วันที่ 6-8 ธันวาคม 2549
ดิฉันได้มีโอกาสไปที่ อ.กุฉินารายณ์ จ. กาฬสินธ์ งานที่ไปทำจริงๆ คือ ทำ EIA ให้กับโรงงานน้ำตาลที่นั่น ที่เค้ามีโปรเจคจะทำโรงงานผลิตเอธานอล
แต่สิ่งที่ดิฉันไปพบไปเจอ ไม่เกี่ยวกับงานที่ไปทำหรอกนะคะ มันเป็นความบังเอิญมากกว่า เนื่องจากว่า ดิฉันต้องสำรวจชุมชน 7 หมู่บ้าน รอบๆ โรงงาน จากการเดินไปคุยกับบ้านนั้น บ้านนี้ ซึ่งก็ดีนะคะ ชาวบ้านทุกคนให้ความร่วมมมือ ร่วมแสดงความคิดเห็นดีมาก แต่มีสิ่งหนึ่งที่ดิฉันสะดุดตา และก็แปลกใจมากๆ ก็คือ บ่อซีเมนต์ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1 เมตร ดิฉันเดินไปบ้านใหนๆ ก็เจอ ก็เริ่มเอะใจ ว่า ทำไม ทำไม ถึงมีกันแทบทุกบ้านเลย จากกนั้นก็เเปลี่ยนประเด็นคุยสิคะ จากการทำงานอยู่ดีดี ก็เปลี่ยนเรื่องคุยซะงั้นเลย (เนี้ยแหละ กัลยา)
ผลสรุปจากการคุยนอกประเด็นการทำงาน ชาวบ้านบอกว่า สิ้งนี้ คือ ขยะที่เหลือจากการพัฒนาชนบท ในสมัยนั้น (สมัยใหนก็ช่างเถอะเนาะ เราจะไม่กล่าวถึง ณ ที่นี้)
ความจริง ณ ตอนนั้นที่มีคนเอาบ่อซีเมนต์นี้มาแจกชาวบ้าน ก็เพื่อส่งเสริมการเลี้ยงปลาในบ่อ และเลี้ยงไว้ประจำบ้านของชาวบ้าน (ประมาณว่า ส่งเสริมแหล่งอาหารโปรตีนในครัวเรือน)
แต่คนที่นำความคิดนี้มาส่งเสริม ลืมคิดที่จะศึกษาวิถีชีวิตปลา ลืมไปว่า ปลาชอบอยู่อย่างไร กินอย่างไร (หรืออาจจะไม่ลืมก็ได้ แต่ไม่สนใจต่างหาก) ทำให้เกิดโครงการสั่งซื้อบ่อซีเมนต์ขนาดใหญ่ แจกชาวบ้านครัวเรือนละ 1 บ่อ (คิดดูสิว่า มันจะเป็นเงินสักกี่มากน้อย เพราะเวลาเค้าคิดโปรเจค เค้าไม่คิดทำทีละจังหวัดอยู่แล้ว เค้าคิดทำกันเป็นภูมิภาคกันเลย ภาคอีสานมีกี่จังหวัดล่ะที่นี้? ..เฮ้อ...)
ชาวบ้านบอกว่า ตั้งแต่ได้บ่อมา บางคนก็เลี้ยงปลา แต่ไม่ถึงเดือนปลามันก็ตาย เลี้ยงไม่ได้ เลี้ยงไม่โต ก็เลยต้องล้มเลิกโครงการ แต่มีบางคนบอกว่าตั้งแต่ได้บ่อมาไม่เคยเลี้ยงปลาเลยสักตัวเดียว
แต่ก็ใช่ว่า บ่อ ที่ได้มา จะไม่เป็นประโยชน์สำหรับชาวบ้านซะที่เดียวนะคะ ชาวบ้าน เค้าก็ประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับพื้นที่ กับประโยชน์ที่ควรจะเกิดขึ้นได้ โดยบางคนเอาไปกระเทาะก้นบ่อออก แล้วทำเป็นที่ปลูกผักสวนครัว บางคนเอามารองน้ำใช้ล้างถ้วย รองน้ำเพื่อใช้เป็นที่ล้างมือ ล้างเท้า................(น่าเสียดายเงินงบประมาณเนาะ) จริงๆ แล้วโครงการพัฒนาต่างๆ ที่ไม่ประสบความสำเร็จ ไม่ได้รับการยอมรับก็ไม่แปลก แต่คงต้องมีสักเล็กน้อยบ้างสิ ที่โครงการนี้สามารถเกิดขึ้นได้จริง นำไปใช้ได้จริง
การพัฒนาใดๆ ที่นักวิชาการคิดว่าดีแล้ว ถูกแล้ว แต่ลืมนึกถึงสภาพความเป็นจริงตามธรรมชาติ สภาพจริงของวิถีชีวิตไม่ว่าจะของใคร หรือ อะไรก็แล้วแต่ การพัฒนานั้น ก็สูญเปล่า สิ้นเปลืองทั้งเวลา เงินงบประมาณ สุดท้ายก็เหลือเพียง "ขยะการพัฒนา"
ยังมีขยะอีกมากมายในชนบทครับ
โรงงานน้ำตาลแถว อ.วังสามหมอ จ. อุดรธานี ใกล้ๆรอยต่อ จ.กาฬสิินธุ์ ก็น่าไปทำ EIA นะครับ ไม่ทราบไปกันหรือยัง เห็นพึ่งเปิดใหม่ไม่นานนี้
ขอบคุณครับ ที่นำเรื่องเล่าจากกาฬสินธุ์มาบันทึกไว้
คุณบอน ค่ะ
อ ขจิต