ทำไมจึงได้สนใจเรื่องประวัติศาสตร์


เขาบอกกันว่า “ คนที่ไม่รู้ประวัติศาสตร์ของตัวเอง เป็นคนไม่มีอนาคต พัฒนายาก ก็คือคนที่ไม่รู้รากเหง้าของตัวเอง ”

ผมได้เข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องงานประวัติศาสตร์โดยไม่ได้ตั้งใจโดยได้เข้าไปร่วมกับมูลนิธิซาซากาว่าของญี่ปุ่น เขาศึกษาเรื่องเชิงประวัติศาสตร์เหมือนกัน และประวัติศาสตร์ที่ผมดูแล้วน่าสนใจมากก็คือประวัติศาสตร์ที่ย้อนกลับไปสัก 1,000 กว่าปี เป็นประวัติศาสตร์ตั้งแต่สมัยมะละกา สมัยนครลังกาสุกะ (นครปัตตานี) เกี่ยวกับเรื่องภาคใต้ เป็นประวัติศาสตร์ที่ย้อนกลับไปค่อยข้างมาก ที่พูดว่ามากเพราะว่าขนาดกรุงสุโขทัยก็แค่ประมาณ 700 ปี ประมาณปี พ.ศ.1800 แต่ประวัติศาสตร์ภาคใต้นี้ย้อนกลับไปกว่านั้นอีก 700 กว่าปี เพราะฉะนั้นก็เป็นการย้อนกลับไปค่อนข้างเยอะอยู่พอสมควรเหมือนกัน ผมเคยได้ร่วมศึกษาเชิงประวัติศาสตร์ โดยจุดประสงค์ที่ศึกษาทางประวัติศาสตร์ในครั้งนั้น คือ

         ประการแรกก็เพื่อที่จะจัดการเรื่องเกี่ยวกับองค์ความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์โดยเฉพาะจังหวัดใน3จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่เขาต้องการให้รู้ครบถ้วนทุกมิติและเขาจะมองไปถึงพื้นฐานความสมานฉันท์และความเข้าใจร่วมกันที่จะดำเนินการเป็นงานวิจัยและงานวิชาการ

      ประการที่2 เพื่อนำองค์ความรู้ที่เก็บรวบรวมได้ทั้งหมดในทุกมิตินำมาสร้างความเข้าใจร่วมกันและเป็นฐานข้อมูลสำคัญที่จะนำไปสู่ข้อเสนอแนะในเชิงนโยบายในอนาคตต่อไป

          และประการที่3ก็คือเพื่อให้ได้เผยแพร่ออกไป เพื่อให้ได้ทราบว่าประวัติศาสตร์จริงๆแล้วมีความเป็นมาอย่างไร

          ผมก็ได้มีการศึกษาเพื่อไปเตรียมพูดเกี่ยวกับเรื่องประวัติศาสตร์นี้ซึ่งก็ทำให้ผมได้รับความรู้ในเรื่องนี้มากขึ้น แท้ที่จริงเรื่องประวัติศาสตร์เราเคยเรียนมาตั้งแต่เด็กเวลาเรียนแล้วรู้สึกว่าประวัติศาสตร์น่าเบื่อน่าง่วงนอนไม่น่าสนใจ แต่พอมาถึงจุดวันนี้แล้วผมรู้สึกว่าประวัติศาสตร์มันน่าตื่นเต้น น่าสนใจ น่าค้นคว้า น่าติดตามพอสมควรเวลาที่ผมอ่านเรื่องประวัติศาสตร์ ผมชอบสังเกตเนื้อหาเกี่ยวกับคริสตศักราชกับพุทธศักราช แล้วเอามาเปรียบเทียบว่าช่วงนี้อยู่เวลาไหนเช่นในหนังสือเขาบอกว่านครลังกาสุกะเขาบอกว่าอยู่ในช่วงประมาณปี 1000ต้นๆ ผมก็ไปเปรียบเทียบว่า มันใกล้เคียงกับนครหริภุญไชยที่ในสมัยนั้นนางจามเทวี ไปปกครองทางภาคเหนือและก็เป็นช่วงกับที่ขอมปกครองอยู่ที่ละโว้ (ลพบุรีปัจจุบัน) พอนึกขึ้นไปแล้วขอมปกครองตั้งแต่ประมาณปี ค.. 700 พอผมไปศึกษาดูในแผนที่แล้วทำไมขอมปกครองแล้วพื้นแผ่นดินทั้งหมดอยู่กับขอมล่ะ พื้นแผนดินของไทยบางส่วนโดยเฉพาะภาคกลางทั้งหมดก็อยู่กับขอมอันนี้ก็น่าสนใจมาก ก็เลยมองย้อนกลับไปว่า ตอนนั้นขอมปกครองมีการสร้างปราสาท ที่มีพื้นที่ปราสาทไกลไปถึงที่กาญจนบุรีคือประสาทเมืองสิงห์ที่หลายท่านเคยไปเที่ยวกันมา 


           ที่ขอมปกครองนครพลอลิน ตรงนี้ก็ทำให้เห็นว่าตรงที่ที่เป็นภาคใต้ทั้งหมดทางภาคใต้ตอนเหนือขึ้นมา ผมก็ได้อ่านศึกษาดู เออ เมื่อก่อนอาณาจักรตรงนี้ทั้งหมดเขาเรียกว่าตัมพลอลินผมก็มีข้อสงสัยว่าทำไมแต่ก่อนขอมนี่ขยายอาณาเขตเข้ามาทั่วไปหมดเลยนะ ภาคใต้ตอนต้นนี่ก็อยู่กับขอมแต่ทำไมขอมถึงไม่สามารถแผ่อาณาเขตไปถึงภาคใต้ได้นี่เป็นสิ่งที่นักประวัติศาสตร์จะต้องไปค้นคว้าหาว่าเพราะอะไร แต่ว่าที่ภาคใต้แต่ก่อนนี้เขามีการบูชาเทวรูป พูดง่ายๆ ว่ายังมีการยึดติดวัตถุเทวรูป พระพุทธรูปพุทธสถานอะไรต่างๆ นี้ หากว่าขุดลงไปในพื้นแผ่นดินภาคใต้ก็ต้องเจอสิ่งของต่างๆ เหล่านี้มากมายในบริเวณนี้เป็นบริเวณที่ศาสนาอิสลามยังไม่ได้แผ่ขยายมาถึงตรงนี้ ผมยิ่งอ่านก็ยิ่งรู้สึกมันน่าตื่นเต้นผมอ่านต่อไปก็มีข้อสงสัยอีกว่า แล้ว เอ๋ ทำไมคนจึงได้เปลี่ยนจากการนับถือเทวรูปกลายมาเป็นศาสนาอิสลามได้อย่างไร ประเด็นนี้น่าค้นหาต่ออีก ผมก็ได้อ่านเจอบางส่วนคือการที่มีพ่อค้าที่มาจากชวา มาจากอินเดีย มาจากอาหรับต่างๆ กลุ่มเหล่านี้ได้เข้ามาเช่นนี้ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต้องเล่าลงรายละเอียดอีกมากมายจึงยังไม่ขอลงลึกไว้มาก


หมายเลขบันทึก: 676106เขียนเมื่อ 16 มีนาคม 2020 08:55 น. ()แก้ไขเมื่อ 16 มีนาคม 2020 09:10 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท