ชีวิตที่พอเพียง 3986. ความอ่อนแอของระบบสุขภาพอเมริกัน


 

               บทความ Trump’s Policy Failure Have Exacted a Heavy Toll on Public Health : But things were on the decline long before he took office (๑) บอกเราว่าระบบสุขภาพของสหรัฐอเมริกาเสื่อมลงเรื่อยๆ เป็นเวลาหลายสิบปี    โดยเขามีตัวเลขบอกว่า อายุขัยของคนอเมริกันสั้นลง    ในปี ค.ศ. 1980 อายุขัยของคนอเมริกันโดยเฉลี่ยเท่าๆ กันกับของประเทศกลุ่ม G7    แต่ในปี 2018 อายุขัยเฉลี่ยของคนอเมริกันน้อยกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศ G7 ถึง ๓.๘ ปี   

  โควิด ๑๙ มาช่วยปลุกคนอเมริกันให้ตื่น  โดยช่วยชี้ให้เห็นความอ่อนแอของระบบสุขภาพในการรับมือวิกฤติโรคระบาด    แต่จริงๆ แล้ว ความอ่อนแอนี้เริ่มตั้งแต่สมัย ปธน. เรแกน พรรครีพับลิกัน   ที่สร้างระบบสุขภาพแนวทุนนิยม หรือกำไรนิยม    ทำให้ระบบริการสุขภาพเป็นระบบหากำไร    เอื้อประโยชน์ให้แก่คนรวย    แนวโน้มนโยบายทุนนิยมในทุกกิจการนี้ ดำเนินต่อเนื่องเรื่อยมาทั้งรัฐบาลพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครต    สร้างความเหลื่อมล้ำทางสังคมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

เมื่อค่ำวันที่ ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๖๔ ในการประชุม PMAC 2022 3rd preparatory meeting มีผู้เข้าร่วมประชุมที่เป็นคนอเมริกันบอกว่า นโยบายของรัฐบาลอเมริกันเอื้อประโยชน์ต่อคนทำงานน้อยกว่าประโยชน์ของนักลงทุน (เล่นหุ้น)     และตอนที่ประเทศไทยประสบวิกฤติการเงินปี ๒๕๓๙ – ๒๕๔๐ มีศาสตราจารย์อเมริกันมาพูดที่ สกว. ว่า     จะให้ระบบเศรษฐกิจแข็งแรง ต้องส่งเสริมการลงทุนในภาคเศรษฐกิจจริงแท้    ไม่หลงหมกมุ่นเศรษฐกิจเอาเงินไปต่อเงิน     ต่อมาในปี ๒๕๕๑ สหรัฐอเมริกาประสบวิกฤติการให้กู้เงินผ่อนบ้าน (Subprime Crisis) ก็เพราะรัฐกระตุ้นให้คนหลงกู้เงินผ่อนส่งบ้านเพื่อหวังกำไร    แต่กำไรไปตกอยู่ที่ธนาคารและบริษัทให้กู้เงินผ่อนส่งบ้าน   

จะเห็นว่าระบบสังคม เศรษฐกิจ การเมือง สุขภาพ และอื่นๆ มันเชื่อมต่อถึงกันหมด     Chris Hedges ผู้เขียนหนังสือ America : The Farewell Tour  ให้สัมภาษณ์ในหัวข้อ The Collapse of the American Empire? (๒) ว่า  สหรัฐอเมริกากำลังหมดสภาพมหาอำนาจโลก เหมือนกับที่สหราชอาณาจักรเสื่อมหลังสงครามโลกครั้งที่ ๑    โดยเขาบอกว่าเริ่มเสื่อมใน ทศวรรษ 1970    ทำให้ผมระลึกความหลังกลับไปสมัยไปเรียนต่อที่เมือง แอนน์อาร์เบอร์ รัฐมิชิแกน ๑ ปี ในปี ๒๕๑๐ – ๒๕๑๑   ผมเห็นสภาพสังคมที่ไร้อาชญากรรม  คนขับรถไปจอดที่ไหนๆ ก็ไม่ล็อกรถ    ผมถามเพื่อนว่าทำไมไม่ล็อก เขาบอกว่าที่นั่นเขาไม่ล็อกรถกัน   ไม่มีขโมย    สามปีให้หลัง อ. หมอสรรใจ แสงวิเชียร ไปเรียนที่เดียวกัน   กลับมาบอกผมว่า ตอนนั้นคนล็อกรถหมด   แต่ก็ไม่วายโดนทุบกระจกขโมยของ   

ในการสนทนากันของสองปราชญ์ชาวยิว คือ Daniel Kahneman (ผู้ได้รับรางวัลโนเบล) กับ Yuval Harari (๓) ในตอนท้ายๆ ของการสนทนา Kahneman บอกว่ามหาอำนาจโลกในอนาคตคือจีน      

ตอนผมไปเรียนที่อเมริกา ผมสังเกตว่า เพื่อนนักศึกษาปริญญาเอกด้วยกันมีบ้าน (ผ่อนส่ง) อยู่อย่างสบาย    อาจารย์ที่เป็น ผศ. มีครอบครัว มีลูกเล็กๆ ๒ คน ก็มีบ้านอยู่สบาย    แต่ตอนนี้คนชั้นกลางยากลำบากลงไปถ้วนหน้า    แต่เศรษฐีรวยขึ้น    ซึ่งหมายความว่าความเหลื่อมล้ำสูงขึ้น    ซึ่งเป็นที่รู้กันทั่วไป 

กลับมาที่ระบบสุขภาพอเมริกัน  บทความบอกว่าระบบสังคมและระบบสุขภาพอเมริกันเสื่อมลงไปเป็นเวลา ๔๐ ปี    โดยผมขอชี้ว่า สหรัฐอเมริกาไม่มีระบบคุ้มครองสุขภาพพลเมือง ที่เรียกว่าระบบคุ้มครองสุขภาพถ้วนหน้า อย่างที่เรามีมาตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๔๕   เยอรมนีมีมากว่าร้อยปี    ญี่ปุ่นมีมา ๖๐ ปี    อังกฤษมีมา ๗๓ ปี    แทนที่ระบบสุขภาพของสหรัฐอเมริกาจะเอื้อการคุ้มครองผลประโยชน์ด้านสุขภาพของประชาชน เขากลับเอื้อประโยชน์แก่ธุรกิจ    เป็นระบบสุขภาพเพื่อธุรกิจ ไม่ใช่เพื่อสุขภาพ 

เอามาเล่าเพื่อเตือนสติคนไทยว่า อย่ายอมให้ระบบสุขภาพของเราหลงทางแบบระบบอเมริกัน    อย่ายอมให้ระบบสุขภาพของเราเป็นระบบทุนนิยม    ระบบสุขภาพต้องสุขภาวะนิยม          

วิจารณ์ พานิช

๑๙ พ.ค. ๖๔        

 

หมายเลขบันทึก: 691252เขียนเมื่อ 27 มิถุนายน 2021 16:57 น. ()แก้ไขเมื่อ 27 มิถุนายน 2021 16:57 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท