ได้แกงเทน้ำพริก
ได้แกงเทน้ำพริก
อาหารไทยเป็นอาหารที่มีเอกลักษณ์ และแสดงถึงภูมิปัญญาไทยที่สั่งสมและถ่ายทอดมาตั้งแต่อดีต ถือได้ว่าอาหารไทยเป็นวัฒนธรรมประจำชาติที่สำคัญของไทย อาหารไทยหลากหลายเมนูมีรสชาติถูกอกถูกใจชาวต่างชาติ และได้รับการยกย่องว่าเป็นอาหารอร่อยที่สุดในโลก เช่น แกงมัสมั่น ส้มตำและก๋วยเตี๋ยวผัดไทย
คนไทยกินข้าวเจ้าเป็นอาหารหลัก โดยนิยมข้าว 2 ชนิด คือ ข้าวเจ้าและข้าวเหนียว คนไทยภาคอีสานและภาคเหนือนิยมกินข้าวเหนียวเป็นหลัก ส่วนคนไทยภาคกลางและภาคใต้นิยมกินข้าวเจ้าเป็นหลัก
ภูมิประเทศทำให้คนไทยผูกพันกับสายน้ำ อาหารประจำครัวไทยประกอบด้วยปลาเป็นหลัก ทั้งปลาย่าง ปลาปิ้ง กินกับน้ำพริกต่างๆ กับผักสดที่หาได้จากรอบบ้าน หนองน้ำ ชายป่า หากจับปลาได้มากกินไม่หมดก็นำมาแปรรูปเก็บไว้ได้นาน ไม่ว่าจะเป็นปลาแห้ง ปลาเค็ม ปลาร้า
น้ำพริกเป็นอาหารหลักในสำรับกับข้าวไทยมาแต่โบราณ คนไทยนิยมน้ำพริกเพราะรสชาติที่กลมกล่อมครบรส เปรี้ยว เค็ม เผ็ด เจือหวานเล็กน้อยซึ่งทำให้กินข้าวได้มาก เพียงแค่มีน้ำพริกสักถ้วย กับปลาย่างปลาปิ้งที่หาได้จากแหล่งน้ำใกล้บ้านกับผักสดนานาชนิดที่มีอยู่รอบๆบ้าน เพียงเท่านี้ก็อิ่มอร่อยได้แล้ว
น้ำพริกซึ่งเป็นอาหารหลักในสำรับไทยมีหลากหลายชนิด วัตถุดิบหลักได้แก่ กะปิเผาไฟ โขลกกับเครื่องปรุงต่างๆในครก ได้แก่ กระเทียม พริกขี้หนู น้ำตาลมะพร้าวหรือน้ำตาลปี๊บ น้ำปลา มะอึก และมะนาว เมื่อทำเสร็จจะมีสีน้ำตาลอมม่วง โรยหน้าด้วยมะเขือพวงและพริกลูกโดด เป็นน้ำพริกกะปิที่กินกันโดยทั่วไป อาจมีการเพิ่มเติมส่วน ประกอบอื่นๆเข้าไปตามฤดูกาล เช่น มะขามอ่อน มะขามเปียก ระกำ กุ้งแห้ง กุ้งสด ปลาย่าง ปลาป่น แมงดา
น้ำพริกเป็นเครื่องจิ้มกินกับผักสดต่างๆ เช่น แตงกวา มะเขือ ถั่วฝักยาว สายบัว ยอดอ่อนของผักต่างๆ หรือจะกินกับผัดต้ม เช่น มะเขือเปราะ หน่อไม้ ชะอม กะหล่ำปลี ราดด้วยกะทิเพิ่มความอร่อย พืชผักบางอย่างนำมาเผากินกับน้ำพริกก็เหมาะสมมาก เช่น หัวปลีเผา มะเขือยาวเผา หรือจะเป็นผักชุบไข่อย่าง ชะอมชุบไข่ มะเขือยาวชุบไข่ หน่อไม้ชุบไข่ก็ยิ่งอร่อยยิ่งขึ้น ถ้าได้กินน้ำพริกกับปลาทูทอด ปลาปิ้ง หรือไข่ต้ม ไม่ต้องบอกเลยว่าอาหารมื้อนี้เอร็ดอร่อยถูกใจเพียงใด
อาหารประเภทแกงเป็นอาหารที่มีขั้นตอนหลายอย่าง จึงไม่ค่อยได้ทำกินกันบ่อยนัก จะทำเฉพาะในโอกาสเทศกาลงานบุญเท่านั้น เวลาทำแต่ละครั้งก็ต้องมีการระดมแรงงานจากคนในบ้านมาช่วยกัน เริ่มจากการนำมะพร้าวแก่ที่เก็บมากองไว้ใต้ถุนบ้านเอามาปอกเปลือกออกจนเหลือแต่กะลา แล้วต่อยกะลาให้แตกเป็นสองซีก นำมาขูดเนื้อมะพร้าวออกจากกะลาด้วยกระต่ายขูดมะพร้าว เมื่อได้มะพร้าวขูดแล้วจึงนำไปคั้นเป็นหัวกะทิ หางกะทิแยกกันไว้ แกงแต่ละหม้อจะใช้มะพร้าวอย่างน้อย 2-3 ลูก ขึ้นอยู่กับเนื้อมะพร้าวด้วยว่าเนื้อบางหรือเนื้อหนา
ในสมัยก่อนไม่มีเครื่องแกงสำเร็จรูปขาย จะแกงแต่ละครั้งจะต้องตำเครื่องแกงเอง ซึ่งจะได้เครื่องแกงที่สดใหม่และถึงเครื่อง วัตถุดิบหลักของแกงไทย ได้แก่ พริกแห้ง ข่า ตะไคร้ ผิวมะกรูด หอม กระเทียม กะปิ และเพิ่มเติมตามชนิดของแกง เช่น เพิ่มรากผักชีในเครื่องแกงฉู่ฉี่ เปลี่ยนจากพริกแห้งเป็นพริกขี้หนูสดสำหรับแกงเขียวหวาน หรือเพิ่มกระชายในเครื่องแกงสำหรับแกงปลา
อาหารประเภทแกงชนิดต่างๆจึงเป็นอาหารที่ไม่ได้กินบ่อยๆเหมือนน้ำพริก เป็นที่มาของสำนวนไทยว่า "ได้แกงเทน้ำพริก"
ได้แกงเทน้ำพริก มีความหมายว่า ได้ของใหม่มาก็ทิ้งของเก่าที่มีอยู่โดยไม่เห็นคุณค่า
ที่มาของสำนวน
น้ำพริกเป็นอาหารประจำสำรับกับข้าวของคนไทยมาแต่โบราณ ส่วนกับข้าวอื่นๆอาจเปลี่ยนแปลงไปต่างๆ บางคนเมื่อเห็นว่ามีอาหารพิเศษอย่างอื่น ก็จะไม่จัดน้ำพริกขึ้นสำรับวันนั้น
สำนวนนี้จึงใช้เป็นคำกล่าวประชดประชันผู้ที่ได้ของใหม่แล้วลืมของเก่าทันที สำนวนนี้ปัจจุบันใช้ตรงไปตรงมาว่า "ได้ใหม่ลืมเก่า" มักใช้หมายถึงผู้ชายที่ได้ผู้หญิงคนใหม่แล้วลืมคนเก่า
ข้อคิดจากสำนวน "ได้แกงเทน้ำพริก"
โบราณนิยมใช้สำนวนนี้กับคนที่ขาดความมั่นคงหรือขาดความผูกพันกับของเดิม สิ่งเดิม เมื่อได้ของชิ้นใหม่ที่ถูกใจก็จะเลิกสนใจสิ่งเก่า หรือของชิ้นเดิมทันที สำนวนนี้สามารถนำไปใช้ได้หลายกรณี เช่น ได้แฟนใหม่ลืมแฟนเก่า ได้ภรรยาใหม่แล้วลืมภรรยาเก่า ได้รถคันใหม่แล้วลืมรถคันเก่า หรือ ได้ของเล่นใหม่แล้วลืมของเล่นเก่า
อย่างไรก็ตามการได้พบกับสิ่งใหม่ๆ ก็ทำให้ความรู้สึกดีขึ้น ประสบการณ์ใหม่ๆ ก็เป็นสิ่งที่น่าค้นหา ความรู้ใหม่ๆก็ทำให้เกิดความเฉลียวฉลาดรอบรู้ หรือการงานใหม่ที่ดีกว่าเดิมก็ทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น ...เลือกกินแกงให้อร่อยโดยไม่ต้องเทน้ำพริกน่าจะดี
ขอบคุณภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต
