เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2563 กระทรวงสาธารณสุขมาเลเซีย ได้รายงานผลกระทบสถานการณ์โควิด-19 ต่อบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งนับว่าเป็นข้อมูลที่สำคัญ เป็นประโยชน์ สามารถนำมาถอดบทเรียนเพื่อเตรียมการและวางแผนการ รับสถานการณ์ที่มีสภาพใกล้เคียงกัน
จนถึงวันที่ 18 ธันวาคม 2563 บุคลากรทางการแพทย์มาเลเซีย ติดเชื้อ Covid-19 จำนวน 1,771 คน ในจำนวนนี้ มีทั่งแพทย์ พยาบาล และบุคลากรอื่น ๆ ที่ปฏิบัติงานด้านสาธารณสุขด้วยมาเลเซีย ระบุว่า มีบุคลากรทางการแพทย์จำนวน 1,359 ราย หรือคิดเป็น 76.7 % เป็นการติดเชื้อที่เกิดจากการระบาดในระลอกที่ 3 ซึ่งเป็นการระบาดในปัจจุบัน
จากจำนวนบุคลากรที่ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 1,771 คน สามารถจำแนกตามสาเหตุของการติดเชื้อได้ดังนี้33.1 % เป็นการติดเชื้อในชุมชน31.19 % เป็นการติดเชื้อระหว่างบุคลากรด้วยกัน8.6 % เป็นการติดเชื้อจากผู้ป่วยที่ยังไม่มีผลยืนยันว่าติดเชื้อ3.3 % ไม่ทราบที่มาของการติดเชื้อที่แน่นอน23.1% อยู่ระหว่างการสอบสวนทางระบาดวิทยาโดยมีบุคลากรทางการแพทย์จำนวน 280 คน กำลังรักษาอาการติดเชื้อในโรงพยาบาล ส่วนอีก 1,697 คน อยู่ในระหว่างการกักตัวเฝ้าสังเกตุอาการ
จากข้อมูล ดังกล่าว แสดงให้เห็นว่า หากมีสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ที่มีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ย่อมส่งผลให้บุคลากรทางการแพทย์มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อเพิ่มขึ้น และย่อมส่งผลกระทบต่อการจัดบริการของหน่วยบริการด้วย ดังนั้น จำเป็นหรือไม่ที่จะต้องมีบุคลาการทางการแพทย์กองหนุน เหมือนกับทหาร ที่มีทหารกองหนุนมาช่วยรบ เมื่อมีสถานการณ์สงครามเกิดขึ้น หรือเป็นไปได้หรือไม่ที่ต้องปรับภารกิจทหารกองหนุน ให้มีสมรรถนะ สามารถช่วยเหลือยามเกิดสงครามไวรัสดังเช่นที่มีการระบาดอยู่ในขณะนี้
จากบทเรียน ในช่วงการระบาด รอบแรก ในบ้านเรา บุคลากรทางการแพทย์ ถูกนำไปใช้ในภารกิจอื่น ๆ ที่นำมาซึ่งผลกระทบในการจัดบริการในหน่วยบริการอย่างยิ่ง เช่น ภารกิจการอยู่เวรประจำด่าน เป็นต้น หากการระบาดรอบใหม่ มีความรุนแรง และยังคงใช้ในแนวทางจัดการแบบเดิม ย่อมมีผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
อ้างอิง https://www.facebook.com/kementeriankesihatanmalaysia
ไม่มีความเห็น