สามัคคี ปรองดอง สมานฉันท์ : ทางอยู่รอดของประเทศไทย
ดร. ถวิล อรัญเวศ
สามัคคี การปรองดอง สมานฉันท์ คงไม่ได้หมายความว่า คนไทยเรา ต้องคิดเหมือนกัน มีความเห็นเหมือนกัน ทำเหมือนกัน และห้ามสกัดกั้นความคิดเห็นของฝ่ายตรงกันข้าม เพราะไม่เช่นนั้น การถ่วงดุลอำนาจคงจะไม่มี กลไกการตรวจสอบ ควบคุคมการใช้อำนาจรัฐก็จะไม่มี ยิ่งจะเป็นอันตรายถ้ามองในเชิงการบริหารราชการแผ่นดิน
1. มีใจเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในการสกัดกั้นคนไม่ดี ไม่ให้ได้อำนาจรัฐเข้าไปปกครอง เพราะถ้าคนที่ไม่หวังดีต่อชาติบ้านเมือง หรือหวังดีแต่ลมปาก แต่ใจไม่หวังดี จะเป็นอันตรายใหญ่หลวงต่อชาติไทย
2. มีใจเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ไม่ให้ใครก็ตามมายุยุงให้คนไทยแตกแยกกันทางความคิดเห็น ที่จะเป็นภัยและบ่อนทำลายความมั่นคงของชาติ โดยเฉพาะการแอบอ้างลัทธิทางศาสนา การแอบอ้างความไม่จงรักภักดีต่อสถาบันสูงสุดของชาวไทยที่มีมาพร้อมกับการก่อตั้งชาติไทย
3. การมีใจเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในการปกป้องรักษาสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ไม่ให้ใครมาย่ำยี หรือใส่ร้ายไม่ว่าด้วยเหตุผลใด ๆ ก็ตาม
4. การยืนหยัดในกฎหมาย ยึดมั่นในหลักธรรมาภิบาล ไม่นำกฎหมู่เหนือกฎหมาย
5. การให้โอกาสผู้ที่ประชาชนไว้วางใจ ได้ทำงานตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้ เช่น วาระการดำรงตำแหน่งทางการเมือง 4 ปี ปล่อยให้เขามีโอกาสแสดง
ฝืมือจนครบเทอม ใม่คิดล้มกระดานก่อนครบกำหนด หรือยุบสภาฯ
6. การไม่อิจฉา ริษยากันในทางการเมืองจนเป็นเหตุให้ก่อให้เกิดความเสียหายต่อชาติบ้านเมือง
7. การไม่ยึดพรรคพวกจนลืมชาติบ้านเมือง เพราะถ้าลืมชาติบ้านเมืองเพราะกลังเสียเพื่อนเสียพวกเป็นอันตรายใหญ่หลวงสำหรับประเทศชาติ ต้องแยกกันนะครับระหว่างเพื่อน พรรคพวก กับชาติบ้านเมือง
8. การมองให้ไกล คือมองทะลุตลอดลอดแนว ว่า ถ้าคนในชาติต้องมาทำศึกกันเอง ใครได้ใครเสีย
บทสรุป
ทางออกของประเทศไทยในยุคที่คนไทยมีความสามัคคี ปรองดอง สมานฉันท์ คือ คนไทยต้องคำนึงถึงชาติบ้านเมืองมาก่อนเอาประเทศชาติเป็นตัวตั้ง ไม่ใช่เอาประโยชน์ส่วนตัว หรือประโยชน์ของพรรคพวกเป็นตัวตั้ง และมีจิตใจ ที่จะปกป้อง รักษา สถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นสถาบันคู่ชาติไทย ให้อยู่คู่ชาติไทยตลอดไป
ไม่มีความเห็น