ผัดแอสพารากัส หรือ หน่อไม้ฝรั่ง


แอสพารากัส หรือ หน่อไม้ฝรั่ง เป็นพืชพื้นเมืองแถบยุโรปและแอฟริกา คุณสมบัติที่สำคัญอยู่ที่ความหวาน กรอบ และมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว รสชาติดี มีคุณค่าทางอาหารสูง ชาวกรีกเป็นชนชาติแรกที่ริเริ่มปลูกหน่อไม้น้ำเมื่อ 2,500 ปีมาแล้ว และต่อมาก็เป็นที่นิยมบริโภคกันมากสำหรับชาวกรีก โรมัน และอียิปต์โบราณ

คุณค่าทางอาหารของหน่อไม้ฝรั่ง ในหน่อไม้ฝรั่งอุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ จนได้รับการกล่าวขานว่าเป็นผักที่มีประโยชน์สุดยอดขั้นเทพ ทั้งนี้เพราะหน่อไม้ฝรั่งเป็นแหล่งรวมของวิตามินเค วิตามินบี โฟเลต วิตามินซี และวิตามินเอ อุดมไปด้วยวิตามินบี 1 บี2 บี3 และบี6 มีปริมาณโฟลานินสูง อุดมด้วยแร่ธาตุ เช่น สังกะสี ทองแดง ฟอสฟอรัส โพแตสเซียม และเซเลเนียม มีกากใยสูง มีโปรตีนประมาณ 3 กรัมต่อน้ำหนัก 5.3 ออนซ์ ไม่มีไขมันหรือคอเลสเตอรอล มีปริมาณเกลือต่ำมาก แต่ละต้นมีแคลอรี่น้อยกว่า 4 แคลอรี่ นอกจากนี้หน่อไม้ฝรั่งยังอุดมด้วยสารกลูตาไธโอน

คุณประโยชน์ของหน่อไม้ฝรั่งต่อสุขภาพ

เป็นอาหารของแบคทีเรียในลำไส้ใหญ่ หน่อไม้ฝรั่งเป็นหนึ่งในผักไม่กี่ชนิดที่ประกอบด้วยคาร์โบไฮเดรตชนิดที่เรียกว่า อินูลีน ซึ่งเป็นสารประเภทฟรุตโตโอลิโกแซคคาไรด์ มีลักษณะเฉพาะ คือ มีรสชาติที่หวานคล้ายน้ำตาล แต่จะไม่ถูกย่อยในทางเดินอาหารจึงไม่ให้พลังงานและไม่เพิ่มระดับน้ำตาลอินูลิน จะไปช่วยให้แบคทีเรียที่มีประโยชน์ในลำไส้เพิ่มจำนวนมากขึ้น และยับยั้งการเพิ่มจำนวนของแบคทีเรียตัวร้ายที่ทำให้เกิดโรคท้องร่วง

หน่อไม้ฝรั่งเป็นอาหารที่มีกลูต้าไธโอนอยู่มากที่สุด จึงมีประสิทธิภาพในการต้านมะเร็ง สารกลูตาไธโอนเป็นสารต้านอนุมูลอิสระจึงช่วยชะลอความเสื่อมของร่างกาย ช่วยให้ตับขจัดสารพิษออกจากร่างกาย และนำมาใช้รักษาโรคมะเร็ง

กรดอะมิโนและแร่ธาตุในสารสกัดจากหน่อไม้ฝรั่งสามารถช่วยแก้อาการเมาค้างและป้องกันเซลล์ตับจากพิษของแอลกอฮอล์ได้ หน่อไม้ฝรั่งอุดมไปด้วยโฟลาซินซึ่งเป็นวิตามินที่ช่วยป้องกันภาวะหลอดประสาทของทารกในครรภ์ปิดไม่สนิท ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เกิดความพิการและเสียชีวิตในเด็ก หน่อไม้ฝรั่งช่วยลดน้ำหนักเช่นเดียวกับผักส่วนใหญ่ ซึ่งมีน้ำตาลน้อย ไม่มีไขมัน มีคาร์โบโฮเดรตตัวดีและมีกากอาหารสูง

ข้อควรระวังในการรับประทานหน่อไม้ฝรั่ง หน่อไม้ฝรั่งมีพิวรีนสูง มีฤทธิ์กระตุ้นอาการปวดข้อของผู้ป่วยโรคเกาต์ได้ ดังนั้นผู้ป่วยโรคเกาต์จึงควรหลีกเลี่ยงหรือรับประทานในปริมาณน้อย สารอาหารในหน่อไม้ฝรั่งมีส่วนทำให้การเผาผลาญพลังงานในร่างกายสูงขึ้น จนทำให้ผอมและเหนื่อยง่าย ผู้ป่วยโรคไทรอยด์จึงควรหลีกเลี่ยงการรับประทานหน่อไม้ฝรั่ง นอกจากนี้ผู้ป่วยโรคมะเร็งก็ควรรับประทานหน่อไม้ฝรั่งในปริมาณที่เหมาะสม แม้ว่าหน่อไม้ฝรั่งจะมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยต้านมะเร็งได้ แต่ก็อาจจะเป็นอันตรายได้ถ้ารับประทานในปริมาณที่มากเกินไป และข้อควรระวังอีกประการหนึ่งคือควรหลีกเลี่ยงการรับประทานหน่อไม้ฝรั่งที่ปรุงไม่สุก เพราะนอกจากจะมีกลิ่นเหม็นเขียวแล้ว ความแข็งของเปลือกจะทำให้เคี้ยวยาก ย่อยยาก ทำให้ลำไส้ต้องทำงานหนักขึ้น

เมนูอาหารวันนี้ คือผัดผักรวมน้ำมันหอย นำหน่อไม้ฝรั่งหรือแอสพารากัสมาผัดรวมกับผักชนิดอื่นๆ ได้แก่ เห็ดหอมสด แครอท ข้าวโพดอ่อน รับประทานกับข้าวต้มกุ๊ย และ กระเทียมดองผัดไข่ อร่อยแบบง่ายๆแต่ได้คุณค่าทางอาหารค่ะ

หมายเลขบันทึก: 676113เขียนเมื่อ 16 มีนาคม 2020 14:11 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 มีนาคม 2020 05:37 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท