หนังสือ Elastic : Flexible Thinking in a Time of Change(2018) เขียนโดย Leonard Mlodinow บทที่ ๕ The Power of Our Point of View บอกว่า สมัยก่อน ความสามารถในการเปลี่ยนกระบวนทัศน์ของตนเอง เป็นทักษะเพื่ออยู่ดี แต่ในสมัยนี้และในอนาคตเป็นทักษะเพื่ออยู่รอด
ข้อความในหนังสือ ชวนให้ผมหวนคิดโยงสู่ การเรียนรู้สู่การเปลี่ยนแปลง (Transformative Learning) (๑) ที่เน้นการเปลี่ยนกรอบความคิดผ่านกระบวนการ critical reflection หนุนด้วยความรู้สึกอึดอัดขัดข้อง ต่อความคิดกระบวนทัศน์เดิม หรือกรอบเดิม
หนังสือ Elastic อธิบายว่า คนเรามีความคิด ๓ แบบ คือแบบ คิดตามกรอบ (scripted thinking), คิดตามตรรกะ (analytical thinking), และคิดยืดหยุ่น (elastic thinking) คนที่มีทักษะคิดแบบที่ ๓ แข็งแรง จะเปลี่ยนกรอบความคิดของตนได้ง่าย คิดแบบที่ ๓ นี้ ผมเรียกว่า “คิดแบบไม่คิด”
Transformative learning ใช้การคิดแบบที่ ๒ reflection เป็นการคิดใคร่ครวญด้วยเหตุผล
ทำให้ผมคิดต่อว่า การศึกษาต้องฝึกทักษะคิด ๓ แบบ ให้แก่เด็กตั้งแต่ยังเล็ก คือตั้งแต่อยู่ที่บ้าน อยู่ที่ศูนย์เด็กเล็กหรือโรงเรียนอนุบาล เพื่อลดพฤติกรรมยึดติดในสังคม และคนที่โตเป็นผู้ใหญ่หรือแก่แล้ว (อย่างผม) ก็ต้องฝึกคิดแบบที่ ๓ ให้คล่องแคล่วขึ้นด้วย
การคิดตามตรรกะ ใช้สมองส่วนหน้า (prefrontal cortex) โดยกลไกกำกับที่เรียกว่า executive functions ที่วงการศึกษาไทยบูมมานานประมาณ ๑๐ ปี (๒) (๓)
บัดนี้ เราเข้าใจเรื่องการคิดเพิ่มขึ้นอีกชั้นหนึ่ง ที่เลยไปจากคิดอย่างเป็นเหตุเป็นผล สู่การคิดอย่างยืดหยุ่น
ย้ำว่า มนุษย์ในยุคปัจจุบันและอนาคตต้องมีทักษะการคิดทั้ง ๓ แบบ อย่างสมดุลกัน และมีความสามารถใช้วิธีคิดแต่ละแบบ อย่างเหมาะสมต่อกาลเทศะ และที่สำคัญ กรอบความคิดของเราต่อเรื่องหนึ่งๆ ต้องไม่ตายตัว ต้องเปลี่ยนกรอบความคิดให้เหมาะสมต่อสถานการณ์ได้ด้วย รวมทั้งต้องมีความสามารถเปลี่ยนกรอบความคิดในระดับลึกที่เรียกว่า “กระบวนทัศน์” (paradigm) ไม่ตกเป็นเหยื่อของกระบวนทัศน์ที่ตกยุค
วิธีฝึก elastic thinking มีมากมาย ค้นในกูเกิ้ลได้ด้วยคำค้น “elastic thinking exercise” “mental flexibility exercise” จะมีเอกสารและ คลิป ใน YouTube ดีๆ มากมาย
วิจารณ์ พานิช
๒๕ ม.ค. ๖๔
ไม่มีความเห็น