บทความเรื่อง International higher education at a crossroads post-COVID เขียนโดย Philip G Altbach and Hans de Wit ใน เว็บไซต์ University World News บอกว่าหลังยุคโควิด International Higher Education จะไม่เหมือนเดิม เป็นโอกาสให้สถาบันอุดมศึกษาไทยกลุ่มมหาวิทยาลัยวิจัยระดับโลกได้เตรียมหาวิธีดึงดูดนักศึกษานานาชาติเข้ามาเรียน
หากเราทำให้การระบาดของโควิดสงบลงได้เร็ว พลังดึงดูดก็สูงขึ้น
ผู้เขียน (Altbach) ให้มุมมอง (ตามวิธีคิดแบบอเมริกัน) เรื่องปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ๕ ประการที่ขึ้นต้นด้วยอักษร C
-
Covid-19 การระบาดใหญ่ของโควิด ๑๙ บอกเราว่า มหาวิทยาลัยในอนาคตจะไม่เหมือนเดิม จะต้องใช้พลังของ ไอที เพื่อการเรียนรู้เพิ่มจากเดิมอย่างมากมาย และเนื่องจากสถานการณ์โควิดสอนเราว่า ปฏิสัมพันธ์ทางสังคมมีความสำคัญมากต่อการเรียนมหาวิทยาลัย สถาบันอุดมศึกษาจึงต้องพัฒนาวิธีการสร้างปฏิสัมพันธ์ทางสังคมเพื่อการเรียนรู้ในหลากหลายมิติ ทั้งที่เป็นปฏิสัมพันธ์จริง และปฏิสัมพันธ์เสมือน
โควิดสอนเราเช่นกันว่า ความร่วมมือข้ามพรมแดนประเทศด้านการวิจัยมีความสำคัญมาก มหาวิทยาลัยวิจัยของไทยต้องร่วมกันสร้าง “ชาลาทำงาน” (working platform) ระดับประเทศเพื่อการนี้
-
Climate การระบาดของโควิด ช่วยให้ธรรมชาติฟื้นตัว ส่วนหนึ่งจากการเดินทางระหว่างประเทศทางอากาศลดลงมากมาย รวมทั้งการเดินทางเพื่อศึกษาต่อด้านอุดมศึกษา โดยเฉพาะอย่างยิ่งของนักศึกษาในประเทศร่ำรวย การทดแทนการเดินทางด้วยการติดต่อสื่อสารทางไกลในการเรียนและความร่วมมือระหว่างสถาบันอุดมศึกษา จะทำให้ระบบอุดมศึกษามีส่วนร่วมลดปัญหาด้านภูมิอากาศของโลก
-
Collaboration in Research and Teaching เขาเน้นความร่วมมือวิจัยเพื่อปริญญาเอก และหลังปริญญาเอก ผมมองว่า กิจกรรมพัฒนาประเทศไทยเพื่อยกระดับสู่สังคมนวัตกรรม จะมีโจทย์และแผนงานวิจัยที่ดึงดูดคนเก่งเข้ามา มหาวิทยาลัยไทยกลุ่มวิจัยระดับโลกพึงร่วมกันสร้าง “ชาลางานวิจัย” (research platform) ในแนวนี้
-
China หัวข้อนี้บอกเราว่าสหรัฐอเมริกากลัวจีนมาก (ผมรู้สึกว่า คล้ายๆ เขากลัวญี่ปุ่นในช่วงทศวรรษ 1980 – 1990 และหาวิธีลดความแรงของญี่ปุ่นลงได้อย่างสันติ) ผมมีความเห็นว่า เราต้องหาทางร่วมมือกับจีน ในเรื่องการร่วมมือแลกเปลี่ยนนักศึกษา โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักศึกษาปริญญาเอก และ postdoc เน้นความร่วมมือวิจัยในเรื่องสำคัญที่มีความสนใจร่วมกัน
-
Commercialization of Internalization อุดมศึกษาก้าวสู่ธุรกิจมากขึ้นเรื่อยๆ ก่อนโควิดระบาดเป็นเวลานานมาก ประเทศที่หารายได้จากนักศึกษาต่างชาติมากที่สุด ๒ ประเทศคืออเมริกา (ปีละ ๔๕ พันล้านเหรียญ) กับออเตรเลีย (ปีละ ๒๒ พันล้านเหรียญสหรัฐ) ในระยะสั้นรายได้นี้จะลดลง ในระยะยาวธุรกิจ edtech จะเฟื่องฟูขึ้น ทั้งการให้บริการ ออนไลน์คอร์ส การให้บริการเครื่องมือเรียนรู้ฝึกฝนทักษะรวมทั้งการให้คำปรึกษาหรือเป็นพี่เลี้ยงนักศึกษาแบบทางไกลหรือแบบผสม การเป็นเครื่องมือทดสอบความรู้ ทักษะ และเจตคติ อุดมศึกษาไทยต้องพัฒนาขีดความสามารถในการใช้เทคโนโลยีนี้อย่างชาญฉลาด และมีโอกาสเป็นตัวของตัวเองพอสมควร
ควรมีฟอรั่ม ให้มหาวิทยาลัยไทยแต่ละกลุ่มได้มาแชร์ประสบการณ์สร้างสรรค์ด้านต่างๆ ในช่วงวิกฤติโควิด เพื่อหน่วยงานกลาง (สป. อว.) นำมาเป็นข้อมูลคิดระบบสนับสนุนการยกระดับมหาวิทยาลัยไทยขึ้นไป โดยเฉพาะมหาวิทยาลัยกลุ่มที่ ๑ คือกลุ่มวิจัยระดับโลก
วิจารณ์ พานิช
๑๓ มิ.ย. ๖๔