ตื่นเช้ามาคุณคิดอะไร


ฝากอีกเรื่องที่คุณควรคิดแล้วชีวิตการงานของคุณจะสมบูรณ์........"เราควรคิดว่าวันนี้คุณได้ทำงานคุ้มกับที่หลวงจ้างเราแล้วยัง".
"ตื่นเช้ามาคุณคิดอะไร"  เป็นคำถามจากอาจารย์ที่ดิฉั๊นนับถือมากท่านหนึ่ง ในคราวนั่งรอกรรมการมาประชุม.อะไรสักอย่างเมื่อหลายวันก่อน...คำถามนี้ทำให้ดิฉั๊นหยุดคิด..ตีความคำถาม...อีกที...
"ตอบเลยครับไม่ต้องคิดมากเอาคำตอบแวบแรกเลย....ตอบ"
หนูคิดว่า "....หนูจะผลักดัน Knowledge Volution ใน ม.อ.ได้อย่างฮิตติดตลาด สวยงามได้อย่างไร....."
"อะไรของคุณไอ้ Knowledge Volution ที่ว่านี่" (บังเอิญท่านไม่ได้อยู่ในแวดวง KM)
"เป็นงานของหนูค่ะ...ช่วงนี้กำลังแสวงหาวิธีการอยู่...."ผมจะแนะนำผมทำงานมานาน...คุณเป็นคนรุ่นใหม่ที่จะเติบโต....ตื่นเช้าขึ้นมาหากคุณนึกถึงเรื่องงานเป็นเรื่องแรกแสดงว่าคุณเป็นคนรักการทำงาน...แต่แม้เราจะรักการทำงานเพียงใด....คุณควรแบ่งสมองคิดเรื่องอื่นด้วย...เช่นเรื่องไปเที่ยว...หย่อนใจ...ท่าทางจะจริงจังไปทุกเรื่องซิเรา"
"ค่ะ"
....ผมฝากอีกเรื่องที่คุณควรคิดแล้วชีวิตการงานของคุณจะสมบูรณ์....อะไรคะอาจารย์...."เราควรคิดว่าวันนี้คุณได้ทำงานคุ้มกับที่หลวงจ้างเราแล้วยัง"..อ๋อ...เรื่องนี้หนูคิดทุกเย็นก่อนละจากโต๊ะทำงานเพื่อกลับบ้านค่ะอาจารย์....." ท่านยิ้ม...ดูมีความสุข...เป็นบทสนทนาที่ดิฉันประทับใจมาก...จึงเก็บมาเล่า....แล้วคุณหล่ะตื่นเช้า....คงจะรีบๆกันนะคะไม่ถามดีกว่าแต่จะถาม ว่า "ก่อนละจากโต๊ะทำงานเพื่อกลับบ้าน....คุณคิดว่าคุณทำงานคุ้มกับที่หลวงจ้างแล้วยัง"
หมายเลขบันทึก: 67467เขียนเมื่อ 15 ธันวาคม 2006 14:30 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 16:44 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

ยังเลย อิอิ

ตอบแบบนี้จะโดนไล่ออกมั้ยเนี่ย

บางครั้งเราคิดว่าจะเริ่มทำไอ้โน่น ไอ้นี่ อย่างไร จนทำให้งานล่าช้าไปบ้าง

อย่าว่ากันนะคะ

เด็กๆบางครั้งก็ต้องมีอู้กันบ้าง แต่รับรองว่าเวลาทำงานก็ตั้งใจทำอย่างเต็มที่เช่นกัน

 

คุณจิ๊บคะ

  • ครูอ้อยในอดีต  จะวางแผนการทำงานเป็นรายเดือนค่ะ  และทะยอยทำให้สำเร็จ  ไปทีละงาน  เรื่อยๆก็เสร็จ
  • แต่ปัจจุบัน  ครูอ้อยเริ่มมีอาการ  เวลามีน้อย  ก็เลย  ทำงานแบบการเดินของวงโยธวาทิต  คือดินเท้าต่อเท้าค่ะ
  • เวลาที่ครูอ้อยคิดจะทำอะไรในวันนี้  ...คือ  เวลาอยู่ในห้องน้ำ  กับเวลาขับรถตอนเช้าค่ะ  คิดออกดีนัก

ขอบคุณค่ะ

อยากตอบแบบ KM แต่ไม่รู้จริงๆค่ะ

หากเริ่มต้นจากการเอาเงินเดือนเป็นตัวตั้ง แล้ว หารด้วย 30 เป็นรายได้เฉลี่ยต่อวัน จากนั้นหารอีกด้วย 8 เป็นค่าจ้างต่อชั่วโมง เราก็จะรู้ว่า แต่ละชั่วโมงที่หลวงหรือนายจ้างจ้างเรานั้น เราทำงานคุ้มค่าจ้างไหม .....เคยสะอึกเหมือนกันกับการที่เดินไปเดินมา แล้วทำงานไม่คุ้มค่าจ้าง แม้ปัจจุบันก็ยังอยากจะบอกว่ายังทำงานไม่คุ้มค่าจ้างหลวงอยู่ดี
แล้วงานที่บ้านหละคะ  งานครอบครัว งานชีวิต  ถึงแม้จะไม่มีค่าจ้าง  แต่เราก็ทำกันแบบทุ่มสุดตัวกันเลย  ว่ามั๊ย  แสดงว่า ค่าจ้าง ไม่ใช่ปัจจัย  แต่ความศรัทธา ความรัก  นี่สิ่งสำคัญยิ่งกว่า

คิดมากทุกวันเลยว่า  วันนี้จะทำให้ดีกว่าเมื่อวานได้อย่างไร

รริน

คิดดีๆ  จะทำให้จิตใจโปร่งใส  รับวันใหม่อย่ามีความสุข

จากพี่รริน

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท