ผลลัพธ์ของสมการการทำงาน
“ความเป็นครู”...หากให้พูดถึงวิชานี้ เพื่อน ๆ ในห้องคงจะนึกถึงงานที่ต้องทำในทุกอาทิตย์แน่ ๆ เลย ฉันไม่ได้พิมพ์ผิดนะคะ วิชานี้ “งานเยอะ” และมีงานให้เราทำทุกอาทิตย์จริง ๆ ค่ะ ไม่มีอาทิตย์ไหนเลยที่ไม่ได้ทำงาน ซึ่งแน่นอนว่าเราไม่ค่อยโอเค เพราะไม่เข้าใจว่างานที่อาจารย์ให้ทำ “ทำแล้วเราได้อะไร” ไม่เห็นจะเกี่ยวกับวิชาความเป็นครูตรงไหนเลย แต่เมื่อนานวันเข้า เราได้ซึมซับความเป็นครูมากขึ้น เราจึงเข้าใจว่า สิ่งที่เราทำไป เราได้อะไรจากมันบ้าง
ซึ่งงานที่ อาจารย์กิตตินันท์ หอมฟุ้ง อาจารย์ประจำวิชาได้มอบหมายให้เราทำนั้น มีหลากหลายรูปแบบ สำหรับฉัน ฉันคิดว่านี่เป็นวิธีการสอนที่เสี่ยงมากค่ะ เสี่ยงที่จะถูกผู้เรียนไม่ปลื้ม เพราะผู้เรียนไม่เข้าใจสิ่งที่อาจารย์ต้องการถ่ายทอดให้ แต่สุดท้ายก็เพราะงานของอาจารย์นี่แหละค่ะ ที่ทำให้ฉันได้รู้สึกรักและภูมิใจในควาเป็นครูมากขึ้น วันที่เหนื่อยและท้องานภาระงาน เมื่อไหร่ที่ได้มาเรียนวิชาของนี้ ฉันเหมือนได้มาเติมพลัง มาสร้างกำลังใจให้มีแรงกลับไปทำงานต่ออีก และมันเป็นเช่นนี้ทุกครั้งที่ได้เข้าเรียน
สำหรับงานที่อาจารย์ให้พวกเราทำ มีดังนี้ค่ะ
1. การสมัครสมาชิก Classstart.org
การสมัครเป็นสมาชิกใน Classstart ครั้งนี้ ถือเป็นความรู้ใหม่สำหรับฉันเลยก็ว่าได้ เพราะฉันไม่เคยรู้จักกับเว็บนี้มาก่อน พอได้มาลองใช้จึงรู้ว่ามันเป็นช่องทางการเรียนรู้ที่สะดวกและรวดเร็ว เหมาะสำหรับยุคปัจจุบันที่โซเชียลกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต และการสั่งงานผ่าน Classstart นี่แหละที่ทำให้ฉันรู้สึกว่าตัวเองต้องติดตามและหมั่นเข้าไปดูบ่อย ๆ ว่ามีงานใหม่เข้ามาไหม อีกทั้งยังสามารถกลับไปดูงานเที่ผ่านมาได้อีกด้วย และหากเป็นไปได้ ฉันจะนำสิ่งนี้ไปประยุกต์ใช้กับการเรียนการสอนในรายวิชาของฉันต่อค่ะ
2. การเขียนประวัตินักศึกษา
งานนี้จะว่าง่ายก็ง่าย จะว่ายากก็ยาก เพราะคำถามบางคำถาม ฉันก็ไม่รู้จะตอบอย่างไร หรือบางคำถาม เช่น วิชาหรือทักษะที่ถนัดหรือสนใจเป็นพิเศษ มันเป็นคำถามที่ฉันต้องถามตัวเองซ้ำไปซ้ำมาว่าจริง ๆ ฉันถนัดอะไร ซึ่งคำถามเหล่านี้เป็นสิ่งที่ทำให้ฉันได้กลับมาทบทวนและถามตัวเองอีกครั้งว่า ฉันชอบหรือถนัดอะไร ฉันมีมีความคาดหวังและเป้าหมายในชีวิตอย่างไร และมันทำให้ฉันรู้สึกตัวเองขึ้นมาว่าที่ผ่านมาฉันได้ใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อย และไม่มีเป้าหมายในชีวิตที่ชัดเจนเลย และถึงเวลาแล้วที่ฉันจะต้องสนใจอนาคตตัวเองให้มากกว่านี้
