เมื่อวานมีคนใจดีส่งทุเรียนนกหยิบมาจากจันทุบรีจำนวน ๔ ลูก เมื่อเช้าส่งรูปให้เขาดู เขาบอกว่าปลิงหลุดแล้ว ผ่าได้เลย วันนี้แม่จึงจัดการเจ้านกหยิบสามลูกที่ปลิงหลุดนั้น
บ่ายนี้มานั่งดูแม่ปลอกทุเรียน ดูไปดูไป ก็เริ่มสงสัย ว่าทำไม แม่ปลอกไปก็ชั่งไป ไม่ได้ชั่งเนื้อนะ แต่แม่ชั่งเปลือก
อุปนิสัยพื้นฐานของนักวิจัยคือความอยากได้ใครรู้ ว่าสิ่งต่าง ๆ เหล่านั้นมีความเป็นอยู่ และเป็นไปอย่างไร
วันนี้จึงได้ข้อสรุปเบื้องต้นว่า เจ้านกหยิบ 3 ลูกที่ปลิงหลุดออกมานั้น น้ำหนักก่อนขึ้นชก (ก่อนปลอก) อยู่ที่ประมาณเกือบ ๆ 8 กิโลกรัม
เมื่อปลอกแล้ว เปลือกหนัก 5 กิโลกรัม เนื้อมีหนักประมาณ 2.5 กิโลกรัม ที่เหลือเป็นเศษเปลือกที่หล่น
บางคนจึงมักพูดว่า ทุเรียนเป็นผลไม้ขายเปลือก นั่นก็จริง...
เพราะน้ำหนักเปลือกเมื่อเทียบกับเนื้อก็ตกประมาณ 70-30
เจ้านกหยิบราคาขายทั่วไปราคา 600 บาทต่อกิโล หนึ่งลูก 1,200 บาท ได้เนื้อจริง ๆ ประมาณ 9 ขีด ดังนั้นเฉพาะเนื้อก็เกินพันบาทต่อกิโล
แต่ในทางกลับกัน... นี่ก็ถือว่าดีสำหรับเกษตรกรผู้ปลูกทุเรียน ที่จะได้ลืมตาอ้าปาก มีกินมีใช้ เหลือกินเหลือใช้
คนไทยทำอะไรทำตามกันรวยก็รวยด้วยกัน จนก็จนด้วยกัน
ตอนก่อน ตอนนี้มีการเพาะขยายพันธุ์ทุเรียนออกไปเรื่อย ไปปลูกจังหวัดโน้นจังหวัดนี้ แต่ที่ไหนก็สู้จันทบุรีไม่ได้ เพราะสภาพน้ำ ดิน ฟ้า อากาศ
แต่ทั้งหลายทั้งปวงก็ไม่สู้กับความพยายามของคนไทย ที่จะพัฒนาคุณภาพชีวิตเกษตรกรไทยให้อยู่ได้อย่างยั่งยืน...
เนื้อเหลือง ดูน่ากินที่สุด