สวัสดีค่ะ วันนี้ขอมาเล่าประสบการณ์การทำ E-BOOK เล่มแรกในชีวิตของเราค่ะ (เนื้อหาสาระไม่ค่อยมีนะคะ เพราะนี่เป็นครั้งแรกของเราจริงๆ)
โดยเริ่มแรกเราต้องแต่งนิยายของตัวเองให้เสร็จก่อนค่ะ ตอนที่ใกล้จบแล้วเราก็ไปหานักวาดกับคนจัดทำรูปเล่มค่ะ โดยเสียหายค่าปกไป 4000 บาทและจัดรูปเล่ม 1112 บาทค่ะ
เราแนะนำให้จองคิวนักวาดปกก่อนนะคะเพื่อให้เวลาแต่งจบแล้วจะได้นัดร้านที่รับจัดรูปเล่มได้เลยค่ะ
ส่วนใหญ่แล้วการนัดคิวนักวาดกับนัดจัดรูปเล่มจะต้องจองไว้ล่วงหน้าสัก 1 เดือนเป็นอย่างต่ำนะคะ โดยสามารถลองถามนักวาดกับร้านที่จัดทำรูปเล่มก่อนได้เลยค่ะว่ามีคิวว่างของเดือนนี้ไหม ถ้าเขาว่างก็จองเลยค่ะ!
แต่สำหรับบางคนที่จัดหน้าเป็นก็อาจจะไม่ได้สนใจร้านจัดรูปเล่มนะคะ แต่เราเป็นคนที่จัดหน้าไม่เก่งก็เลยไปจ้างร้านเอาค่ะ และไปประหยัดงบของตัวเองด้วยการเช็คคำผิดแทน
ซึ่งสำหรับเรา เราคิดว่าเป็นการคิดผิดมหันต์มากเลยค่ะ เพราะเรายังเช็คไม่ละเอียดมากพอทำให้ต้องเช็คอีกหลายต่อหลายรอบ จนอดบ่นกับตัวเองไม่ได้เลยค่ะว่าถ้าใช้บริการพิสูจน์อักษรก็คงจะสบายและคำผิดน้อยกว่านี้อย่างแน่นอน
แต่ในเมื่อเราจะต้องประหยัดงบตัวเองก็ต้องกัดฟันทนเช็คคำผิดต่อไปค่ะ
หลังจากเช็คคำผิดในหน้านิยายตัวเองเสร็จ เราก็รวมรวบตอนทั้งหมดส่งให้ร้านที่จัดรูปเล่มค่ะ แล้วก็รอรูปเล่มเสร็จสิ้น โดยระหว่างนั้นก็ไปลงทะเบียนกับเว็บที่จะขายอีบุ๊คให้เสร็จก่อนค่ะ ซึ่งเว็บที่เราเลือกก็คือ MEB นั่นเอง
โดยMEBจะให้เรากรอกรายละเอียดต่างๆและมีที่เน้นโดยเฉพาะค่ะคือ ธนาคารที่จะโอนยอดขายหนังสือที่เราขายได้ ให้แก่เรานั่นเอง ซึ่งธนาคารไทยพาณิชย์จะหักค่าโอนที่น้อยกว่าธนาคารอื่นค่ะ เราก็กรอกเลขบัญชีของธนาคารไทยพาณิชย์ลงไปค่ะ
หลังจากกรอกรายละเอียดเสร็จ เราก็รอMEBตรวจสอบรายละเอียดต่างๆและเขาจะส่งอีเมล์มาให้เราเพื่อยืนยันค่ะว่า เราได้เป็นสำนักพิมพ์/นักเขียน (Publisher/Writer) เรียบร้อยแล้ว
ซึ่งสำนักพิมพ์/นักเขียน (Publisher/Writer)ของทางMEBก็คือ เราสามารถขายนิยายของตัวเองได้เรียบร้อยค่ะ! โดยทางMEBจะมีเว็บRAWที่สามารถลงนิยายเป็นรายตอนกับMEBที่เป็นขายแบบรูปเล่มโดยเฉพาะ เราสามารถจึงขายได้ทั้งรูปเล่มและรายตอนได้เลยค่ะ
พอเราสมัครเสร็จ เราก็เลยไปดูรายละเอียดเรื่องการขายค่ะ เรื่องส่วนแบ่ง ทาง meb จะได้ไป 20 % apple จะได้ไป 30 % ตัวอย่างการหักยอดเงินนะคะ สมมติว่าเราตั้งราคาหนังสือไว้ 100 บาท ทาง Apple จะหักไป 30 บาท ยอดขายเหลือ 70 บาท หลังจากนั้น meb จะหักอีก 20 % จาก 70 บาท หักไป 14 บาท ซึ่งก็เหลือยอดขาย 56 บาทที่เราจะได้รับนั่นเองค่ะ
หลังจากจัดรูปเล่มเสร็จสิ้น ทางร้านที่เราได้ไปจ้าง เรามีทั้งไฟล์pdf และ indesign ให้ค่ะ เราก็จะส่งไฟล์เนื้อหารูปเล่มให้กับmebและกรอกรายละเอียดหนังสือลงบนเว็บที่จะขายค่ะ โดยทางMEBจะมีการส่งเนื้อหารูปเล่มได้หลายไฟล์เลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็น word pdf หรือ indesign เราก็แนบไฟล์ส่งไปให้ทั้งสองเลยค่ะเพราะว่าการเปิดอ่านสามารถเปิดอ่านได้จากไฟล์PDFหรือไฟล์EPUB
ซึ่งไฟล์EPUBทำมาจากไฟล์wordและ indesign ค่ะ โดยทางmebได้แจ้งมาว่า นักอ่านนิยมอ่านผ่านไฟล์EPUB เราก็เลยแนบทั้งสองไฟล์ไปให้เขาเลยค่ะ
และหลังจากกรอกรายละเอียดเกี่ยวกับหนังสือของตัวเองเสร็จ เราก็ไปอ่านเจอว่าทางmebจะมีการตรวจสอบหนังสือของเรา 1 – 2 สัปดาห์ เราก็เลยรอค่ะ
แต่พอตื่นมาตอนเช้า เข้าอีเมลตัวเอง ทางmebส่งเมลมาบอกว่า E-BOOK เราวางขายแล้ว!
ตอนนั้นเราช็อคเลยค่ะ ไหนบอก 1 – 2 สัปดาห์...
ก่อนที่จะกดส่งรายละเอียดหนังสือทั้งหมด ตอนท้ายจะมีให้เลือกค่ะว่า พอทางmebตรวจสอบเสร็จ จะวางขายเลยไหม เราก็กดวางขายเลยไปค่ะ เพราะเห็นว่า 1 – 2 สัปดาห์ข้างหน้าจะเป็นช่วงเวลาที่เราคำนวณไว้แล้วว่าโอเค
แต่พอทางmebบอกว่าวางขายแล้ว เราก็อึ้งไปสักพักเลยค่ะ
แต่สุดท้ายมันก็วางขายอย่างสวัสดิภาพ เราก็เลยวางใจและปล่อยเรื่องเวลาที่เราคำนวณผิดพลาดไปค่ะ
บทเรียนสำหรับเราในเรื่องนี้นะคะก็คือควรจ้างพิสูจน์อักษรและควรกดไม่วางขายไปในทันทีค่ะ
ไม่มีความเห็น