ปลูกบัว เลี้ยงปลาและทำนาโยน
ยิ่งใกล้เกษียณ ก็ยิ่งสนุกมากขึ้นกับกิจกรรมทางการเกษตร ในพื้นที่ ๔ ไร่ มีน้ำมีไฟเรียบร้อย หลายเดือนที่ผ่านมา ยังมองดูโล่งๆ แต่ตอนนี้ไม้ยืนต้นบดบัง ทำให้มองดูเขียวและร่มรื่นมากขึ้น
บริเวณพื้นที่ที่เป็นโคกประมาณ ๑ ไร่เศษ ที่วางแผนไว้จะให้มีบ้านหลังเล็กๆตั้งอยู่ ตอนนี้ปลูกผักสวนครัวไปก่อน โดยรอบเป็นสระใหญ่และคลองเล็กๆ ส่วนที่เหลืออีก ๑ ไร่ ผมแบ่งเป็น ๒ ส่วน ส่วนหนึ่งปลูกต้นไม้ในเนื้อที่ ๒ งาน ที่เหลืออีก ๒ งานเป็นพื้นที่นาที่ยังไม่ได้ทำอะไรเลย……
ผมเคยชำระสะสางต้นหญ้าที่ขึ้นในนาไปแล้วครั้งหนึ่ง วันนี้ให้รถไถมาดำเนินการอีกรอบ เพื่อที่จะบริหารจัดการอย่างใดอย่างหนึ่ง ให้เป็นรูปเป็นร่างแบบจริงจังเสียที
วางแผนแบบทรีอินวัน ตามกำลังแรงกายที่มี เน้นความเรียบง่ายและใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์ ตกลงว่าจะปลูกบัว เลี้ยงปลาและทำนาโยน
บัวที่เลี้ยงง่ายขยายพันธุ์เร็ว คือบัวหลวง ผมไม่ต้องซื้อเลย เพราะที่โรงเรียนมีเยอะ ตั้งใจว่าจะปลูกบัวเพียง ๑ ส่วน หรือร้อยละ ๓๐ ของพื้นที่ ๑ งาน
อีก ๑ ส่วน คือร้อยละ ๒๐ ของพื้นที่ ผมกั้นเชือกกำหนดจุดไว้แล้ว คิดไว้ว่าจะใช้ผ้าไนล่อนสีฟ้า ขนาดความสูง ๑.๒๐ เมตร กั้นเป็นบ่อสี่เหลี่ยมเพื่อเลี้ยงปลา เริ่มด้วยปลานิลก่อน วันนี้ผมไปซื้อลูกปลาหลายสายพันธุ์มาลงสระใหญ่ ผมเหลือปลานิลไว้ ๑๐๐ ตัว สำหรับเลี้ยงเป็นพิเศษในแปลงนา
พื้นที่สุดท้ายอีก ๑ ส่วน หรือร้อยละ ๕๐ หรือครึ่งหนึ่งของที่ดิน ๑ งาน ผมเตรียมไว้สำหรับทำนา จะทำแบบนาโยน ตอนแรกผมคิดว่าจะหว่านแบบง่ายๆ แต่เห็นว่าแปลงนายังพอมีน้ำ ถึงแม้จะไม่มีต้นกล้าสำหรับดำนา ใช้วิธีการโยนก็ได้ แต่ต้องลงทุนลงแรงนิดหน่อย
ผมจึงเตรียมเพาะต้นกล้าจากพันธุ์ข้าวขาวมะลิจำนวน ๑ กก. ลงมือเพาะเอง ในถาดสีดำและในแปลงใหญ่ ประมาณ ๑๐ – ๑๕ วัน น่าจะถอนต้นกล้าไปโยนลงนาได้ และโคนต้นกล้าต้องมีดินติดอยู่ด้วย เวลาโยนลงไปจะได้ปักลงดิน ต้นกล้าจะได้รอดและเจริญเติบโตอย่างมีประสิทธิภาพ
ผมใช้เวลาเพียง ๒ วัน งานที่วางแผนไว้บรรลุวัตถุประสงค์เกือบครึ่งทาง บัว สามารถปลูกได้เรื่อยๆ ไม่ต้องรีบร้อน ส่วนปลาต้องรอล้อมด้วยผ้าไนล่อนก่อน จึงจะปล่อยปลาได้ ส่วนนาโยนที่ต้องใช้ต้นกล้าแบบทำมือ ก็อุ่นใจได้ว่าได้ตระเตรียมแล้ว
ปลายปีนี้..น่าจะได้เห็นความคืบหน้าของผลงาน การบริหารจัดการพื้นที่ ๑ งาน หรือ ๑๐๐ ตารางวา มีความเป็นไปได้แค่ไหน สำหรับการปลูกบัวหลวง การเลี้ยงปลานิลและทำนาโยน ประจำปี ๒๕๖๔ เป็นปีที่หวาดเสียวกับโควิด แต่ชีวิต...ยังต้องเดินหน้าต่อไป
ไม่มีความเห็น