เมื่อ 2 อาทิตย์ก่อน มีอาการปวดหัวจี๊ด เหมือนถูกบีบ แต่คิดว่าคงจากเครียด..พยายามหากิจกรรมผ่อนคลายและกินยาพาราเซตามอล ไปก็หายล่ะ..คืนแรกนอนหลับสบาย แต่พอวันที่ 2 มีอาการบ้านหมุนขณะนอนหลับอยู่..หมุนแบบตีลังกาทั้งๆ ที่ยังหลับตา ก็เออ ! ปล่อยมัน.. เดี๋ยวก็คงหายเอง เช้าตื่นมาลุกขึ้นนั่ง มันก็ยังหมุนอีก ก็นั่งจนหายหมุน พอทรงตัวเดินได้ ก็เดินทำภาระกิจตามเคย..แต่พอเดินไปก็เซนิดๆ แต่ก็ถึงห้องน้ำได้ ก็ไม่นึกว่าจะมีอาการคลื่นไส้ ยืนเกาะซิ้งน้ำโอ้กอ้ากมาก..ไม่หยุด จนต้องนั่งมากอดชักโครกอ๊วก..ซะหมดแรง..
…สามีไปตัดกิ่งไม้ยามเช้า ชิวกับธรรมชาติ คือเธอไม่นึกว่าภรรยาเธอกำลังลำบากเล๊ยยยย..เพราะสีหน้าคนอ๊วกมันปกติมาก..แค่มีอาการเสมือนคนเสียศูนย์ เดินเกาะกำแพง หน้าตรงแบบม้าลำปาง เลยต้องเอายปากบอกว่า..ชั้นบ้านหมุน ขับรถไม่ได้ ไปทำงานไม่ได้ ลาป่วยล่ะ แล้ววันนี้พาไปหาหมอด้วย…(คนเราแต่งงานมา 20 กว่ากว่าปีแล้ว ก็เป็นธรรมดาค่ะ..หมดโปรล่ะ ) ก็นอนรอคุณสามีไปทำงาน แล้วรอหมอเปิดคลินิกตอนเที่ยง
ไปหาหมอที่คลินิกตอนเที่ยง ..เล่าอาการให้ฟัง..หมอเลยวินิจฉัยว่า “ประสาทการทรงตัวอักเสบ” ได้ยามากินก็ดีขึ้น แต่ยังไม่ปกติแล้วแต่ละอาทิตย์ที่ไปตรวจซ้ำก็จะต้องจ่ายประมาณ 500 บาท แล้ววันนี้เจอเพื่อนๆ ที่มีอาการเหมือนกัน แถมหนักกว่าเราอีก มีอาการขนาดตาดำกระตุก อ๊วกหลายครั้ง ขนาดไปเป็นวิทยากร เราเลยเบาเลย..อาการน้อยเลย..แต่เรียนรู้ว่าโรคนี้เป็นระยะยาวไม่หายขาด เลยต้องย้ายไปรักษาที่รพ.รัฐบาลแล้วล่ะ..ต้องประหยัดค่าใช้จ่ายกันหน่อย..ครั้งละ 500 ทุกอาทิตย์ เดือนนึงก็ 2000 ถ้าเป็นปีก็ 24000 ล่ะ ประหยัดได้ก็ต้องประหยัดเพื่อแผนชีวิตหลังออกจากราชการ
ไม่มีความเห็น