บันทึกชุด สู่การศึกษาคุณภาพสูงนี้ ตีความจากรายงานของธนาคารโลก ชื่อ World Development Report 2018 : Learning to Realize Education’s Promise (1) ที่มีการค้นคว้ามาก และเขียนอย่างประณีต เป็นเอกสารด้านการศึกษาที่มีประโยชน์ยิ่ง ผมเขียนบันทึกชุดนี้เสนอต่อคนไทยทั้งมวล ให้ร่วมกันหาทางนำมาประยุกต์ใช้ในการกอบกู้คุณภาพการศึกษาไทย
บันทึกที่ ๙ นี้ ตีความจาก Part III : Innovations and evidence for learning Chapter 7 : Everything else should strengthen the teacher-learner interaction ซึ่งอยู่ในรายงานหน้า ๑๔๕ – ๑๕๓
การเรียนรู้คุณภาพสูงเกิดจากปฏิสัมพันธ์ที่ดีระหว่างครูกับศิษย์ การสนับสนุนด้านวัสดุเสริมการเรียนรู้ และการสนับสนุนอื่นๆ ต้องเพื่อให้ปฏิสัมพันธ์ระหว่างครูกับศิษย์แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ไม่ใช่สนับสนุนสิ่งที่เข้าไปทดแทนครู
การจัดสรรทรัพยากรการศึกษาให้แก่โรงเรียน ในหลายกรณีทำร้ายการเรียนรู้ของนักเรียน มากกว่าให้ผลดี อธิบายได้ด้วย โมเดลพฤติกรรมมนุษย์ (models of human behavior) และสรุปได้เป็นหลักการ ๓ ประการคือ
เทคโนโลยีช่วยเพิ่มการเรียนรู้เฉพาะต่อเมื่อช่วยเพิ่มปฏิสัมพันธ์ระหว่างครูกับนักเรียน
มีเทคโนโลยีเพื่อการเรียนรู้สารพัดชนิด ที่น่าสนใจคือข้อมูลการนำเทคโนโลยีไปใช้ทางการศึกษาราวๆ ร้อยละ ๗๐ ไม่ก่อผลที่ต้องการ และในกรณีที่เทคโนโลยีอยู่ในรูปของ hardware ก่อผลร้ายมากกว่าก่อผลดี คือก่อผลร้ายราวๆ ร้อยละ ๒๕ ก่อผลดีราวๆ ร้อยละ ๕ เท่านั้น (รูปที่ ๗.๑ หน้า ๑๔๖)
ในกรณีที่เทคโนโลยีอยู่ในรูป software ผลดีคือช่วยให้นักเรียนเรียนตามอัตราเร็วที่เหมาะแก่ตนเอง รวมทั้งช่วยปรับบทเรียนให้เหมาะสมต่อพื้นความรู้ของนักเรียนแต่ละคน มีกรณีตัวอย่าง มณฑล Qinghai ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ทดลองใช้ game-based CAL (computer-assisted learning) สอนภาษา พบว่านอกจากได้ผลที่ต้องการแล้ว ยังช่วยยกระดับการเรียนรู้ในวิชาคณิตศาสตร์ด้วย
การใช้ประโยชน์ ไอซีที ต้องไม่ใช่คิดตื้นๆ อยู่ที่การจัดคอมพิวเตอร์ให้นักเรียนใช้ ต้องไปให้ถึงประโยชน์ในด้านการประเมินและติดตามผลการเรียนรู้ ตั้งแต่ระดับบุคคล ไปถึงระดับระบบของประเทศ ต้องไปให้ถึงการใช้คอมพิวเตอร์ช่วยให้การเรียนรู้เกิดง่ายขึ้น (CAL – Computer-Assisted Learning) รวมทั้ง online learning platform ซึ่งมี platform ให้ใช้มากมายหลากหลาย เช่น Google Classroom, Blackboard, Education Connection ของประเทศบราซิล และผมขอเพิ่ม ClassStart ของ ดร. จันทวรรณ และ ดร. ธวัชชัย ปิยะวัฒน์ ด้วย ช่วยการสื่อสารระหว่างนักเรียนและผู้ปกครองกับครูในเรื่องการบ้าน รวมทั้งช่วยจัดเอกสารให้ครูและพ่อแม่ใช้ร่วมกันออกแบบชุดกิจกรรม ที่เหมาะสมต่อการพัฒนาเด็กตามวัย
Online learning platform อาจใช้เสริมแก่โรงเรียนในพื้นที่ห่างไกลและขาดแคลนครู ในการยกระดับการเรียนรู้ของนักเรียน
ประเด็นที่พึงตระหนักคือ คนในวงการศึกษาอย่าแตกตื่นกับกระแส disruptive technology มีหลักฐานชัดเจนว่า แวดวงการศึกษาจะได้รับผลกระทบน้อยมากจาก disruptive technology กล่าวใหม่ว่า ปฏิสัมพันธ์ระหว่างครูกับศิษย์มีคุณค่าเหนือเทคโนโลยีทั้งปวง และเทคโนโลยีที่ช่วยส่งเสริมครู มีผลดีกว่าเทคโนโลยีเพื่อทดแทนครู
ในสถานการณ์ไม่ปกติ เช่นสงคราม ความไม่สงบ หรือโรคระบาด เทคโนโลยีอาจเป็นช่องทางเดียวที่นักเรียนใช้เชื่อมต่อกับการศึกษาตามปกติ
มาตรการอื่นๆ อาจช่วยดึงเด็กมาโรงเรียน แต่จะเพิ่มการเรียนรู้ต่อเมื่อมีการพุ่งเป้าไปที่การเรียน
มาตรการ หรือโครงสร้างพื้นฐานทางการศึกษา เช่นการจัดให้มีโรงเรียนใกล้บ้าน การมีห้องสุขาที่สะอาด อาหารกลางวัน วัสดุช่วยการเรียนรู้ ตำราเรียน คอมพิวเตอร์ ฯลฯ หากมองเผินๆ น่าจะมีผลดีต่อนักเรียน แต่มีผลการวิจัยมากมาย ที่สรุปได้ว่า ผลดีต่อนักเรียนที่แท้จริงคือ เกิดการเรียนรู้เพิ่มและผลลัพธ์การเรียนรู้สูงขึ้น จะเกิดผลลัพธ์ดังกล่าวได้ มาตรการสนับสนุนเหล่านั้นต้องเข้าไปเพิ่มการเรียนรู้ของนักเรียน มีตัวอย่างโครงการอาหารกลางวันที่ประเทศเคนยา, เบอร์คินาฟาโซ, และเปรู มีผลให้นักเรียนมาโรงเรียนเพิ่มขึ้น แต่วิธีจัดการอาหารกลางวันที่เคนยาและเปรูทำให้การจัดอาหารกลางวันเบียดเวลาเรียนให้น้อยลงไป ผลลัพธ์ต่อการเรียนรู้จึงไม่ชัดเจน
การจัดซื้อหนังสือ หรือคอมพิวเตอร์ให้โรงเรียน ก็อาจเอาไปวางไว้โดยไม่มีกระบวนการจัดการให้เกิดการใช้ประโยชน์ เสียเงินโดยไม่ก่อผลต่อการเรียนรู้ของนักเรียน
พลังการจัดการของโรงเรียน และพลังของชุมชน
โรงเรียนที่มีการจัดการดี นักเรียนมีผลการเรียนดี เป็นที่รู้กันว่า ภาวะผู้นำในโรงเรียนมีผลต่อการเรียนรู้สูงมาก ภาวะผู้นำที่ได้ผลหมายถึงครูใหญ่หรือผู้อำนวยการโรงเรียนที่คอยเอาใจใส่ช่วยครูแก้ปัญหา รวมทั้งช่วยให้คำแนะนำด้านการสอน (น่าเสียดายที่วงการศึกษาไทยไม่คาดหวังหน้าที่นี้ของผู้อำนวยการโรงเรียน) ผู้อำนวยการที่ดี ต้องร่วมกับครูกำหนดเป้าหมายและลำดับความสำคัญของงานเพื่อบรรลุผลการเรียนรู้ที่สูง ภาวะผู้นำที่ได้ผล จะช่วยเพิ่มปฏิสัมพันธ์ระหว่างครูกับศิษย์
มีหลักฐานว่าประเทศที่คุณภาพของการจัดการโรงเรียนสูง คุณภาพของการศึกษา (การเรียนรู้) ก็สูงตามไปด้วย ไม่ว่าประเทศใด คุณภาพของการจัดการโรงเรียนมีความแตกต่างกันระหว่างโรงเรียน แต่ในประเทศที่คุณภาพการศึกษาสูง เช่นฟินแลนด์ สิงคโปร์ ความแตกต่างระหว่างโรงเรียนมีน้อยมาก
มีรายงานผลการฝึกทักษะสำคัญ ๓ ด้านแก่ครูใหญ่ในสหรัฐอเมริกา ได้ผลยกระดับผลลัพธ์การเรียนรู้ของนักเรียนอย่างชัดเจน ทักษะดังกล่าวได้แก่ (๑) วิธีให้ feedback แก่ครูในเรื่องแผนการสอน (๒) วิธีให้การสนับสนุนครูในเรื่องการประเมินผู้เรียนอย่างสม่ำเสมอ และให้ feedback ต่อแผนปฏิบัติเพื่อยกระดับผลการเรียน และ (๓) เข้าสังเกตการสอนในชั้นเรียนและให้ feedback เพื่อให้ครูพัฒนาวิธีการสอนของตน
ในประเทศ มาดากัสการ์ การดำเนินการทำความชัดเจนในบทบาทหน้าที่ของผู้อำนวยการเขตการศึกษา ครูใหญ่ และครู ตามด้วยโค้ชชิ่ง และการให้คำแนะนำ มีผลให้ผลการเรียนดีขึ้น
