทั้งหมดข้างต้นนั้นเอง ต่อไปนี้ คือเบื้องหลัง ของคำว่า ดีใจที่แม่ป่วย ผู้เขียน ได้แยกจากแม่ตั้งแต่อายุ 15 ปีเพื่อมาเรียนต่อที่ กทม. ระหว่างเรียน กลับไปเยี่ยมบ้านปีละ 1 ครั้ง และไม่เคยเห็นแม่ป่วย 20 ปีต่อมา แม่เริ่มป่วยด้วย โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไทรอยด์เป็นพิษ (เป็นมานานมากตั้งแต่แม่สาวๆ) กระเพาะปัสสาวะอักเสบ แม่รักษาตัวกับแพทย์ที่ปักษ์ใต้ ผู้เขียน ไม่เคยได้รับรู้อาการป่วยเลย เพราะสามารถควบคุมได้ด้วยยาและอาหาร (ซึ่งแม่ไม่ค่อยได้คุมเท่าไรนักเพราะแม่ทำงานค้าขาย กิจการยุ่งมาก) จนกระทั่ง ครั้งหนึ่ง ผู้เขียนมีโอกาสได้เข้าคอร์สเกี่ยวกับจิตใต้สำนึก กิจกรรมในคอร์สกระชากใจจนผู้เขียน ร้องไห้โฮ และกล่าวขอโทษแม่ด้วยความสำนึกผิดและน้ำตานองหน้าเป็นครั้งแรก (ตอนนั้น แม่ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์) เพราะทำให้แม่ทุกข์ทรมาณจากโรคไทรอยด์เป็นพิษนานถึง 4 เดือน เพราะการตัดสินด้วยสัญญาเดิมของผู้เขียน… นั่นเอง ขอบพระคุณที่อ่านมาถึงบรรทัดนี้ค่ะ โปรดติดตามตอนต่อไปในตอนที่ 2 ค่ะ #ดีใจที่แม่ป่วยEp2 #ดูแลพระอรหันต์ในวันที่ท่านป่วย #นภัสราพรเด่นพงศ์พันธุ์