ผมอยากเขียนถึงเด็กคนนี้ รู้สึกได้ว่าเธอน่าจะมีความสามารถพิเศษที่โดดเด่นกว่าใครในชั้นเดียวกัน คือ ชั้นป.๓ ที่มีนักเรียนทั้งหมด ๑๓ คน
ผมสอนออยมาตั้งแต่ป.๒..แบบสอนซ่อมเสริมสัปดาห์ละครั้ง แต่ปีนี้สอนมากขึ้นเกือบจะทุกวัน เพราะครูประจำชั้นของออย ต้องออกไปช่วยงานโรงเรียนในด้านอื่นๆ
ตอนอยู่ป.๒ ออยก็น่ารักเหมือนปัจจุบันนี่แหละ ค่อนข้างจะพูดน้อย ยิ้มยาก ออกจะเงียบขรึม แต่เรียนดีและลายมือสวยมาก เขียนหนังสือมีหัวตัวตรง งดงามเกินวัย
ต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา..เขตพื้นที่การศึกษาฯมอบโครงการฯให้กลุ่มโรงเรียนจัดกิจกรรมการแข่งขันทางวิชาการ..เนื่องในงาน”วันภาษาไทยแห่งชาติ”
กิจกรรมมี ๒ รายการเท่านั้น คือคัดลายมือและเขียนเรื่องจากภาพ ถ้าเป็นเด็ก ป๔ – ๖ กรรมการก็จะเปลี่ยนเขียนเรื่องจากภาพให้เป็นการเขียน”เรียงความ”
ผมคัดเลือกเด็กเอง..เพราะผมรู้จักเด็กทุกคน พอได้ตัวแทนชั้น ป.๔ – ๖ แล้ว ก็ต้องเลือกอีก ๒ คน ที่อยู่ชั้น ป.๑ – ป.๓ ให้ไปคัดลายมือและเขียนเรื่องจากภาพ..
ตอนแรก..ผมอยากส่งออยไปคัดลายมือ แต่ดูจากผลงานในสมุดที่ผ่านมา ผมรู้สึกว่าออยจะชอบเขียนและเขียนได้ยาวๆ มีจินตนาการที่น่าอ่าน..
ผมจึงส่งเพื่อนของออยไปคัดลายมือ..และเลือกออยให้ไปเขียนเรื่องจากภาพ โดยที่ไม่มีการฝึกซ้อมแต่อย่างใด..มีเหตุผลบางประการที่ผมไม่อยากเตรียมตัวอะไรมากมาย
ส่วนหนึ่งก็คือ..เราเป็นครู..ต้องสอนเด็กเก่งและเด็กที่ไม่เก่งไปพร้อมๆกัน จะเลือกใครคนใดคนหนึ่งมาสอนพิเศษ คงเป็นไปได้ยาก และผมก็ไม่ชอบการประกวด..
การประกวดและแข่งขัน..ต้องนำครูและเด็กออกนอกโรงเรียน..แต่งานนี้ที่ต้องไปเพราะเป็นกิจกรรม”ภาษาไทย”ที่จะทำให้ผมรู้ว่า..โรงเรียนอยู่ในจุดไหนจะแก้ไขการสอนภาษาไทย..อย่างไร?..ถ้าภาษาไทยไปได้ดี..ผลสัมฤทธิ์ไม่มีตกต่ำแน่นอน...
อีกอย่างหนึ่งก็คือ..ถ้ารู้ว่าเด็กมีทักษะ ก็ไม่จำเป็นต้องฝึกปรือ ให้เด็กเขาไปแก้ปัญหาเอง ผมบอกแต่เพียงว่า..งานนี้เกี่ยวข้องกับวันภาษาไทย..ยังไงก็เขียนโยงให้ได้
ออย..กลับจากการแข่งขัน..มารายงานผมบอกว่าเขียนได้เยอะเลย ผมเลยถามว่าเขาให้ภาพอะไรมา..ออยบอกเป็นภาพนักเรียนช่วยกันจัดป้ายในห้องเรียน..
ออยก็เลยเขียนบรรยายเล่าเรื่องแบบว่า..เด็กรักภาษาไทย ก็เลยจัดบอร์ดวิชาภาษาไทย..จึงทำให้เข้าตากรรมการ ให้ออย หรือเด็กหญิงอริสรา..ชนะเลิศ
ออยก็เลยเป็นตัวแทนเข้าแข่งขันในระดับเขตพื้นที่ฯ ซึ่งตอนนี้ก็ประกาศผลแล้วว่าออยได้ไปต่อ โดยผลงานของออยได้ส่งเข้าไปที่สพฐ.ถ้าได้รับการคัดเลือก ออยจะได้ไปเขียนเล่าเรื่องที่กรุงเทพฯแบบสดๆกันเลยทีเดียว..
ผมเรียกออยมาคุยเพื่ออธิบายว่าผลงานของออยไปถึงไหนและจะต้องทำอย่างไรต่อไป..ครูจะไม่ฝึกซ้อมใดๆแต่อยากให้ออยตั้งใจเรียนเป็นปกติและรักษาสุขภาพด้วย
ออยเป็นหวัดบ่อย..ขาดเรียนเดือนละ ๒ – ๓ ครั้ง..ผมเลยถามว่าออยพักกับใคร พ่อกับแม่ทำงานอะไร...ครูไม่เคยเห็นพ่อกับแม่มารับออย เห็นแต่ปู่กับย่า...
“ไม่ใช่ปู่กับย่าค่ะ เป็นพ่อคุณแม่คุณของหนู” ออยจะบอกผมว่าเป็นตากับยายหรือเป็นพ่อแม่ของแม่ออยนั่นเอง...
“ออยมีน้องไหม?” ผมถาม “มีค่ะ ตอนนี้เรียนที่ศูนย์เด็กเล็กค่ะ”
“แสดงว่าแม่มีลูก ๒ คน” “ค่ะ แต่คนล่ะพ่อค่ะ” “อ้าว”
“พ่อออยไปไหนเสียล่ะ” ผมหลุดปากถามไป ออยตาแดงๆ
“พ่อทิ้งหนูไปนานแล้วค่ะ” ว่าแล้วน้ำตาออยก็เริ่มไหลรินลงมาอาบแก้ม
“จะร้องไห้ทำไมเนี่ย ออยก็ยังมีแม่และแม่ก็รักหนูมิใช่รึ แม่มาหาหนูบ้างหรือเปล่า พ่อใหม่ล่ะเป็นไงบ้าง เขารักออยไหม?” ผมก็ซักถามไปเรื่อย
"แม่ไม่ค่อยกลับมาบ้าน ต้องไปทำงานก่อสร้างที่กรุงเทพ เวลากลับมาหนูเห็นเขาทะเลาะกัน พ่อชอบตีแม่ และบางทีก็ตีหนูด้วย แม่คุณต้องมาคอยห้ามไว้ค่ะ”
ผมหมดคำถาม..พูดไม่ออกได้แต่บอกให้ออยหยุดร้องไห้ แต่ไม่ได้บอกออยว่าชีวิตก็มักเป็นแบบนี้ ก็ยังดีที่ออยรักที่จะตั้งใจเรียนมากกว่าจะมองว่ามันเป็นปัญหา....
ตอนเย็นผมเชิญคุณยายของออยมาพบ..ผมเล่าเรื่องผลงานของออยและชื่นชมความสามารถของออยให้ยายฟัง..ฝากให้ยายช่วยเป็นกำลังใจให้ออยด้วย ส่วนผมจะดูแลเรื่องอุปกรณ์การเรียนของออยตลอดปี โดยที่ออยไม่ต้องไปซื้อที่ห้องสหกรณ์ร้านค้า
ก่อนกลับ..ยายของออยบอกว่าออยชอบอ่านหนังสือ ไม่ค่อยคุย เป็นเด็กที่คิดมาก ผมนึกในใจ ไม่ได้คิดมากอย่างเดียว คิดวิเคราะห์และสร้างสรรค์ด้วยนะ ไม่งั้นจะเขียนเรื่องได้รางวัลชนะเลิศได้หรือยาย....
ชยันต์ เพชรศรีจันทร์
๑๙ มิถุนายน ๒๕๖๒
ครูเป็นได้ทุกสิ่ง เป็นผู้ให้ทั้งวิชาความรู้ แก่นักเรียนทุกคน และบางครั้งยังเป็นผู้ให้กำลังใจ ที่ดีสำหรับนักเรียนบางคน หรืออาจทุกคนก็ว่าได้ค่ะ
รู้สึกชื่นชมคุณครูนะคะ .. เด็กๆ ทุกคนควรได้รับการชื่นชมจากคนใกล้ตัว เพื่อให้เขาและเธอชื่นชมตนเองได้