การอธิษฐานเพื่อให้ได้อะไรตามที่เราหวัง ควรจะมีลำดับขั้นดังนี้...
ทำก่อนแล้วอธิษฐานทีหลัง มิใช่อธิษฐานก่อน แล้วบอกว่าถ้าสำเร็จแล้วถึงจะทำ...
เช่น เราอธิษฐานว่า ถ้าเราสอบผ่านครั้งนี้เราจะกลับไปดูแลพ่อแม่ กับ การกลับไปดูแลพ่อแม่ก่อน แล้วอธิษฐานว่าอานิสงส์จากการที่เราได้ดูแลพ่อแม่ขอให้เราสอบผ่าน...
การอธิษฐานจึงต่างจากการขอ...
การขอ เป็นการขอแบบลม ๆ แล้ง ๆ คือ ไม่มีทุน ไม่มีอะไรที่จะขอ
แต่การอธิษฐาน คือ การทุนนำเหตุที่เราทำแล้ว ไปใช้ตามที่เราตั้งใจหวังไว้
ทำไมต้องอธิษฐานล่ะ ไม่อธิษฐานไม่ได้เหรอ ไหนบอกว่าทำเพื่อให้ เพื่อเสียสละไง..?
การอธิษฐานก็เพื่อสร้างแนวทางให้ตรง จะได้รู้อย่างแน่วแน่ว่าสิ่งที่ทำมานั้น เราต้องการจะดำเนินในแนวทางไหน
อย่างเช่น การอธิษฐานในการสร้างบารมีของสุเมธดาบส ครั้นเมื่อเจอพระพุทธเจ้าองค์ก่อน ก็ตั้งจิตอธิษฐานว่า การถวายแผ่นหลังต่างพื้นถนนนี้ ในอนาคตกาลขอให้ข้าพเจ้าได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าเถิด
ถ้าไม่อธิษฐาน ก็ไม่มีการชี้ชัดลงไปว่า สิ่งที่ทำไปนั้นท่านต้องการสิ่งใด จะไปทางใด
อาจจะต้องการความร่ำรวยก็ได้ ต้องการที่จะเป็นพระอรหันต์ก็ได้ หรือต้องการที่จะไปเป็นเทพ เป็นพรหมก็ได้ ดังนั้นการอธิษฐานคือการชี้ชัดลงไปเลยว่า สิ่งที่มานั้นเรามีจุดมุ่งหมายอะไร
เน้นย้ำอีกครั้งหนึ่ง
การขอ คือ อยู่ดี ๆ ก็ขอดื้อ ๆ โดยไม่มีทุน ไม่มีเหตุ ไม่มีปัจจัย หรือมีก็น้อยมาก บริจาคยี่สิบ ขอถูกหวยรางวัลที่หนึ่งเป็นต้น
การอธิษฐาน คือ การสร้างเหตุสร้างปัจจัยให้ถึงพร้อมในระดับหนึ่งก่อน แล้วจึงตั้งจิตอธิษฐานเพื่อสร้างหนนทางให้ตรงและแน่วแน่
การขอ ประกอบด้วย มิจฉาทิฏฐิ คือ ทำไปเพื่อจะได้ ให้ไปเพื่อจะเอา
แต่การอธิษฐานนั้นประกอบด้วย สัมมาทิฏฐิ เป็นการคิดด้วยปัญญา ตั้งใจเพื่อที่จะให้ เพื่อที่จะเสียสละ...
บทความดีค่ะ มีประโยชน์มากๆ สาธุขอบคุณค่ะ