The spell of Greece : ทริป กรีซ 12-21 เมษายน 2562 ขั้นเตรียมการ

ทริปปิดเทอมหน้าร้อนทริปนี้เกิดขึ้นเนื่องจากความประทับใจเล็กๆ เมื่อเห็นภาพถ่ายของหมู่บ้านแห่งนึงบนเกาะซานโตรินี่ ประเทศกรีซ ที่หันหน้าไปรับตะวันยามเย็น สวยเป็นที่สุด โดยมีผู้ induce ก็คือเจ้าลูกชายที่เอาภาพนี้มาให้ดู จากนั้น การเฝ้าตั๋วเครื่องบินราคาย่อมเยาว์ก็เกิดขึ้น และแล้วเราก็ได้มา ตั๋วเครื่องบินจากสิงคโปร์แอร์ไลน์ ไป-กลับ ตกอยู่ที่ราคา 24,420 บาทต่อคน หลังจากได้ตั๋วมาแล้วก็เริ่มทำการบ้าน การเตรียมการก่อนไปก็ใช่จะง่ายเพราะรีวิวที่หาได้ก็อ่านจนจะจำสำนวนคนเขียนได้อยู่แล้ว ยังจะต้องทำวีซ่าที่ต้องเดินทางไปด้วยตัวเองยังสถานทูตกรีซประจำประเทศไทยอีก ดังนั้นก่อนที่จะเข้าเรื่องเที่ยว จะได้เล่าถึงการเตรียมการเสียก่อน

การทำวีซ่า จะต้องไปทำที่กรุงเทพฯ ที่สถานทูตกรีซประจำประเทศไทย เข้า website ของสถานทูตแล้วไป download เอกสารประกอบการยื่นวีซ่ามาศึกษาก่อนที่นี่ https://www.mfa.gr/missionsabroad/images/stories/missions/thailand/docs/Documents%20for%20Visa%20Application(Thai%20)individual.pdf ทีนี้ตรงไหนที่ไม่เข้าใจให้ขีดไว้ แล้วโทรไปถามเจ้าหน้าที่ของสถานทูตทีเดียว เวลาโทรไป ให้โทรไปหลังบ่าย 2 ครึ่งนะ เจ้าหน้าที่เค้าจะถามวันเวลาที่เราจะไปว่าไปช่วงวันไหน แล้วเค้าจะนัดวันให้เลยว่าให้เข้ามายื่นเอกสารได้วันไหนค่ะ

ส่วนของเอกสาร เนี่องจากเรามีลูกชายไปด้วย อายุ 14 เอกสารอันนึงที่สำคัญก็คือต้องแปลสูติบัตรและต้องมีตราประทับของกรมการกงศุล อันนี้เราเกือบพลาดเพราะคิดว่าแปลเองได้เหมือนกับวีซ่าเชงเก้นตอนไปอิตาลี แต่ไม่นะ จะต้องไปจ้างร้านแปล และต้องขอตราประทับของกรมการกงศุลด้วย (ค่าแปล 1800 บาท ร้านแปลอยู่เชียงใหม่) เตรียมให้พร้อมนะคะ ส่วนเอกสารอื่น ให้เตรียมไปตามลิสต์ได้เลย อ้อ เค้าถามถึง book bank ด้วยนะคะ แม้จะเตรียม statement ไปแล้วก็ตาม ให้เตรียม book bank ไปด้วย

เมื่อถึงวันนัดยื่นเอกสารขอวีซ่า เราไปรอที่อาคารสาธรนครทาวเวอร์ อยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าช่องนนทรี เค้านัดเรา 9.00 น. แต่ปรากฏว่า พอไปถึงยังขึ้นไปไม่ได้ ต้องรอ 10 โมง ก็เลยรอที่ รปภ. แลกบัตรขึ้นลิฟต์ไปชั้น 23 แล้วไปเอาคิวที่สถานทูตกรีซ เค้าจะรับทีละ 3 คิวเพราะสถานที่ได้แค่นั้น เราไปได้คิวที่ 5 ได้คิวเสร็จเจ้าหน้าที่บอกให้ไปรอข้างล่างก่อนพร้อมกับขอเบอร์โทรเราไว้ เดี๋ยวถ้าถึงคิวเค้าจะโทรไปตาม ก็เลยลงมาข้างล่างกันอีกครั้งนึง สักแป้ป เจ้าหน้าที่ก็โทรมาให้ขึ้นไปได้ ขึ้นไปยื่นเอกสาร เจ้าหน้าที่ตรวจเอกสารแล้วก็ให้ไปโอนเงินที่ธนาคารกสิกรไทยที่อยู่ล่างตึกสาธรนคร เป็นค่าธรรมเนียมในการทำวีซ่าจำนวน 2,160 บาทต่อคน โอนเงินเสร็จแล้วก็กลับขึ้นมาอีกครั้ง เอาเอกสารจากธนาคารยื่นให้กับเจ้าหน้าที่ แล้วเค้าก็เรียกให้ไปถ่ายรูปและสแกนนิ้วมือ เป็นอันเสร็จ จากนั้นเค้าจะนัดรับเล่มพาสปอร์ตคืน ใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ค่ะ เค้าไม่มีบริการส่งทางไปรษณีย์ การไปรับเล่มคืนจะต้องไปรับเองหรือฝากใครไปรับก็ได้โดยคนที่ไปรับแทน จะต้องถ่ายเอกสารบัตรประชาชนเป็นหลักฐานในการไปรับค่ะ การทำวีซ่าเป็นอันเสร็จเรียบร้อย และพากันกลับลำปาง

