ในการลงสู่ชุมชน ทำไมเราถึงต้องเข้าใจวิถีชีวิตของคนในชุมชน และนักศึกษามีความเข้าใจในระบบสุขภาพชุมชนที่นักศึกษาได้ไปเรียนรู้อย่างไร
พื้นที่แต่ละที่มีความแตกต่างกันทางกายภาพ ทั้งลักษณะพื้นที่ สภาพแวดล้อม ภูมิอากาศ รวมไปถึงบุคคลที่อาศัยอยู่ในพื้นที่นั้นๆด้วย แต่ละสถานที่ก็มีประเพณี วัฒนธรรม ความเชื่อที่แตกต่างกันไป การลงชุมชนนี้ก็เช่นกัน เมื่อเราได้ลงมาสำรวจพื้นที่นี้ ได้พบเห็นลักษณะพื้นที่ พบปะ พูดคุยกับผู้คนท้องถิ่นทำให้เราได้ทราบถึงปัจจัยต่างๆที่เกี่ยวข้องกับเขา ได้เห็นบริบทในชุมชน การใช้ชีวิต ความเชื่อ อาชีพ หลายสิ่งอย่างที่มีคุณค่ากับเขา ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็จะนำไปสู่การทำงานของนักกิจกรรมบำบัดที่ต้องมองผู้รับบริการให้ครอบคลุมถึงสภาพแวดล้อมในส่วนนี้ นำกิจกรรมที่มีความหมายมาเป็นสื่อในการบำบัดรักษาผู้รับบริการให้ได้ตามเป้าหมายที่วางแผนไว้ เช่น ในชุมชนนี้มีชมรมเกษตรปลอดสารพิษ แสดงว่ามีคนให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เพราะเล็งเห็นถึงความปลอดภัยต่อร่างกาย นักกิจกรรมบำบัดก็สามารถนำกิจกรรมส่วนนี้ไปเป็นกิจกรรมการฝึกได้ อาจจะเป็นการปลูกพืชปลอดสารพิษ แปรรูปสินค้าทางการเกษตร และบางกิจกรรมการฝึกอาจต่อยอดไปเป็นอาชีพเพื่อสร้างรายได้ให้กับครอบครัว/ชุมชนได้อีกด้วย ระบบสุขภาพของชุมชนนี้มีการดูแลทั้งเชิงรับและเชิงรุก เป็นรพสต.ที่ให้คนในชุมชนได้เข้ามาทำกิจกรรมตรวจร่างกายต่างๆตามโอกาส และได้ลงไปเยี่ยมบ้านผู้ป่วยในชุมชนบางคนที่ไม่สามารถเข้าถึงรพสต.ได้สะดวก บุคลากรของหน่วยงานเข้าถึงคนในชุมชนได้อย่างดี มีการช่วยเหลือกันและกันในชุมชนดีมาก หน่วยงานจึงได้รับความร่วมมืออย่างดีจากชุมชน ทำให้ข้อมูลที่ได้จากชุมชนนี้น่าเชื่อและมีประสิทธิภาพมากกว่าชุมชนที่ไม่ได้ให้ความร่วมมือกับหน่วยงาน สามารถนำไปใช้ในการวางแผนการทำงานสุขภาพชุมชนครั้งต่อๆไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ไม่มีความเห็น