๑,๒๑๕ แกะดำ...


" ครูจะไม่เผลอตัวเผลอใจ..ไปชื่นชมกับเด็กๆ ที่ทำคะแนนโอเน็ตสูงแต่ฝ่ายเดียว ครูเพิ่งจะสำนึกได้ในวันนี้เองว่ายังมีนักเรียนที่อ่อนแอเป็นจำนวนมาก ที่ครูต้องเหลียวแล เพื่อจะทำให้พวกเขาเข้มแข็งมากขึ้น จะได้ไม่เป็นเฉกเช่นน้องไก่ในเล้า..ไม่เป็นแกะดำในโรงเรียนอีกต่อไป.."

        วันนี้..เลี้ยงน้องไก่ที่โรงเรียนตามปกติ มีเหตุการณ์ที่ทำให้ต้องนึกถึงสำนวนไทยขึ้นมาซะงั้น แต่แทนที่จะนึกถึงสำนวนเกี่ยวกับไก่ อาทิ ไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่ หรือไก่รองบ่อน ไม่เลยจริงๆ ผมนึกถึงคำว่า "แกะดำ" ทั้งที่อยู่ในเล้าไก่แท้ๆ

       ปิดเทอมมีโอกาสได้ใกล้ชิดน้องไก่เป็นพิเศษ ทำให้เห็นธาตุแท้ของกันและกัน น้องไก่อาจไม่รู้สึก แต่ผมสะอึกอยู่พักใหญ่ น้องไก่มีเชื้อสายซีพีมีสายพันธุ์ไปทางฝรั่งมากกว่าสายพันธุ์ไทย เป็นไก่พันธุ์ไข่ที่หน้าตาดีแต่ใจดำ  ประมาณว่าสวยแต่รูปจูบไม่หอม ว่างั้นเถอะ

       หนทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์ไก่ ผมว่าก็ใช้ได้เหมือนกัน เพราะพฤติกรรมของไก่เป็นที่ประจักษ์แก่สายตา แต่ก่อนมาก็คาใจอยู่นาน วันนี้เจอต่อหน้าต่อตา คาหนังคาขนกันเลยทีเดียว

       เรื่องของเรื่องก็คือ เมื่อสองเดือนก่อน น้องไก่ตัวนึงป่วย นอนซมเพราะพิษไข้ เดินไม่ไหวก็เลยต้องนั่งคอตก หนักๆเข้าก็นอนฟุบคอพับคออ่อน แต่แทนที่เพื่อนๆจะร่วมด้วยช่วยกันให้กำลังใจ เปล่าเลย..แต่ละนางเข่้ามารุมจิกน้องไก่ที่ป่วย จนน่วมไปทั้งตัว

      โชคดีที่ผมไปเห็นเหตุการณ์ ก่อนที่น้องไก่จะหายใจรวยริน ผมอุ้มออกมาเยียวยาในเล้าข้างเคียง ให้ดมใบตะไคร้แล้วหยอดน้ำลงคอไปหยดสองหยด น้องไก่ก็ฟื้นคืนชีพ มีอาการกระปรี้กระเปร่าขึ้นบ้างเล็กน้อย ไม่ต้องส่งเข้าห้องไอซียู

      ทุกวันที่ผ่านมา ผมจึงต้องเลี้ยงไก่ ๒ เล้า น้องไก่ที่โดนขังเดี่ยวก็ต้องดูแลเป็นพิเศษ จนเดี๋ยวนี้แข็งแรงและออกไข่เป็นปกติ แต่ผมก็ยังไม่กล้าปล่อยไปรวมกับเพื่อนๆ เพราะไม่แน่ใจว่าการปรองดองจะเกิดขึ้นหรือไม่...

       วันนี้ผมทำพลาดเอง เผลอเปิดประตูเล้าไก่พร้อมกัน ทำให้น้องไก่สาวผู้ซื่อสัตย์ไร้เดียงสา เดินหลงเข้าไปในกลุ่มเพื่อนไก่ไฮโซ คราวนี้พอน้องไก่ไปอยู่รวมกัน ผมก็สับสนไปหมด ไม่รู้ตัวไหนเป็นตัวไหน...

       ผมยืนนิ่ง ตั้งสมาธิ แต่สายตาก็สอดส่ายไปมา เพื่อค้นหาน้องไก่ที่หลงทาง บรรยากาศภายในเล้าที่น้องไก่อยู่กันแออัด ดูสงบเยียบเย็น ไร้การเคลื่อนไหว ไม่มีการพูดคุย จะมีก็แต่การให้สัญญาณทางสายตากันเป็นทอดๆ

        สถานการณ์ไม่สู้ดี เหมือนผมจะได้ยินเสียงพึมพำ..."แกะดำกลับมาแล้ว"  "ไปอยู่ดีกินดีแล้วหวนคืนมาทำไม"  "นางเป็นแกะดำของครอบครัวเรา"  "มันเป็นแกะดำ มันไม่เหมาะกับที่นี่"   ผมเริ่มได้กลิ่นความร้อนแรงของไฟอิจฉา เหมือนว่ากำลังดูละครช่องONE 31

       ชั่วพริบตาเดียว..น้องไก่ในกรงขังเดี่ยวก็โดนตะลุมบอน วุ่นวายกันไปทั้งเล้า ทั้งถูกตบทั้งโดนจิกถูกฉุดกระชากลากถู จนขนที่ปีกและลำตัวกระจุยกระจาย หายใจแทบไม่ทัน ผมรีบเปิดประตู ในจังหวะเดียวกันกับน้องไก่โผเข้าหาอ้อมกอดของผม นางรอดตายหวุดหวิดอีกครั้ง...

        ภาพในวันนี้ คือคำตอบของการแยกทางกันอย่างถาวรระหว่างน้องไก่กับเพื่อนๆผู้ใจดำ ทำให้ผมรู้สึกแปลกใจ ทำไมไก่จึงไม่แตกต่างไปจากคน คนทุกวันนี้ยังมีการทำร้ายผู้ที่อ่อนแอกว่า คนที่มักจะอิจฉาซึ่งกันและกัน เหมือนเลียนแบบมาจากละคร แต่ไม่เคยสักครั้งที่จะย้อนดูตัวเพื่อปรับปรุง....

         ครูจะดูแลน้องไก่ให้ได้รับความอบอุ่นและปลอดภัย เหมือนที่เคยดูแลเด็กนักเรียนหลังห้องที่เรียนรู้ช้า ปัญญาทึบ อ่านหนังสือไม่่ออกเขียนไม่ได้ แต่จิตใจงดงาม หนักเอาเบาสู้ถ้าครูให้ช่วยงานพัฒนาสิ่งแวดล้อม และมีความพร้อมที่จะช่วยงานเกษตรอินทรีย์ได้ทุกเมื่อ

         ครูจะไม่เผลอตัวเผลอใจ..ไปชื่นชมกับเด็กๆ ที่ทำคะแนนโอเน็ตสูงแต่ฝ่ายเดียว ครูเพิ่งจะสำนึกได้ในวันนี้เองว่ายังมีนักเรียนที่อ่อนแอเป็นจำนวนมาก ที่ครูต้องเหลียวแล เพื่อจะทำให้พวกเขาเข้มแข็งมากขึ้น จะได้ไม่เป็นเฉกเช่นน้องไก่ในเล้า..ไม่เป็นแกะดำในโรงเรียนอีกต่อไป

ชยันต์  เพชรศรีจันทร์

๒๓  เมษายน  ๒๕๖๔

หมายเลขบันทึก: 690209เขียนเมื่อ 22 เมษายน 2021 20:10 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 เมษายน 2021 22:24 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท