สัปดาห์ที่ผ่านมา นิสิตในชมรมเดินตามรอยเท้าพ่อ มาเล่าให้ฟังว่า พวกเขากำลังพัฒนาโครงการที่จะน้อมนำเอาศาสตร์พระราชาเพื่อนำไปแก้ปัญหาของชุมชน หลังจากที่แต่ละคนได้ไปเข้าร่วมอบรมของสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) ... ผมสังเกตว่าพวกเขามี "ไฟ" ในใจเต็มพิกัด สิ่งนี้สำคัญ ใจใฝ่ลุยนี้เองที่เป็นใจใฝ่เรียน
ในฐานะที่ปรึกษา ได้แนะนำว่าให้ไปลงลุยดูพื้นที่ก่อน โดยยึดเอาขั้นตอนการทรงงาน ๕ ประการ ได้แก่
ศึกษาข้อมูลอย่างเป็นระบบ
ลงพื้นที่ ศึกษาข้อมูลในพื้นที่
ศึกษาข้อมูลอีก แล้วจัดทำโครงการ (เขียนแผนในกระดาษ)
ดำเนินโครงการตามแผน
ติดตามประเมินผล
เข้าใจว่า นิสิตได้ศึกษาข้อมูลเบื้องต้นมาพอสมควร จึงแนะนำให้ประชุมกันและนำเสนอข้อมูลกันอย่างเป็นระบบขึ้น และลงชุมชนใกล้ ๆ มหาวิทยาลัย ที่ผมรู้จักดีที่สุด บ้านดอนเวียงจันทน์ ... โดยนัดเวลาเป็นช่วงเย็นวันถัดมา (๗ มิ.ย.๖๒)
สัมภาษณ์ คุณแม่ของผู้ใหญ่บ้าน ท่านบอกว่า ท่านไปอบรมมายาวนานถึง ๑๕ วัน จากโครงการของรัฐ ที่กำลังขับเคลื่อนเรื่องการเกษตรอินทรีย์ในพื้นที่
ได้พบและสัมภาษณ์ ผู้ใหญ่เสี่ย ผู้ใหญ่บ้านบ้านดอนเวียงจันทน์ ท่านบอกว่า ปัญหาหนักหนาคือ เรื่อง ดินเค็ม น้ำเสีย และภัยแล้ง ...
นิสิตตัดสินใจว่าสนใจจะลองแก้ปัญหาดินเค็ม
ผู้ใหญ่เสี่ยจึงพาไปหาคุณยายเจ้าของนาที่มีปัญหา คุณยายบอกว่า ได้ปล่อยให้หลายชายเช่าทำงานมาหลายปีแล้ว
พื้นที่นาตรงนี้มีปัญหาดินเค็มอย่างรุนแรง ปีที่แล้วชาวบ้านที่มาเช่า พยายามดำไป ๒ รอบ แต่ไม่ได้ผลผลิตเลย
คุณยายเล่าว่า แต่ก่อนไม่เค็มขนาดนี้ แต่พอมีความเจริญเข้ามา มีการถมที่นาสวนในหมู่บ้าน และปรับแต่งพื้นที่รอบห้วยสายคอใหม่ ทำให้น้ำที่ไหลชะล้างดินในหมู่บ้านซึ่งเคยไหลผ่านไปลงห้วย ไหลไปขังในพื้นที่นาแปลงนี้ พอหลายปีเข้าจึงเค็มจัดอย่างที่เห็น
ปัญหาคือมีน้ำขัง ยากจะปฏิบัติการศึกษาทดลองแบบหลากหลายเงื่อนไข ... นิสิตจึงไปสำรวจที่ใหม่ด้วย
เมื่อวาน (๒๔ มิ.ย. ๖๒) ทีมชมรมบอกว่า ได้สถานที่ใหม่ ที่เหมาะสมกว่าในการปฏิบัติงานศึกษาทดลองพัฒนา อยู่ถัดจากวัดบ้านดอนสวน (หมู่บ้านถัดจากบ้านดอนเวียงจันทน์ไปทางทิศเหนือ)
นิสิตได้ลงปักหลัก มาร์คหมายพื้นที่ไว้ดังในภาพ ลักษณะเป็นดินทรายเค็มจัด แม้แต่หญ้าก็ไม่สามารถขึ้นได้... เป็นปัญหาใหญ่ งานหิน มาก ๆ
ครึ่งหนึ่งของแปลงนี้ มีต้นธูปฤาษีขึ้นได้บ้าง ท้าย ๆ ของแปลงนี้ชาวบ้านปลูกต้นกก ต้นไหล ไว้ทอเสื่อ ... ก็น่าจะเป็นอีกทางหนึ่ง
แปลงดินข้าง ๆ ที่ติดกับแปลงเป้าหมาย มีลางน้ำสาธารณะไหลผ่าน ดูสีน้ำแล้ว เป็นน้ำเสียที่ไหลจากชุมชนรอบมหาวิทยาลัย ... หากจะนำไปใช้คงต้องพิจารณากันอีกที
นิสิตแจ้งอีกว่า ตอนนี้มีสมาชิกชมรมฯ กำลังศึกษาศาสตร์พระราชาเรื่องการแก้ปัญหาดินเค็ม ที่ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพาน จ.สกลนคร ... ผมรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เรียนรุ้กับเด็ก ๆ ผ่าน 3PBL นี้อีกครั้ง
สุดท้าย ได้แนะนำให้นิสิต ลองศึกษาวิธีการนำศาสตร์พระราชาไปรักษาดินเค็ม ๓ ศาสตร์ ได้แก่ การห่มดิน การคัดเลือกพันธุ์พืช และการล้างดิน ที่ ดร.วิวัฒน์ ศัลยกำธร (อ.ยักษ์) ท่านอธิบายและสาธิตไว้ในคลิปด้านล่าง
VIDEO
รอเชียร์ และติดตามตอนต่อไปครับ