๗๖. ๑ ไร่...๑ แสน


" การบริหารจัดการสวนหลังบ้านอย่าง “พอเพียง” บางทีผมอาจจะได้ขายผลผลิตในอีก ๒ – ๓ เดือนข้างหน้า..นำคุณค่าจากผืนดินสู่ท้องตลาด สร้างรายได้บ้างถึงแม้ว่าจะไม่มากมาย แต่ความรู้สึกภูมิใจที่ทำให้วิกฤติกลายเป็นโอกาส จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน.."

        โฆษณาชวนให้เชื่อมานานแล้ว ผมไม่ได้ติดตาม เมื่อ ๒ – ๓ ปีที่ผ่านมาเจอในเฟสบ่อยมาก ผมเลยไม่ทราบว่า จริงๆแล้วเขาทำกันอย่างไร? ในที่ดิน ๑ ไร่ทำเงินได้มากมาย

    ถ้าทำได้จริงๆ รายได้ก็น่าจะไม่ใช่ต่อเดือน น่าจะเป็นต่อปีมากกว่า...

    ผมเริ่มสนใจคำว่า ๑ ไร่ ..๑  แสน..ในช่วงเทศกาลต้านภัยโควิด ๑๙ เมื่อต้องใช้เวลาไปเพื่อการอยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติ ก็ต้องหาโอกาสสร้างคุณค่าให้กับตัวเอง...

        คุณค่า..ในการสร้างงาน มากกว่าการมองที่ตัวเลขของรายได้

        ผมไม่เคยรู้สึกอย่างนี้มาก่อน..ความรู้สึกเล็กๆเหมือนจะจริงจังช้าไป ตั้งคำถามเล็กๆน้อยๆว่า ทำไมไม่คิดมาก่อนหน้านี้  หรือน่าจะคิดได้เมื่ออายุย่างเข้า ๕๐ ปี

        เพราะตอนนี้อายุมากขึ้น บางครั้ง..คิดได้แต่มักจะทำไม่ได้ เนื่องจากเรี่ยวแรงลดน้อยถอยลง..แต่คิดอีกที อายุเป็นเพียงตัวเลข ไม่มีคำว่าสายสำหรับการเริ่มต้น

        ที่ดินในสวนหลังบ้าน ๑ ไร่เศษ ผมจะลุยอย่างหนักในช่วงปิดภาคเรียนเท่านั้น และทุกครั้งที่ปิดภาคเรียน..งานหลักคือถางหญ้า..ไม่มีอะไรไปมากกว่านี้..

        เพราะผมจะใช้เวลาส่วนใหญ่ทำงานอยู่ที่โรงเรียน ในสวนมีต้นลำไย มะขามเทศและมะขามหวานที่เติบโตเต็มที่แล้ว ไม่ต้องไปดูแลอะไรมาก

        แต่ปิดเทอมปีนี้ พิเศษกว่าทุกปี นอกจากจะต้องกักตัวอย่างเข้มงวด ด้วยการงดเดินทางท่องเที่ยว แต่ก็ต้องผจญกับความร้อนอบอ้าวและแห้งแล้งที่สุดในรอบหลายปี

        หยุดร้อนและแห้งแล้งชั่วคราว เมื่อมีฝนตกในวันที่ ๑๓ เมษายน..แต่ก็เป็นแค่วันเดียว..จากนั้นก็เหมือนเดิม

        ความแห้งแล้งที่ต่อเนื่องยาวนาน ทำให้ปีนี้สวนหลังบ้านไม่มีหญ้าปกคลุม สภาพทั่วไปดูโปร่งโล่งตา ใบไม้แห้งปลิดปลิวประพรมลงสู่ดิน ทับถมจนดูแน่นหนากว่าทุกปี

        มะขามและลำไย เริ่มผลิใบหลังจากได้น้ำฝน ผมเริ่มปลูกไม้ยืนต้นเป็นงานอดิเรก ใช้พื้นที่ที่ว่างเปล่า ปลูกเป็นแถวเป็นแนวไว้จะได้ดูแลรดน้ำได้ง่าย

        ผมจะรดน้ำตอนเช้า จากนั้นก็จะไปกักตัวเองอยู่ที่โรงเรียน แม้ว่าอากาศจะร้อน แต่ที่โรงเรียนก็ร่มรื่น มีโอกาสก็พัฒนาทั้งปรับปรุงและซ่อมแซมแหล่งเรียนรู้ ให้สดใสสวยงาม เพื่อเตรียมการต้อนรับปีการศึกษาใหม่

        งานสำคัญที่โรงเรียน..คือรักษาความปลอดภัยร่วมกับครูเวรประจำวัน และรดน้ำต้นไม้รอบๆบริเวณ..ผมไม่อยากเห็นต้นไม้ที่ปลูกต้องล้มตายไปต่อหน้าต่อตา

        โควิด ๑๙..ก็กลัว แต่ไม่ถึงกับกังวล เพราะคิดว่าดูแลและรับผิดชอบตัวเองได้มากพอ แต่โรงเรียนซึ่งเป็นสถานที่ราชการ เป็นงานที่ต้องรับผิดชอบโดยตรง...

        ผมคิดว่าไม่ควรเพิกเฉย ไม่ควรปล่อยวางหรือละทิ้ง..โรงเรียนต้องเป็นปัจจุบัน ตลอด ๒๔ ชั่วโมง ดังนั้น..ยามค่ำคืนจึงต้องมีเจ้าหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัยด้วย

        ตอนเย็น..ผมทำปุ๋ยหมักที่สวนหลังบ้าน ทำเป็นกองแบบที่ไม่ต้องพลิกกลับกอง ผมทำได้เยอะจนเกือบเต็มพื้นที่ เพราะมีใบไม้และน้ำหมักชีวภาพพร้อมอยู่แล้ว

        เพื่อนสนิทมิตรสหายชื่นชมในงานที่ผมทำในสวน แต่ตั้งข้อสังเกตว่า ผมใช้พื้นที่ไม่คุ้มเลย หมายความว่า ยังมีที่ว่างเปล่าให้ปลูกพืชผักได้นานาชนิด

        ผมอึ้งและทึ่งในคำพูดนี้..มันจริงเสียยิ่งกว่าจริงเสียอีก..

        ถึงแม้ว่า..ใครจะบอกว่าผมขยันและรับผิดชอบงานโรงเรียนเสียเหลือเกิน ผมจะไม่รู้สึกอะไรเลย..แต่ความรู้สึกตอนนี้..ทำไม?ไม่คิดที่จะขยันสร้างผลผลิตในสวนบ้าง

        ดินในสวนก็ดี สีดำร่วนซุย เป็นปุ๋ยอยู่ในตัวเอง ปลูกต้นไม้ได้ทุกชนิด ความคิดใหม่เกิดขึ้นพร้อมไวรัสโคโรน่าเข้ามาท่องเที่ยวเมืองไทย ผมจึงเริ่มท่องเที่ยวในสวนมากขึ้น

        ผมคิดว่า ถ้าโควิดจากไป ข้าวปลาอาหารอาจจะอัตคัดขาดแคลน วัสดุเครื่องปรุงหรือเครื่องแกงต่างๆและผักปลอดสารพิษอาจจะราคาแพงและหาทานยาก

        การบริหารจัดการสวนหลังบ้านอย่าง “พอเพียง” บางทีผมอาจจะได้ขายผลผลิตในอีก ๒ – ๓ เดือนข้างหน้า..นำคุณค่าจากผืนดินสู่ท้องตลาด สร้างรายได้บ้างถึงแม้ว่าจะไม่มากมาย แต่ความรู้สึกภูมิใจที่ทำให้วิกฤติกลายเป็นโอกาส จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน..

        หลายวันมานี้ ผมจึงวางแผนและลงมือปฎิบัติจริง เริ่มจากการเพาะพริก มะเขือ ปลูกผัก ตะไคร้และข่า ขยายพันธุ์ว่านหางจระเข้ ราชาวดี มะลิ ฟ้าทะลายโจร รวมทั้งปลูกทองอุไรและดาวเรือง

        ขณะที่ทำงานในสวนหลังบ้าน ผมคิดถึงคำว่า.. ๑ ไร่ ๑ แสน ที่เป็นแบบแสนสุขเสียมากกว่าอะไรทั้งนั้น ไม่มีเงื่อนไขมากนัก แต่อยากใช้เวลาและใช้ที่ดินให้คุ้มค่า

        กว่าจะถึง ๑ แสนบาท..คิดว่าคงยาก..เพราะตอนนี้พอเริ่มสนุกมีความสุขกับงานในสวน ก็เลยทำไม่หยุดฉุดไม่อยู่ เกือบแสนสาหัสแล้วล่ะ

ชยันต์  เพชรศรีจันทร์

๒๒  เมษายน  ๒๕๖๓

หมายเลขบันทึก: 677110เขียนเมื่อ 22 เมษายน 2020 09:07 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 เมษายน 2020 09:18 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

เข้าทีครับเพิ่มเติมแบบลุงนิล คอนโด9ชั้นอีกหน่อยครับ ได้แนวคิดอย่างไร นำเสนอด้วยนะครับแต่ไร่อยู่ที่ไหนครับ

เห็นมีแท็งคน้ำอยู่ด้วยได้น้ำจากไหนครับ

ทุ่งดินดำรีสอร์ทครับ..น้ำในรีสอร์ท หน้าแล้ง น้ำจะขาดแคลน และไหลแบบขี้เกียจ ผมเลยกักเก็บไว้เอง ตอนนี้ ก็เลยไม่ค่อยจะลำบากเรื่องน้ำ แต่ลำบากใจ เนื่องจาก..เป็นครูในสายเลือด พอฝึกเป็นเกษตรกร..ต้องฮึดสู้ และอึดๆหน่อย ครับ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าน่าจะไปรอด เพราะดินดำดีมีสารอาหารของพืชเยอะ..แต่ไม่ค่อยจะมีพืชจะให้กิน ครับอาจารย์

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท