โชว์เบอร์ แต่ไม่โชว์ใจ


การคุยทางโทรศัพท์ใช้แต่น้ำเสีนง จึงปกปิดท่าทีได้ง่าย ต่างกับการบอกรักกันจริงที่ต้องสอดคล้องกันทั้งน้ำเสียง แววตา ท่าทางที่แสร้งทำไม่ได้

หลายท่านคงเคยได้ฟังเพลง “โชว์เบอร์ แต่ไม่โชว์ใจ” ของนักร้องลูกทุ่งสาวท่านหนึ่ง ที่ผมชอบก็คือชื่อเพลง ส่วนเนื้อหาก็ไม่เท่าไหร่นัก แต่ชื่อเพลงนี้ได้สะกิดเตือนใจ ให้นึกถึงสังคมปัจจุบัน ที่เป็นยุคแห่งข้อมูลข่าวสารหรือยุคที่ ICT ได้เข้ามามีส่วนหนึ่งในชีวิต โดยเฉพาะโทรศัพท์มือถือที่เข้ามาเป็นปัจจัยที่ 6 (ปัจจัยที่ 5 คือรถยนต์) และเข้ามามีบทบาทขึ้นเรื่อยๆ ข้อดีคือทำให้คนสามารถติดต่อพูดคุยกันได้สะดวกขึ้น มีเหตุการณ์ฉุกเฉินสามารถพูดคุย บอกกล่าวกันได้ง่ายขึ้น  แต่สิ่งที่ตามมาก็คือความใกล้ชิดกันแบบสัมผัสจริงจะลดลงไปมาก อาศัยสัมผัสเสมือน (Virtual) ถึงกับมีการโฆษณาของบริษัทโทรศัพท์มือถือที่ชี้ให้เห็นว่าใกล้ไกลก็คุยกันได้ถ้าใช้โทรศัพท์มือถือยี่ห้อนั้นๆ 

            โทรศัพท์มือถือเป็นสัญลักษณ์หรือตัวแทนของHigh Technology ที่สามารถสื่อไปถึงสิ่งอื่นๆเช่นคอมพิวเตอร์ อินเตอร์เน็ต ที่ทำให้คนสองคนที่นั่งติดกันกำลังพูดคุยอยู่แต่ไม่ได้คุยกันเพราะต่างคนต่างคุยโทรศัพท์กับคนอื่นที่อยู่ไกล คนในบ้านคุยกันน้อยลงเมื่ออยู่บ้านแต่คุยกับคนอื่นที่อยู่นอกบ้านมากขึ้น บางคนก็เล่นอินเตอร์เน็ต ไปคุยกับคนอื่นๆๆด้ทั่วโลก แต่เวลากับคนในบ้านลดลง การนัดหมายกับคนนอกบ้านมากกว่านัดหมายกับคนในบ้าน ตัวอยู่บ้านแต่ใจอยู่นอกบ้านแล้วสื่อสารกันผ่านICT  เมื่อHi tech มา Hi touch ก็หายไป  อาการนอกใจของคนในครอบครัวจึงเกิดได้ง่าย การมีชู้ มีกิ๊ก จึงเกิดง่ายและเลิกง่าย หลอกกันง่ายขึ้น อยู่กับกิ๊กก็ยังโทรไปบอกรักสามีภรรยาตัวจริงได้

             การคุยโทรศัพท์จะทำให้กล้าพูดมากกว่าการคุยกันต่อหน้าจริงเพราะการคุยทางโทรศัพท์ใช้แต่น้ำเสีนง จึงปกปิดท่าทีได้ง่าย ต่างกับการบอกรักกันจริงที่ต้องสอดคล้องกันทั้งน้ำเสียง แววตา ท่าทางที่แสร้งทำไม่ได้ สัมผัสจริงจึงจริงกว่าสัมผัสเสมือน การที่รัฐบาลพยายามจะทำให้วันอาทิตย์เป็นวันครอบครัวจึงเป็นสิ่งที่จะช่วยเสริมสร้างสายใยสัมพันธ์ของจริงให้เกิดขึ้น หากไม่รู้จักรักจะรักคนอื่นไม่เป็น  การจำกัดเวลาขายสุราก็จะช่วยลดอาการโอ้เอ้นอกบ้านได้ หากมีการปฏิบัติกันอย่างจริงจัง โทรศัพท์มือถือรุ่นที่โชว์เบอร์ทำให้รู้ว่าใครโทรมาแต่ก็ไม่ได่โชว์ใจคนโทรว่าจริงใจแค่ไหน ในสังคมจึงเห็นการหลอกไปทำมิดีมิได้อยู่บ่อยๆ  เรื่องนี้คงชี้ได้หลายประเด็น แม้เทคโนโลยีจะมีประโยชน์แต่ก็มีโทษตามมาที่เราต้องรู้จักใช้ และอย่ายึดติด เหมือนการทำKM อย่าเริ่มที่เทคโนโลยี เพราะมันจะช่วยให้การแลกเปลี่ยนเร็วขึ้นก็จริงแต่ไม่ค่อยได้ความสัมพัน์ที่แท้จริง เมื่อความสัมพันธ์ไม่แน่นแฟ้นนัก การดึงความรู้ฝังลึกก็อาจไม่ได้มากเท่าที่ควร คนจึงต้องมาก่อนเครื่อง และความสัมพันธ์และการสัมผัสจริงต้องมาก่อนการสัมผัสเสมือน

หมายเลขบันทึก: 6861เขียนเมื่อ 11 พฤศจิกายน 2005 09:08 น. ()แก้ไขเมื่อ 28 มีนาคม 2012 08:55 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท