บทส่งท้าย
มหาวิทยาลัยในกำกับรัฐบาล เงื่อนไขที่จำเป็น แต่ไม่ใช่เงื่อนไขที่เพียงพอ
มีคนมักตั้งคำถามว่า จำเป็นหรือไม่ที่มหาวิทยาลัยของรัฐจะต้องเปลี่ยนสภาพไปเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับรัฐบาลจึงจะพัฒนาได้
ผมมีความเห็นว่าถ้าเป็นมหาวิทยาลัยในควบคุมของรัฐและ เป็นส่วนราชการ ก็จะพัฒนาได้ในอัตราที่ไม่สูงไปกว่าในอดีต สิ่งที่น่าจะเกิดขึ้นและน่าเป็นห่วงคือผลประโยชน์ตอบแทนสาธารณะ (public returns) ต่อการใช้งบประมาณแผ่นดินซึ่งเป็นภาษีอากร และการตอบสนองความคาดหวังของสาธารณะ (public anticipation) จะลดลง ทำให้มหาวิทยาลัยของประเทศไทยลดความหมายและ
ความมีคุณค่าลง ทั้งๆที่มหาวิทยาลัยมีคนที่มีคุณภาพและศักยภาพมากพอสมควร
ถ้าต้องการพัฒนามหาวิทยาลัยของรัฐให้เป็นกลไก ขับสังคมและเศรษฐกิจของประเทศ การเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับรัฐบาลเป็นเงื่อนไขเบื้องต้นที่จำเป็น
จากจุดเริ่มต้นเล็กๆ นี้ คนในมหาวิทยาลัยจะต้องทำงานอย่างฉลาด ทำงานอย่างหนักอีกมากมาย รู้จักตัวเอง รู้จักพัฒนาศักยภาพของตนเองและของระบบ จะต้องมีผู้นำมหาวิทยาลัยในระดับต่างๆ ที่ดี ตลอดจนมีการสนับสนุนจากรัฐและสาธารณะ จึงจะเป็นสิ่งที่เพียงพอ
เลือกเอาว่าจะเป็นเสือหรือเป็นแมว
มหาวิทยาลัยของทุกประเทศควรจะเหมือน เสือ ซึ่งทรงพลังและน่าเกรงขาม สามารถจับสัตว์กินเองได้
ประเทศไทยเลี้ยงเสืออย่างเลี้ยงแมว จับขังไว้ในกรง เมื่อโตขึ้น เสือที่ควรจะเป็นเสือก็กลายเป็นแมวตัวโต เมื่ออยากจะปล่อยเสือออกจากกรง เสือก็ไม่อยากออก เพราะไม่รู้ว่าตัวเองเป็นเสือและควรจะเป็นเสือ ไม่แน่ใจว่าในป่าจะมีอะไร และไม่มั่นใจว่าจะจับสัตว์กินเองได้หรือไม่ นอกจากนั้นคนที่จะเปิดประตูกรงให้เสือออกก็เปิดบ้างปิดบ้าง บางครั้งยังเอาไม้กระทุ้งให้เสือกลับเข้ากรง
คงจะใช้เวลาบ้าง ที่เสือซึ่งถูกขังกรงมาเป็นเวลากว่าหลายสิบปีเมื่อปล่อยออกไปแล้วจะแข็งแรงและจะมีพฤติกรรมเป็นเสือ ลูกเสือที่เกิดจากเสือที่ถูกปล่อยออกจากกรง ก็คงจะเป็นเสือที่ทรงพลังและน่าเกรงขาม จะใช้เวลาบ้างเพื่อทำให้เสือ
กลายเป็นเสือที่แท้จริง
ขอขอบคุณอาจารย์มาลินี...
ขอขอบคุณที่ อ. มาลินีนำบทความชุดนี้ลง บล็อก มีปรัโยชน์มากครับ และผมได้ link ให้คนเข้ามาอ่านด้วย
วิจารณ์
อาจารย์วัลลภคะ ที่อาจารย์เคยบ่นว่าพิษณุโลก ถึงหน้าร้อน ก็ร้อนจริงจริ๊ง...
แต่.....ยังไม่เท่าตอนนี้ หน้าหนาวแท้ๆ issue นี้ทำให้ มน. ร้อนยิ่งกว่าค่ะ.... : )
ดิฉันขอกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์วิจารณ์เช่นกันค่ะ ด้วยบารมีของอาจารย์ คงช่วยให้ความรู้ เรื่องการออกนอกระบบของมหาวิทยาลัย แพร่กระจายได้ในวงกว้าง และลดความขัดแย้งต่างๆ ให้เบาบางลงได้