3. การทำอัลบั้มประวัตินักศึกษา
งานนี้เป็นงานที่ตัวฉันเองไม่ค่อยได้มีส่วนร่วมมากเท่าไหร่ เพราะส่วนใหญ่เป็นงานกราฟฟิค ตัดต่อ สิ่งที่ฉันพอจะช่วยได้คือการตรวจสอบข้อมูลและช่วยออกความเห็นในบางประเด็นเท่านั้น แต่สิ่งที่ฉันได้จากงานนี้มาก ๆ คือ มันทำให้ฉันได้รู้จักและสนิทกับเพื่อน ๆ ในห้องมากขึ้น พูดคุยกันมากขึ้น ทำให้บรรยากาศภายในห้องสนุกสนานและเป็นกันเองมากขึ้นด้วยค่ะ
4. การวิเคราะห์วีดิทัศน์
“ทบทวนความเป็นครู” ทำให้ฉันได้กลับมาคิดกับตัวเองอีกครั้งว่า ทำไมฉันถึงอยากมาเป็นครู แล้วความตั้งใจแรก ๆ ที่มากับตอนนี้มันยังเหมือนเดิมอยู่ไหม ฉันทำหน้าที่ของตัวเองดีพอหรือยัง แต่สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งที่ฉันได้คือ การเป็นครูต้องใช้ความอดทนและพยายาม เพราะกว่าจะเห็นผลลัพธ์ต้องใช้เวลาพอสมควร
“ทบทวนตัวเอง” วีดิทัศน์ชุดนี้ ทำให้ฉันได้กลับมาทบทวนตัวเองอีกครั้งว่าที่ผ่านมาฉันใช้ชีวิตอย่างไร ฉันหลงลืมใครไปหรือไม่ หลงลืมว่ามีใครคอยห่วงใยฉันอยู่ข้างหลังและรอเวลาที่จะได้พบกันหรือไม่ หลายครั้งที่ฉันมีความสุขจากสิ่งรอบข้าง คนรอบข้าง จนบางทีก็หลงลืมครอบครัว สนุกสนานจนลืมโทรหาพวกท่าน วีดิทัศน์นี้ช่วยเตือนสติฉันว่าอย่าหลงลืมคนข้างหลังที่รอเรากลับไปหาทุกวัน
“ครูดี คือ อะไร” ทำให้ได้เห็นมุมมองความคิดของครูที่ประพฤติตนเป็นครูที่ดี ว่ามีลักษณะอย่างไร เหตุใดครูเขาจึงทำเช่นนั้น แล้วการเป็นครูที่ดีให้อะไรกับเขา คำถามเหล่านี้ได้รับคำตอบแล้วจากวีดิทัศน์นี้ และก็ทำให้ฉันได้คิดกับตัวเองอีกว่า สิ่งที่ฉันทำอยู่ คือสิ่งที่ครูที่ดีควรทำแล้วหรือไม่
“Children full of Life” เป็นวีดิทัศน์ที่เปิดโลกกว้างให้ฉันมาก ๆ เพราะทำให้ฉันได้เห็นวิธีการจัดการเรียนการสอนแบบใหม่ ที่สอนให้เด็กมีความรับผิดชอบต่อตัวเอง ต่อส่วนรวมและเห็นอกเห็นใจเพื่อนมากขึ้น หากมองย้อนกลับมาที่ตัวฉันเอง ก่อนหน้านี้ฉันไม่เข้าใจเลยว่าเพราะอะไรอาจารย์ถึงให้ฉันและเพื่อน ๆ เขียนบล็อกหรือเขียนอะไรต่าง ๆ มากมาย แต่วีดิทัศน์นี้ตอบข้อข้องใจให้ฉันหมดแล้ว นั่นคือ อาจารย์ต้องการให้พวกเราเข้าใจตัวเอง เข้าใจเพื่อนและรู้จักเห็นใจกันและกันมากขึ้น
“จิตวิญญาณความเป็นครู” ทำให้ฉันคิดได้ว่าสิ่งแรกที่คนเป็นครูต้องคำนึงถึงเสมอคือ นักเรียน ไม่ใช่ลาภ ยศ ชื่อเสียงหรือเงินทอง ครูต้องมีความอดทน พยายาม มุ่งมั่น และตั้งใจ ที่จะขัดเกลาเด็กให้เป็นคนดี เป็นบุคลากรที่มีคุณภาพของสังคม และสิ่งที่ครูทุกคนจำเป็นต้องมีคือ จิตวิญญาณของความเป็นครู เพราะสิ่งนี้จะเป็นแรงกระตุ้นให้เราตั้งใจทำหน้าที่อย่างเต็มที่ที่สุด
“ในหลวงรัชกาลที่ 9 ครูของแผ่นดิน” ฉันเคยคิดว่างานที่ฉันทำมันเหนื่อย ตั้งใจทำอะไรให้ บางทีเด็กก็ไม่เห็นถึงความสำคัญ ท้อ อยากล้มเลิกความตั้งใจที่จะเป็นครู อยากไปทำงานอื่นที่สบายกว่านี้ แต่เมื่อได้เห็นสิ่งที่พระองค์ท่าน จึงได้รู้ว่า ปัญหาต่าง ๆ ที่ฉันเจอมันแค่เล็กน้อย และมีกำลังใจในการทำหน้าที่ของตัวเองต่อไปให้ดีที่สุด เพื่อจะได้ช่วยแบ่งเบาภาระให้พระองค์ท่านได้
5. การเขียน “จดหมายจากมหาวิทยาลัยถึงคนไกลที่อยู่ทางบ้าน”
ทำให้ฉันกล้าที่จะพูดในสิ่งที่อยากพูดแต่ไม่กล้าพูดออกไป ทำให้ฉันมีโอกาสได้ถ่ายทอดความรู้สึกรักและคิดถึงครอบครัวผ่านการเขียนจดหมายเป็นครั้งแรก และสำคัญที่สุดคือ ครอบครัวฉันรักและใส่ใจกันและกันมากขึ้นค่ะ
6. การเขียน Mind map
การเขียน mind map สำหรับฉันถือว่าเป็นงานที่ใช้เวลามากพอสมควร เพราะฉันต้องอ่านเนื้อหาให้เข้าใจก่อน จากนั้นจึงสรุปสาระสำคัญออกมา แล้วจึงมาออกแบบ mind map ว่าจะเขียนรูปแบบไหน เขียนอย่างไรให้ดูไม่รกเกินไป ซึ่งฝึกให้ฉันได้รู้จักวางแผนการทำงานมากขึ้น อีกทั้งยังทำให้ฉันรู้วิธีการเขียน mind map ที่ถูกต้องด้วย
7. วิเคราะห์อัตชีวประวัติ “คุณครูโกมล คีมทอง”
ครูโกมล ถือเป็นแบบอย่างในการเป็นครูที่ดีและทุ่มเทมาก ๆ อีกคนหนึ่งสำหรับฉันในการเป็นครูที่ดี เป็นบุคคลที่มีความสามรถหลากหลายและนำความสามารถของตัวเองมาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อบุคคลอื่น รวมทั้งความเสียสละตนเอง อุทิศตนเพื่อมาเป็นครูด้วยจิตวิญญาณ เป็นบุคคลตนแบบที่มีความเป็นครูด้วยใจที่แน่วแน่และไม่หวั่นเกรงต่ออุปสรรคปัญหาต่าง ๆ
8. การจัดการความรู้โดยใช้ BLOG
การเขียนบล็อกทำให้ฉันรู้จักตัวเอง รู้จักเพื่อน ๆ มากขึ้น ได้เข้าใจเพื่อนมากขึ้น ทำให้ฉันได้ถึงวันเวลาเก่า ๆ เรื่องราวต่าง ๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตทั้งดีและไม่ดี ได้กลับมาคิดถึงใครหลาย ๆ คนที่ผ่านเข้ามาแล้วผ่านไปและอีกหลายคนที่ห่างหายกันไป และทำให้ฉันรู้สึกว่าตัวเองเข้าใจตัวเองและรู้สึกเห็นอกเห็นใจผู้อื่นมากขึ้น และจากการเขียนบล็อกเองก็เป็นการเปิดโอกาสให้ฉันได้บันทึกความทรงจำดี ๆ ให้ตัวเองได้กลับมาทบทวนอีกเมื่อเวลาล่วงเลยผ่านไป นอกจากนี้ยังทำให้ฉันได้เห็นพัฒนาการด้านงานเขียนของตัวเอง ที่รู้สึกว่าจะมีทักษะด้านการเล่าเรื่องและการเรียบเรียงเนื้อหาในการเขียนที่ดีขึ้นด้วยค่ะ
9. ครูที่สร้างแรงบันดาลใจและครูที่ไม่อยากเป็น
งานชิ้นนี้ทำให้ฉันได้กลับมาคิดถึงคุณครู ผู้มีพระคุณทั้งหลายที่ได้ให้การอบรมสั่งสอนและสร้างแรงบันดาลใจให้ฉันอยากเดินตามรอยท่านและบางท่านก็สอนให้ฉันได้รู้ว่า เมื่อได้มาเป็นครูจริง ๆ ฉันควรและไม่ควรเป็นครูแบบไหน และทำให้ฉันได้ทบทวนตัวเองด้วยว่า แล้วที่ผ่านมาฉันเป็นครูเช่นไร สิ่งที่ฉันทำ เป็นสิ่งที่ฉันดีและหรือว่าต้องปรับปรุงให้ดีกว่าเดิม
10. แฟ้มสะสมผลงาน
การทำแฟ้มสะสมผลงานในครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ทำให้ฉันได้ใช้โปรแกรมการออกแบบที่ชื่อว่า canva และได้ลองออกแบบหน้าปกแฟ้มด้วยตัวเองดู มันทำให้ฉันรู้ว่ากว่าจะได้โปสเตอร์สวย ๆ ซักขิ้น ต้องใช้จินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์และทักษะหลาย ๆ อย่างมาช่วย ทำยังไงให้งานออกมาสวยและน่าสนใจ และที่สำคัญ การทำแฟ้มสะสมผลงานทำให้ฉันได้เห็นพัฒนาการของชิ้นงานที่ตัวเองทำด้วยค่ะ
11. ดูงาน CMU Book ครั้งที่ 26
งานหนังสือครั้งนี้ทำให้ฉันรู้สึกว่าตัวเองโตขึ้น มีเหตุผลในการใช้เงินมากขึ้นและที่สำคัญคือ ทำให้ฉันได้คำนึงถึงประโยชน์ของหนังสือที่จะซื้อมากขึ้นด้วยว่ามันมีประโยชน์ต่อตัวฉันเองหรือนักเรียนของฉันมากน้อยแค่ไหน อีกอย่างคือทำให้ฉันได้รับข้อคิดดี ๆ จากแขกรับเชิญที่มาพูดในงานด้วยว่า “หากคิดจะทำสิ่งใดให้ลองทำเลย อย่ากลัวว่ามันจะไม่ดีหรือผิดหวัง เพราะสิ่งที่น่าผิดหวังที่สุดคือ การคิดแต่ไม่ลงมือทำ”
และสุดท้ายนี้ หนูขอขอบคุณอาจารย์กิตตินันท์มาก ๆ สำหรับทุกความพยายาม ทุกความตั้งใจ ที่อาจารย์มอบให้กับพวกเรา ขอบคุณที่เปิดโอกาสให้เราได้ทำอะไรใหม่ ๆ ที่ทำให้เรารู้จักตัวเองและเข้าใจผู้อื่นมากขึ้น หนูยังจำคือพูดที่อาจารย์บอกพวกเราไว้เสมอว่า “ตัวอย่างที่ดี มีค่ามากกว่าคำสอน” และอาจารย์ก็ปฏิบัติตัวเป็นแบบอย่างที่ดีให้พวกเราเห็นเสมอ ขอบคุณค่ะ สู้ ๆ นะคะอาจารย์ ^_^
ความเห็น (2)
นี่อาจจะเป็นบันทึกสุดท้ายของคนทั้งห้อง ก่อนที่เกรดจะออกมานะครับ ;)…
เป็นทบทวนตนเองได้ดีมาก แถมมีพัฒนาการเรืื่องการจัดเอกสารในรูปบันทึกได้น่าอ่านมากขึ้น
ถ้าหากเห็นคุณค่าของ “การเขียน” ขอให้เข้ามาเขียนต่อเรื่อย ๆ นะ
สู้ สู้ เช่นกัน ;)…
ขอบคุณค่ะอาจารย์ ^_^