อ.หมอไพบูลย์ เรียนมาทางด้านระบาดวิทยา ทำงานอยู่ที่ภาควิชาเวชศาสตร์ชุมชน คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มาทำงานร่วมกับคณะกรรมการระบาดวิทยาแห่งชาติ (NEBT- National Epidemiology Board of Thailand) จนเปลี่ยนชื่อมาเป็นมูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ-มสช. (NHF- National Health Foundation) และอ.หมอไพบูลย์ค่อยๆ จับเรื่องนโยบาย และยุทธศาสตร์การแก้ปัญหาอุบัติเหตุจราจร
เป็นการจับภาพใหญ่ ภาพเชิงระบบ ในการสร้างและใช้ความรู้เพื่อแก้ปัญหาที่ซับซ้อนซ่อนเงื่อน
ในการนำเสนอเรื่องราวของความสำเร็จ ใน Lunch Talk ของสภามหาวิทยาลัยมหิดล เมื่อวันที่ ๑๘ ธ.ค. ๔๙ ผมถามอ.หมอไพบูลย์ว่าทำมากี่ปี ได้รับคำตอบว่า ๑๐ ปี โดยที่ผมเป็นกรรมการ NEBT และ มสช. มาโดยตลอด และรู้สึกว่าอ.หมอไพบูลย์น่าจะทำมาประมาณ ๑๕ ปี
หลักฐานความสำเร็จ คือการที่ประเทศไทยจับเรื่องแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุจราจรอย่างจริงจังในระดับนโยบาย และทำกันอย่างเป็นระบบ และอ.หมอไพบูลย์ได้รับเชิญให้ร่วมเขียนหนังสือ "Developing policies to prevent injuries and violence : guidelines for policy-makers and planners" ขององค์การอนามัยโลก
ในภาพใหญ่ อุบัติเหตุจราจร คร่าชีวิตคนไทย ปีละ ๑๓,๐๐๐ คน บาดเจ็บปีละ ๑ ล้านคน ความสูญเสียทางเศรษฐกิจปีละกว่า ๑ แสนล้านบาท และแนวโน้มยังไม่ลดลง
ผมได้ความรู้ความเข้าใจว่า นักวิชาการ/วิจัย หากเข้าไปคลุกกับปัญหา มีกลไกให้ได้รับโอกาสคลุกกับปัญหา กับผู้ปฏิบัติในหลากหลาย sector ที่เกี่ยวข้อง (ซึ่งในกรณีนี้คือ ตำรวจ, วิศวกรผู้ออกแบบถนน ไฟถนน สัญญาณถนน ฯลฯ, ฝ่ายการเมือง, ชุมชน/ผู้นำในพื้นที่, ชมรมผู้พิการ, ฯลฯ) ก็จะสามารถผลิตผลงานวิจัย/วิชาการที่มีคุณค่า ทั้งทางวิชาการและทางการใช้ประโยชน์ได้
อ.หมอไพบูลย์เป็นตัวอย่างของนักวิจัยที่ทำงานวิจัยแบบ "กัดติด"
Powerpoint ของการนำเสนอ ดูได้ที่นี่ ๑ และ ๒
วิจารณ์ พานิช
๒๐ ธ.ค. ๔๙
ศ. นพ. ไพบูลย์ สุริยะวงศ์ไพศาล กำลังเล่าเรื่องการวิจัยอุบัติเหตุจราจร ใน Lunch Talk
ไม่มีความเห็น