๑,๐๗๑ “ให้ที่มากกว่า...”


ทุกวันนี้..โลกเปลี่ยนไป สังคมรูปแบบใหม่กำลังคืบคลานเข้ามา เราจึงพบอยู่เสมอว่า “ความยิ่งใหญ่”ของคน จะมองกันที่พฤติกรรม “การให้” ด้วยใจที่เมตตา มีจิตอาสา เสียสละเพื่อส่วนรวมมากกว่าส่วนตน..สม่ำเสมอและต่อเนื่อง..

        เชื่อเถอะ..มากมายหลายคนบนโลกใบนี้ ต้องการเป็นคนที่ “ยิ่งใหญ่” เป็นที่รู้จัก มีชื่อเสียง และเป็นคนที่ใครต่อใครรักใคร่นับถือ ตลอดจนเป็นที่ยอมรับ..

    คำว่า “ยิ่งใหญ่” เข้าใจได้ไม่ยาก บางคนอาจมองความยิ่งใหญ่ที่มีฐานะทางการเงินที่มั่งคั่งร่ำรวย พร้อมด้วยทรัพย์สมบัติ..

    ฐานะการงานก็อาจมองกันที่ตำแหน่งใหญ่โต เป็นผู้มีอำนาจ มีบุญบารมี ยศฐาบรรดาศักดิ์ก็ช่วยนำพาไปสู่ความยิ่งใหญ่ได้..

        การศึกษาสูงก็เสริมส่งได้เหมือนกัน มีดีกรีพ่วงท้าย จบจากหลายสถาบันทั้งในและต่างประเทศ ทำให้ผู้คนเกรงขามในความรู้ความสามารถ..

        บางคน “ยิ่งใหญ่”ในความเป็นศิลปิน นักร้องนักแสดงและนักประพันธ์ มีชื่อเสียงโด่งดังหลายยุคหลายสมัย..นั่งอยู่ในหัวใจผู้คนมาโดยตลอด..

        ทั้งการศึกษา การเงิน การงานและตำแหน่ง..เป็นความยิ่งใหญ่ที่ถูกปรุงแต่งขึ้น ไม่จีรังยั่งยืน จึงไม่ใช่ความยิ่งใหญ่ที่แท้จริง

        “ความยิ่งใหญ่” ต้องมองกันที่ “หัวใจ” วัดกันที่หัวใจ จึงมักพูดกันอยู่เสมอว่า ใจเกินร้อย...แล้วหัวใจไปเกี่ยวข้องกันได้อย่างไร?

        ลองคิดดู..มีฐานะร่ำรวยแต่ใจแคบ..จะเรียกว่ายิ่งใหญ่ได้กระนั้นหรือ?

        มีฐานะการงานดี แต่เห็นแก่ตัว ทุจริตประพฤติมิชอบ..จะใช้คำว่ายิ่งใหญ่ไปทำไม?

        มีการศึกษาสูง แต่เห็นแก่ตัว ก็ไม่เกิดประโยชน์ต่อสังคม ไม่ควรจะยิ่งใหญ่ด้วยซ้ำ

        เป็นศิลปิน แต่ไม่มีคุณธรรม ใฝ่ต่ำ ทำแต่เรื่องเสียหาย..ก็ไม่ควรจะยิ่งใหญ่ต่อไป

        ทุกวันนี้..โลกเปลี่ยนไป สังคมรูปแบบใหม่กำลังคืบคลานเข้ามา เราจึงพบอยู่เสมอว่า “ความยิ่งใหญ่”ของคน จะมองกันที่พฤติกรรม “การให้” ด้วยใจที่เมตตา มีจิตอาสา เสียสละเพื่อส่วนรวมมากกว่าส่วนตน..สม่ำเสมอและต่อเนื่อง..

        แต่สิ่งหนึ่งที่จะลืมไม่ได้..คนเราจะยิ่งใหญ่ได้..ก็ต้องรู้จักดูแลตนเองให้ดีก่อน..

        ถึงแม้ว่าจะมีฐานะการเงินดี แต่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย สุรุ่ยสุร่าย ไม่รู้จักเก็บออมไว้บ้าง การไปดูแลช่วยเหลือแจกจ่ายให้คนอื่น ก็คงมิใช่วิธีการให้ที่ถูกต้อง..

        มีตำแหน่งการงานดี มีโอกาสช่วยเหลือผู้อื่นและทำประโยชน์เพื่อสังคม แต่ไม่เคยรักษาสุขภาพของตนเอง ไม่เคยดูแลคนในครอบครัว “การให้”ก็ไร้ผล

        มีการศึกษาสูง จึงสามารถถ่ายทอดวิทยาการความรู้ ให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน แต่ตัวเองกลับไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่ง..ไม่มีความมั่นคงในชีวิต..การให้ก็น่าจะไม่มีความสุข

        “ความรัก”ก็เช่นเดียวกัน..ยิ่งใหญ่เสียเหลือเกิน คนเราจึงมอบความรักอันยิ่งใหญ่นี้ให้แก่กันและกัน จนหลงลืมตัวเองว่ามีความพร้อมมากน้อยแค่ไหน?..จะทุ่มเทไปเพื่อ..?

        ความรักของคนบางคน จึงกลายเป็นความทุกข์ เมื่อไม่มีการเรียนรู้ ไม่มีงานและไม่มีเงิน..ความเดือดร้อนก็ตามมา กลายเป็นปัญหาทั้งของตนเองและผู้อื่น..

        จึงควรศึกษาเรียนรู้ที่จะดูแลตัวเองก่อนดีไหม? ไม่ให้ตนเองต้องเดือดร้อนทั้งสุขภาพกายและใจ มีความพร้อมทั้งเงินและงาน ก่อนที่จะไปดูแลคนอื่น..

        จงจำไว้..”คนเราจะยิ่งใหญ่ได้..ก็ต้องรู้จักดูแลตนเองให้ดีก่อน..เราจึงจะมีความสามารถในการ..”ให้ที่มากกว่า”ต่อผู้อื่นได้...

ชยันต์  เพชรศรีจันทร์

๗  มกราคม  ๒๕๖๓


หมายเลขบันทึก: 674258เขียนเมื่อ 7 มกราคม 2020 20:47 น. ()แก้ไขเมื่อ 8 มกราคม 2020 11:43 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท