ว่าด้วยโลกอาหรับ



    ในโลกใบนี้มีมนุษย์อยู่อาศัยหลายเผ่า  มีชนเผ่าหนึ่งอาศัยอยู่ในบริเวณคาบสมุทรอาหรับอันมีทะเลทรายเป็นผืนแผ่นใหญ่. ชนเผ่าดังกล่าวใช้ภาษาอาหรับในการสื่อสาร.ชนเผ่านี้เองได้เคลื่อนย้ายไปอยู่อาศัยในสถานที่ต่าง ๆทั้งในแถบเอเชียตะวันตกและแอฟริกาเหนือ.

1.อาณาจักรอาหรับ

        คำว่าอาหรับ  อยู่ในภาษาตระกูลเซมิติก  หมายถึง ทะเลทรายหรือผู้อยู่อาศัยในแถบทะเลทราย.  ชนเผ่าดังกล่าวมีวิถีชีวิตความเป็นอยู่แบบเร่ร่อน  ดังนั้น  อาหรับ  สามารถแปลว่า  เร่ร่อน  ก็ได้.

        ชนเผ่าอาหรับส่วนมากจะอยู่กันเป็นสังคมใหญ่.  คนในสังคมมีความเคารพยำเกรงหัวหน้าเผ่าของตน. เมื่อมองดูวิถีชีวิตชนเผ่านี้จะมี 2 รูปแบบคือ การตั้งหมู่บ้านรวมกลุ่มกันเพื่ออยู่อาศัยโดยการทำการค้าและการเกษตร และอีกชุมชนหนึ่งนั้นมักใช้ชีวิตเร่ร่อนมีบ้านพักตั้งเป็นกระโจมเพื่อเหมาะเก็บเคลื่อนย้ายได้  ชนเผ่าที่เร่ร่อนไปยังที่ต่าง ๆ นี้บางทีใช้เรียกว่า  ชนเผ่าเบดูอิน.

        ด้วยสภาพอากาศแห้งแล้งผืนดินเป็นทะเลทรายการใช้อูฐเป็นพาหนะในการเดินทางจึงเหมาะสมทำให้อูฐกลายเป็นสัตว์มีราคาและบ่งบอกฐานะของชนเผ่าด้วย. 

        สำหรับพฤติกรรมทางสังคมของชนเผ่าอาหรับมักให้ความสำคัญแก่เพศชาย ผู้หญิงดูสเหมือนเป็นเพียงสมบัติของผู้ชายเท่านั้น.  มองด้านภาวะทางจิตใจของชนเผ่าอาหารับส่วนมากล้วนมีใจเด็ดเดี่ยว  กล้าหาญ  มีอารมณ์ร้อนมุทะลุดุดัน

       มองด้านความเชื่อได้พัฒนาการตามยุค  โดยยุคแรก ๆ ทุกคนให้ความเคารพนับถือหินดำว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งแดนดินถิ่นอาหรับ ต่อมาเรียกว่า  หินกาบะ  ในยุคต่อมาเริ่มกระจายไปนับถือผีนับถือธรรมชาติรวมถึงให้ความเคารพเทพเจ้า.

2.แดนดินตะวันออกกลาง ( เปอร์เซียแห่งศาสนา )

        การอยู่อาศัยในทะเลทรายของชนเผ่าต่าง ๆ ล้วนมีการช่วงชิงเพื่อความเป็นอยู่ในชนเผ่าของตน.  เมื่อประมาณ 1,000 กว่าปีก่อนพุทธกาล  ชนเผ่าหนึ่งนามเปอร์เซียได้ก่อเกิดขึ้น  พวกเขาใช้ภาษาอินโด-ยูโรเปียนและได้ตั้งหลักฐานอยู่แถบทางเหนือของทะเลดำ  พวกเขาเป็นนักรบที่แข็งแกร่งได้ทำการรบขยายอำนาจชนเผ่าตนออกไปทั่วภูมิภาคนี้ทำให้ชนเผ่านี้กลายเป็นศูนย์กลางความเจริญรุ่งเรืองในยุคโบราณ.  โดยเฉพาะในสมัยพระเจ้าไซรัส  ได้ขยายดินแดนกว้างมากมีการเชื่อมโยงเอเชียตะวันออก  เอเชียกลาง  ดินแดนอียีปต์และอินเดียรวมถึงดินแดนแถบเมริเตอเรเนียนด้วย.

        มองเกี่ยวกับความเชื่อชนเผ่าเปอร์เซียให้ความนับถือลัทธิบูชาไฟที่เรารู้จักในกาลต่อมาคือศาสนาโซโรอัสเตอร์

3.แหล่งกำเนิดอิสลามศึกษา

        อิสลามเป็นภาษาอาหรับแปลว่า  การสวามิภักดิ์อย่างสมบูรณ์แบบแด่พระเจ้าหรือเอกองค์อัลลอฮ์  ศาสนาอิสลามเป็นกำเนิดขึ้น ณ นครเมกกะ  ประเทศซาอุดิอาระเบีย  หลังพุทธศักราช 1,113 ปี  ศาสนิกชนผู้นับถือศาสนาอิสลามเรียกชื่อว่า ชาวมุสลิม  แปลว่า  ผู้นอบน้อมต่อพระประสงค์ของเอกองค์อัลลอฮ์  มีคำกล่าวเกี่ยวกับความเชื่อที่ว่าอิสลามคือระบอบแห่งการดำเนินชีวิตที่เอกองค์อัลลอฮ์ทรงประทานแนวทางนี้ให้แก่มนุษย์คู่แรกได้ผ่านวิวัฒนาการมาเสร็จสิ้นสมบูรณ์ในยุคของท่านศาสดานบีมูฮัมมัด.

        หลักคำสอนของศาสนาอิสลามถูกบรรจุไว้ในคัมภีร์อัลกุรอานซึ่งถือว่าเป็นหลักธรรมนูญสูงสุดในการดำเนินชีวิตของชาวมุสลิมและเป็นกฎหมายที่ใช้ปกครองในรัฐอิสลามด้วย. 

หมายเลขบันทึก: 687888เขียนเมื่อ 24 ธันวาคม 2020 23:11 น. ()แก้ไขเมื่อ 24 ธันวาคม 2020 23:11 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

I think this article is perhaps a good reading for early high school pupils or a starting material for further research.

I also think that a revision is required for several points for examples: 1) “ ผู้หญิงดู’สเหมือน’เป็นเพียงสมบัติของผู้ชายเท่านั้น” – เสมือน?2) “ความเชื่อชนเผ่าเปอร์เซียให้ความนับถือ’ลัทธิบูชาไฟ’ที่เรารู้จักในกาลต่อมาคือศาสนาโซโรอัสเตอร์” – seems to grossly misinform about Zoroaster(ism) ?

I think this article is perhaps a good reading for early high school pupils or a starting material for further research.

I also think that a revision is required for several points for examples: 1) “ ผู้หญิงดู’สเหมือน’เป็นเพียงสมบัติของผู้ชายเท่านั้น” – เสมือน?2) “ความเชื่อชนเผ่าเปอร์เซียให้ความนับถือ’ลัทธิบูชาไฟ’ที่เรารู้จักในกาลต่อมาคือศาสนาโซโรอัสเตอร์” – seems to grossly misinform about Zoroaster(ism) ?

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท