การเลือกสายพันธุ์
2.หนูแฮมเตอร์ สายพันธุ์ Winter White hamster เป็นสายพันธุ์ที่มีขนาดเล็กรองลงมาแต่ยังมีคนนิยมเลี้ยงเป็นอย่างมากเช่นกันและมีความเชื่องพอ ๆกับไจแอนท์
3.หนูแฮมเตอร์ สายพันธุ์ Roborovski hamster เป็นสายพันธุ์ที่ว่องไวตัวเล็กชอบอยู่เป็นฝูง แต่สามารถเลี้ยงให้เชื่องได้ยากคนจึงนิยมเลี้ยงไว้ดูเล่นแต่สามารถฝึกให้เชื่องได้
ข้องควรระวังและต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด
การเลี้ยงแฮมสเตอร์ควรเลี้ยง 1 ตัวต่อ 1 กรง เนื่องจากแฮมสเตอร์เป็นสัตว์หวงถิ่นหากมีแฮมสเตอร์ตัวอื่นเข้ามาจะเกิดการกัดกันทำให้เกิดบาดแผลหรือตายได้ ยกเว้น สายพันธุ์ Roborovski ที่สามารถเลี้ยงรวมได้แต่ต้องเป็นพี่น้องที่โตมาด้วยกัน
อุปกรณ์ที่จำเป็นในการเลี้ยงแฮมสเตอร์
1.กรง (ไจแอนท์ควรเป็นกรงขนาด 60 ซม. ขึ้นไปเพราะตัวใหญ่ต้องการพื้นที่มาก หากพื้นที่เล็กไปอาจเกิดความเครียดและตายได้)
2.ขวดน้ำ
3.ห้องน้ำและทรายอาบน้ำ
4.อาหาร
5.รองกรง เช่น ก้านปอ ขี้เลื่อย เคธี่(เยื่อกระดาษ)
6.จักรวิ่ง (ไจแอนท์ควรมีขนาด 19 ซม.ขึ้นไป)
7.บ้านหรือที่ทำรัง
รองกรงแนะนำ
ก้านปอ สามารถดูดซับกลิ่นและน้ำได้ดี มีราคาถูกแต่อาจแข็งทิ่มน้องได้ ราคาประมาณ 70-90 บาท (1 กก.)
เคธี่ เป็นเยื่อกระดาษสามารถดูดซับกลิ่นและน้ำได้ดี สามารถนำไปทำรังได้ปลอดภัยไม่เป็นอันตราย แต่มีราคาสูง ประมาณ 220 – 300 บาท
อาหารที่แนะนำ
การเลี้ยงดูเบื้องต้น
แฮมสเตอร์เป็นสัตว์หากินตอนกลางคืน ดังนั้นแฮมสเตอร์จะนอนหลับในตอนกลางวันและตื่นในตอนกลางคืน ไม่ควรไปรบกวนเวลานอน
เมื่อรับน้องมาเลี้ยงสิ่งแรกที่ควรทำคือ ให้น้องได้ปรับตัวโดยการไม่ไปยุ่งกับน้อง เพราะน้องอาจเกิดความจากการแยกจากเพื่อนหรือพ่อแม่ ให้น้องได้ปรับตัวได้สำรวจที่อยู่ใหม่เป็นเวลา 2-3 วัน
เมื่อผ่านช่วงปรับตัวไปแล้วควรเริ่มด้วยการฝึกให้เชื่อง (แต่หากน้องยังมีความเครียดอยู่ควรให้เวลาน้องปรับตัวเอก) การฝึกแฮมสเตอร์ให้เชื่องนั้นสามารถทำได้โดยการ จับน้องบ่อย ๆชนน้องเคยชินอาจจะเป็นการจับน้องขึ้นมาแล้วป้อนอาหารน้องจากมือ ทำแบบนี้สม่ำเสมอแล้วน้องจะเชื่องเอง ที่สำคัญผู้เลี้ยงจะต้องมีความอดทนในการฝึกและไม่ล้มเลิกการฝึก
สิ่งที่ควรรู้
แฮมสเตอร์ไม่เฉามือ จับบ่อยแค่ไหนก็ได้ยิ่งจับยิ่งเชื่อง แต่ควรให้เวลาน้องพักผ่อนด้วยหากไม่ได้พักผ่อนจะเกิดความเครียด
แฮมสเตอร์จะมีอายุขัย ประมาณ 2-2 ปีครึ่ง หากแฮมสเตอร์ป่วยจะต้องได้รับการรักษาจากคลีนิครักษาสัตว์พิเศษ
ไม่มีความเห็น