สำหรับการจองที่พัก การจองตั๋วไปโน่นไปนี่ และค่าใช้จ่ายที่เราสามารถจัดการให้เรียบร้อยก่อนเดินทางไปก็มีดังนี้

-ค่าที่พักจ่ายผ่าน Agoda และ booking.com

พักที่เอเธนส์ Arethusa hotel 3+2 คืน 14958 + 8063 = 23201 บาท ต่อ 4 คน (คนละ 1160 บาทต่อคืน) รวมอาหารเช้า

• พักที่ซานโตรินี่ Antonia Hotel Santorini 2 คืน = 5294 บาท ต่อ 4 คน (คนละ 661 บาทต่อคืน) ไม่มีอาหารเช้า

-ค่าตั๋วเรือ Sea jet จ่ายผ่าน web (เดินทางจากเอเธนส์ไปซานโตรินี่) 2,536 บาทต่อคน

-ค่าตั๋วเครื่องบิน Volotea (เครื่องบินจากซานโตรินี่มายังเอเธนส์) จ่ายผ่าน web 2,637 บาทต่อคน

-ตั๋วรถไฟไป Kalambaka (เพื่อเที่ยวเมือง Meteora) ซื้อผ่าน web การรถไฟของเค้า ราคาไปกลับจะถูกกว่า ค่าตั๋วรถไฟไปกลับ 1,080 บาท/คน

และอย่าลืม Sim to fly ค่ะ ราคา 799 บาทได้ net 4 GB ใช้สบาย 15 วัน

จากนั้นเราก็เตรียมแพลนเที่ยว ได้มาเป็นแบบนี้

April, 12 LPT-BKK 14.00-15.35 PG 208 BKK-SIN 20.10-23.30 SQ 983

April, 13 SIN-ATH 02.35-09.05 TR 712 (Operated by Scoot) เข้าโรงแรม Arethusa Hotel ออกมาเที่ยวใน Athens

April, 14 เที่ยวต่อใน Athens

April, 15 Delphi Day trip

April, 16 ไป Santorini โดยเรือ Sea jet (เรือเร็ว จองตั๋วทาง web) 07.00-11.55 น. ราคา 2,536 บาท (69.70 ยูโร) จอง transport จากโรงแรม Antonia Apartment Hotel ให้มารับที่ท่าเรือ คนละ 5 ยูโร เช็คอิน เรียบร้อยก็เดินเที่ยวในเมืองฟีร่า เย็นไปดูพระอาทิตย์ตกที่หมู่บ้านเอีย

April, 17 ซื้อทัวร์ไปเที่ยว Volcano & Hot springs ราคา 20 ยูโร ซื้อจากโรงแรมได้เลย ราคาเท่ากันกับซื้อ ที่ท่าเรือ กลับมาเที่ยวต่อใน Santorini

April, 18 กลับ Athens โดยเครื่องบินโลว์คอสของเค้า เราจอง Volotea airline JTR-ATH (Santorini- Athens) 07.05-08.40 ได้ราคา 2,636.50 + 61.58 = 2,698 บาทต่อคน (มีค่าธรรมเนียมตอน เช็คอินอีก 6.68 ยูโร/4 คน = 246.35 บาท) Check in โรงแรมเดิม Arethusa Hotel เที่ยวต่อใน Athens

April, 19 ไป Kalambaka เที่ยว Meteora (Meteora Day Trip) ซื้อตั๋วรถไปทาง web ค่าตั๋วไปกลับ คนละ 29.20 ยูโร (1,080 บาท)

April, 20 ATH-SIN 11.30-03.35 TR 713

April, 21 SIN-BKK 07.10-08.35 SQ 970 BKK-LPT 11.55-13.30 PG 207 ถึงบ้านโดยสวัสดิภาพ

ทีนี้ก็มาถึงเรื่องที่หลายคนสงสัย เกี่ยวกับ Scoot ใช่ค่ะ เป็น Low cost แต่พอดีเราจองผ่าน SQ คือจากกรุงเทพไปสิงคโปร์ ไปด้วย Singapore airline คือจะหรูหน่อย แต่จาก Singapore ไป Athens นั้น ไปโดย Scoot การจองรูทนี้ทำให้เราพวกเรามีอาหารและผ้าห่มฟรี (ผ้าห่มนี่ เค้าขายบนเครื่อง ราคา 15 สิงคโปร์ดอลล่าต่อผืนเลยนะ) แต่ๆๆๆ ที่นั่งไม่มีจอนะคะ บินไป 11 ชั่วโมงครึ่ง ต้องโหลดหนังใส่ ipad ไปเยอะๆ เด้อ ขากลับก็เช่นกันแต่ขากลับใช้เวลาแค่ 10 ชั่วโมงครึ่ง เรานี่เอา ipad เล็กๆ มีหนังที่ชื่นชอบใส่ไปด้วยก็เอาชีวิตรอดได้อยู่ ส่วนที่นั่งบนเครื่องไม่อึดอัดนะ ดีทีเดียวค่ะ แต่คราวหน้าถ้าต้องนั่งแบบนี้อีกว่าจะเตรียมหมอนคอไปด้วย น่าจะดี

ทริปนี้หมดไปคนละ 60,000 บาทรวมทุกอย่างตั้งแต่เริ่มไปทำวีซ่า เอาล่ะ เตรียมตัวเตรียมเงินกันเสร็จแล้วก็เดินทางกัน ติดตามการเดินทางของพวกเราได้ในบันทึกถัดไปนะคะ

เครดิตภาพถ่าย : ซัน