ในรายงานไม่ได้เอ่ยถึงกิจกรรม PLC (Professional Learning Community) ผมจึงขอเพิ่มเติมว่า กิจกรรม PLC ที่พุ่งเป้ายกระดับผลลัพธ์การเรียนรู้ของนักเรียน นอกจากมีผลดีต่อการเรียนรู้ของนักเรียนแล้ว ยังก่อผลดีต่อการเรียนรู้ของครู (และผู้บริหารโรงเรียน) ด้วย
ในหลายประเทศ มีการกระจายอำนาจการบริหารให้แก่โรงเรียนและชุมชนที่โรงเรียนตั้งอยู่ เรียกว่าระบบ “การจัดการโดยยึดโรงเรียนเป็นฐาน” (school-based management) มีผลเอื้อต่อการแก้ปัญหาสองประการคือ (๑) ให้อำนาจแก่ผู้นำของโรงเรียนและผู้ปกครองนักเรียน ได้แสดงความต้องการโดยตรงต่อครูและตัวแทนของโรงเรียน ส่งผลให้ครูเอาใจใส่ความต้องการของนักเรียนมากขึ้น ต่างจากสภาพที่ครูอยู่ใต้การบริหารของกระทรวงศึกษาธิการที่อยู่ห่างไกล ไม่รู้สภาพความเป็นจริงในโรงเรียน (๒) โรงเรียนและชุมชนมีข้อมูล ช่วยให้รู้ความต้องการของโรงเรียน และมีช่องทางเข้าสู่ทรัพยากรเพื่อการนั้น จึงสามารถดำเนินการเพื่อบรรลุความต้องการได้ดีกว่า
แต่ การจัดการโดยยึดโรงเรียนเป็นฐานจะนำสู่การยกระดับการเรียนรู้ ต่อเมื่อชุมชนมีขีดความสามารถในการใช้ข้อมูลในการตัดสินใจอย่างชาญฉลาด ผลการวิจัยในนักเรียน ๑ ล้านคน ใน ๔๒ ประเทศ ได้ข้อสรุปว่า ระบบการจัดการโดยยึดโรงเรียนเป็นฐาน ให้ผลยกระดับการเรียนรู้ในประเทศรายได้สูง แต่ก่อผลลบในประเทศรายได้ต่ำ มีผลการวิจัยในประเทศแกมเบีย ว่าระบบนี้มีผลยกระดับการเรียนรู้ในโรงเรียนที่พ่อแม่นักเรียนมีการศึกษาสูง ดังนั้น หากจะใช้ระบบนี้ ต้องดำเนินการเป็นมาตรการระยะยาว มีกระบวนการให้ชุมชนได้เรียนรู้บทบาทที่เหมาะสมของชุมชน ต่อการจัดการโรงเรียน เพื่อผลลัพธ์การเรียนรู้ระดับสูง
การติดตามประเมินผลโดยชุมชน (community monitoring) จะมีส่วนช่วยยกระดับการเรียนรู้ของนักเรียนได้ต่อเมื่อ สามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงกิจกรรมในชั้นเรียน และผู้ปกครองและชุมชนต้องมีความสามารถทำให้ครูและผู้บริหารโรงเรียนรับผิดรับชอบ (accountable) ต่อผลลัพธ์การเรียนรู้ของนักเรียน
รูปแบบหนึ่งของระบบการจัดการโดยยึดโรงเรียนเป็นฐาน คือการจัดสรรงบประมาณไปที่โรงเรียนโดยตรง (school grant program) มีผลการวิจัยสรุปว่า ระบบงบประมาณอย่างเดียวไม่มีผลยกระดับการเรียนรู้ แต่ระบบงบประมาณร่วมกับการให้แรงจูงใจต่อครู มีผลยกระดับการเรียนรู้ และระบบงบประมาณร่วมกับการฝึกอบรมให้ผู้ปกครองนักเรียนรู้วิธีทำหน้าที่สนับสนุนโรงเรียน ก็มีผลยกระดับการเรียนรู้
สรุปได้ว่า ระบบจัดสรรงบประมาณโดยตรงต่อโรงเรียน ต้องควบคู่ไปกับมาตรการยกระดับความสามารถของคณะกรรมการโรงเรียนและชุมชน ให้เข้าไปสนับสนุนและกำกับการจัดการเรียนรู้ในโรงเรียน จึงจะมีผลยกระดับการเรียนรู้
หลักการพื้นฐานคือ การสนับสนุนโรงเรียน ไม่ว่าโดยการจัดสรรทรัพยากรที่เป็นวัตถุ หรือที่เป็นอำนาจการตัดสินใจ จะก่อผลดีต่อการเรียนรู้ ต่อเมื่อการสนับสนุนนั้น มีผลยกระดับปฏิสัมพันธ์ระหว่างครูกับนักเรียน
วิจารณ์ พานิช
๑๐ ก.ค. ๖๒
บนเครื่องบินไทยสมายส์ จากกรุงเทพไปเชียงใหม่
ไม่มีความเห็น