๑๐๘ เชอรี่..ที่โคกหนองนา


ผมรีบกลับบ้าน บอกลูกชายด้วยความตื่นเต้นดีใจ ว่าในคลองไส้ไก่ของเราก็มีหอยเชอรี่ที่กินได้ แต่ว่าเราจะทำอะไรกินกันดีล่ะ อันนี้คือปัญหาของเมนูหอยในวันนี้

          ความรู้สึกบอกว่าเป็นความประทับใจแรกเลย ตั้งแต่ทำเรื่องโคกหนองนามาเป็นเวลา ๒ ปี มีพัฒนาการให้เห็นเป็นลำดับ ตั้งแต่ไม้ยืนต้นโตขึ้น แบบสูงท่วมหัว พืชผักสวนครัวได้เก็บกินและแบ่งปันเพื่อนบ้าน ยังไม่ถึงขนาดจัดจำหน่ายสร้างรายได้แต่อย่างใด แค่คิดว่าได้กินผักสดปลอดสารพิษ ได้ใช้ชีวิตชิวๆบนโคกหนองนา..ก็พอแล้ว

          แต่แล้ว..เรื่องราวธรรมดาๆ แต่ไม่ธรรมดาสำหรับผมก็เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตา เป็นเรื่องดีและมีความสุข อย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน  โคกหนองนา..ทำให้ผมประทับใจ เริ่มมองเห็นกำไรอย่างชัดเจน..หลังจากตั้งใจขาดทุนมาตลอด

          ผมเลิกงานที่โรงเรียน จากนั้นจะเข้าไปในสวนในช่วงเย็น สวนที่ว่าก็คือสวนครัวอยู่ในรั้วที่มีของกินได้มากมาย ปลูกไว้ใจกลางโคกหนองนาที่มีคลองไส้ไก่ล้อมรอบ

          ผมเปิดประตูรั้วเข้าไป..ใจก็คิดว่าวันนี้จะทำอะไรดีระหว่างถางหญ้ากับพรวนดิน หรือไม่ต้องทำอะไรเลย เดินไปเดินมาสูดอากาศก็พอ

          “ครูคะ หนูขอเก็บหอยเชอรี่ไปทำกับข้าวนะคะ” ผมตกใจ หันไปมองเด็กผู้หญิงที่นั่งอยู่บนคันคลองกับพี่สาว นึกว่าใครที่แท้ก็นักเรียนชั้นป.๖ ชื่อเด็กหญิงแพรวา 

          ผมนิ่งอึ้ง กำลังนึกว่าเด็กเขาขออะไรนะ ได้ยินว่าเชอรี่ๆ เป็นชื่อหอยนี่นา  ที่สระน้ำของโรงเรียนก็มี  เคยเห็นครั้งสุดท้ายที่บ่อปลาดุก มีไข่สีชมพู และไข่ของมันอยู่ใกล้ๆกอผักตบชวา

          แต่ที่คลองไส้ไก่ที่โคกหนองนานี้ มีแต่ผักบุ้งทอดยอดยาว มีหอยเชอรี่ด้วยหรือ นึกว่ามีแต่เต่าที่กินผักบุ้ง หอยเชอรี่ก็ชอบด้วยอย่างนั้นหรือ แล้วเด็กจะเก็บไปทำไม..มันกินได้จริงหรือเปล่า?

          เด็กก็บอกชัดเจนอยู่แล้วว่าจะขอไปทำกับข้าว ผมจะให้เก็บกันง่ายๆคงไม่ได้ ต้องคุยกันก่อน เด็กหญิงแพรวาก็ยืนงง เห็นครูคิดนานเหลือเกิน ไม่ยอมอนุญาตเสียที

          “จะเอาไปทำกับข้าวอะไรรึ”  ผมถาม “หนูจะไปทำลวกจิ้มค่ะ”

          “กินได้ด้วยหรือ” ผมคิดในใจอีกครั้ง ไม่กล้าถามตรงๆแต่ผมกล้าจะบอกนักเรียนด้วยความอยากรู้อยากเห็น “เก็บเผื่อครูด้วยนะ” เด็กหญิงแพรวายิ้มพร้อมกับยกมือไหว้ผม “ค่ะ ขอบคุณค่ะ”

          ผมไม่ได้ทำไรเลย นั่งดูเด็กๆเก็บหอยเชอรี่อย่างเพลิดเพลิน ใช้เวลาไม่นานก็ได้หอย ๒ ถุง ผมมองเข้าไปในถุง..โอ้โห..ตัวมันใหญ่มาก

        “กินได้จริงๆครับ ผมดูในยูทูปแล้ว เดี๋ยวผมจะต้มแล้วนึ่งให้สุกอีกครั้ง จากนั้นจะตำส้มตำให้พ่อกินนะครับ” ลูกชายบอกผม...ทำให้ผมกลืนน้ำลายด้วยความอยากกินขึ้นมาทันที

         งานนี้ จะกินให้อร่อยต้องใจเย็นๆ กว่าจะเอาเนื้อหอยออกมาจากเปลือกที่ห่อหุ้มต้องใช้เวลานานพอสมควร พอต้มเสร็จก็เห็นสีสัน ดูคล้ายๆเนื้อปลาหมึกอยู่เหมือนกัน

         ผมอยากกินสุกๆมากกว่า การที่ลูกชายนำไปนึ่งอีกครั้ง ทำให้รู้สึกปลอดภัยไร้กังวล ขั้นตอนสุดท้าย เข้าสู่กระบวนการตำส้มตำ นำหอยเชอรี่คลุกเคล้าให้เข้ากันกับเครื่องปรุง เท่านี้ก็เรียบร้อย

        คำแรกในชีวิต ที่ลิ้มรสชาติของเนื้อหอยเชอรี่ ทั้งนุ่มและกรุบกรอบ อร่อยลิ้นเหลือเกิน เพลิดเพลินกับเมนูเด็ดที่ลงตัว ความสดใหม่ของเนื้อหอยเชอรี่ ทำให้คิดถึงปลาหมึกย่าง เคี้ยวจนลืมกลืนไปเลย

        ขอบคุณหอยเชอรี่... คุณค่าที่คู่ควรกับโคกหนองนา...ครับ

ชยันต์  เพชรศรีจันทร์

๒  สิงหาคม  ๒๕๖๔

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 691773เขียนเมื่อ 2 สิงหาคม 2021 21:43 น. ()แก้ไขเมื่อ 2 สิงหาคม 2021 21:57 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

พี่เคยเห็นแม่ค้า ต้มหอยเชอรี่ แล้วแกะเอาแต่เนื้อไปวางขายด้วยจ้ะ

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท