คนที่มีความฝันหรือสำคัญผิดว่าเชือกเป็นงู เมื่อตื่นขึ้นมาสามารถรู้ถึงธรรมชาติแท้จริงของความฝัน แต่ขณะกำลังฝันอยู่ย่อมไม่รู้ตัวว่ากำลังฝันไป พอตื่นรู้ก็เป็นอิสระจากความฝันนั้นได้ เปรียบได้กับจิตมนุษย์ปกติผ่องใสในตนเอง แต่ปั่นป่วนขุ่นมัวเพราะแรงลมแห่งอวิชชา จิตเคลื่อนไหวเองไม่ได้หากอวิชชาดับลง แต่จิตที่เป็นเนื้อแท้แห่งโพธิจะเอิบอิ่มชุ่มชื่นดุจน้ำดำรงอยู่ทำลายไม่ได้
สำหรับความเข้าใจสัมโพธิญาณนั้น ดังนี้
1.สภาวะเนื้อแท้แห่งสัมโพธิญาณคือ จิตซึ่งเป็นสิ่งที่มีอยู่จริงเรียกว่าอสัมพัทธ์หรือโลกุตระ ถือว่าเป็นจิตเดิมแท้ประภัสสร แต่จิตมาเศร้าหมองเพราะอุปกิเลสจรมา
2.สภาวะเนื้อแท้แห่งสัมโพธิญาณคือ จิตหนึ่งเดียวที่เที่ยงแท้นิรันดร์
3.สภาวะเนื้อแท้แห่งสัมโพธิญาณคือ กระจกเงาที่ไร้มลทิน
4.สภาวะเนื้อแท้แห่งสัมโพธิญาณคือ จิตมีอิทธิพลสร้างคุณงามความดีเหมือนกระจกเงาสะท้อนภาพเหมือนผู้ส่องกระจกนั้น
สัตว์โลกทั้งปวงโดยเนื้อแท้แล้วล้วนดำรงอยู่ในตถตา มีความเสมอกันเป็นหนึ่งเดียวกันดุจเครื่องปั้นดินเผาที่ทุกชิ้นส่วนล้วนทำจากดิน กาลต่อมาสัตว์โลกเหล่านั้นเกิดทับถมด้วยการไม่รู้ธรรมเรียกว่าอวิชชาขั้นมูลฐานทำให้เห็นความแตกต่างกันมี 2 อย่างคือ การปรากฏตัวดุจแสงมายากลนานาประการของ ตถตา และนิสัยของคนยังมีอวิชชาถูกทำให้มืดบอด
สำหรับความเข้าใจในเรื่องจิต มโน วิญญาณ ในทัศนะมหายานนั้น ดังนี้
1.จิตคือ อาลัยวิญญาณ เป็นจิตสากล ถือว่าเป็นวิญญาณต้นเค้าหรือพุทธภาวะ
2.มโนคือ มโนวิญญาณ เป็นจิตที่มีสำนึกรู้สึกว่าเป็นตัวกูของกู
3.วิญญาณคือ จิตของคนทั่วไปหรือสัญชานการรับรู้ทางประสาทสัมผัสทั้ง 5 นั้น
สำหรับบุรุษหรือสตรีผู้หลงทางนั้นเพราะเกิดความสำคัญผิดในทิศทางธรรมดังนี้
1.รู้ไม่ทันอวิชชาจะทำลายจิตประภัสสร
2.แอบอยู่ในจิตก่อเกิดความปั่นป่วนในการรับรู้ผิด ๆ
3.จำลองภาพภายนอกทั้งหมดเหมือนกระจกเงาให้เห็นจำลองภาพทางอารมณ์
4.ทำหน้าที่เป็นสิ่งที่มืดมัวและสว่างไสว
5.เชื่อมต่อความนึกคิดงมงายและเก็บสะสมตลอดสาย
เกี่ยวกับโลก 3 คือ ไตรภูมินั้นมีกามภูมิวัตถุ รูปภูมิและอรูปภูมิ ตามแนวคิดท่านวะสุพันธุ ผู้ก่อตั้งพุทธนิกายโยคาจาร กล่าวทำนองว่า สิ่งที่เป็นไตรภูมินั้นแท้จริงเป็นเพียงจิตเท่านั้น ด้วยทุกสิ่งเป็นดุจภาพเงาในกระจกที่ไร้วัตถุจริงที่จะจับต้องได้ เพราะจิตไม่ใช่ของจริง
แต่สรรพสิ่งทั้งหมดเกิดจากจิตตามเงื่อนไขความคิดงมงาย จิตที่ได้บรรลุหรือตรัสรู้แล้วจะไม่แปรรูป นอกนั้นจิตย่อมเปลี่ยนรูปและไม่เป็นเอกภาพสมบูรณ์หรือตถตา แง่คิดจากหลวงจีนฝ่าจั้ง กล่าวทำนองว่า ความไม่รู้เท่านั้นเป็นที่มาแห่งความเศร้าหมองของสัตว์โลก.
ขอบคุณครับ คุณ ศุภณัฐ เจตน์ครองสุข