ชีวิตที่พอเพียง 3445. จิตเลื่อนไหลไปกับสายธาร



เช้าวันศุกร์ที่ ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๖๒   เวลาประมาณ ๗ น. ผมไปนั่งเติมพลังให้ตัวเองริมแม่น้ำนครชัยศรี ที่ศาลาใหญ่ริมน้ำ ของสวนสามพราน   โดยที่เช้าวันนี้ลมดีกว่าครั้งก่อนๆ 

สัมผัสแรกคือเมื่อผมไปถึง ก็เห็นสภาพน้ำนิ่ง    กอผักตบชวาเต็มคลองแทบไม่มีช่องว่างในแม่น้ำ     ได้บรรยากาศเงียบสงบในรูปแบบหนึ่ง   

นั่งเขียน บล็อก อยู่ชั่วโมงเศษสังเกตเห็นว่า น้ำเริ่มขึ้น    แพผักตบชวาเคลื่อนตัวไปทางเหนือน้ำ   แล้วค่อยๆ เคลื่อนเร็วขึ้น    ตามวัฏจักรน้ำขึ้นน้ำลง    ที่คนในชุมชนชายทะเลหรือใกล้ทะเลคุ้นเคย    วัฏจักรน้ำขึ้นน้ำลงนี้ ได้สร้างระบบนิเวศน์ชายฝั่งทะเล และปากแม่น้ำ ที่มีลักษณะจำเพาะ  

มองไกลๆ ไปที่ที่ฝั่งตรงข้ามแม่น้ำ เข้าใจว่าเป็นฟาร์มผักบุ้งที่แม่น้ำริมฝั่ง     เห็นสองสามีภรรยาลอยเรือเก็บยอดผักบุ้ง ที่มองด้วยตาเปล่าไม่รู้ว่าทำอะไร    ต้องใช้วิธีเอากล้องถ่ายรูปถ่ายซูมเอามาดู จึงรู้ว่าเขาเก็บผักบุ้งมัดเป็นกำ สำหรับส่งไปขาย     ทำให้ผมสะท้อนคิดว่าชีวิตแบบนี้จะยั่งยืนไปในอนาคตได้แค่ไหน    ในฐานะคนชอบกินผักบุ้งผัด ผมอยากให้อาชีพนี้ยั่งยืน    แต่ก็สงสัยว่า คุณภาพน้ำในแม่น้ำจะเอื้อให้เกษตรกรแบบนี้มีชีวิตที่ดีได้นานแค่ไหน    และลูกหลานของเกษตรกรครอบครัวนี้จะอยากดำเนินชีวิตแบบพ่อแม่ไหม    ผมเองก็เป็นตัวอย่างของลูกเกษตรกรที่สมัครใจไม่ประกอบอาชีพเดิมของพ่อแม่    ความคิดของผมล่องลอยไปไกลสู่อดีต

มีเสียงเรือโยงสองลำ โยงเรือบรรทุกสินค้าขบวนยาว     แล่นมาจากทางเหนือน้ำ      ตรงที่ผมนั่งอยู่เป็นคุ้งน้ำ     เรือโยงสองลำจึงต้องช่วยกันบังคับทิศทางของขบวนเรือสินค้า     เรือลำหนึ่งทำหน้าที่ลาก อีกลำหนึ่งทำหน้าที่บังคับทิศทาง    ลำหลังต้องใช้ฝีมือมาก    ต้องหยุด แล่นถอยหลัง แล้วลากสายโยงมาทางฝั่งที่ผมนั่งอยู่ แล้วหยุด    สลับอยู่อย่างนี้    และส่งเสียงดังลั่น เพราะเรือลำนี้ต้องออกแรงมากน้อยเป็นระยะๆ    ในขณะที่เรือลากหลักแล่นไปทื่อๆ ตามลำแม่น้ำ     ผมตั้งข้อสงสัยว่า สภาพชีวิตของคนเรือโยงเป็นอย่างไร    ลูกของเขาจะเข้าเรียนหนังสืออย่างไร    อาชีพนี้จะยั่งยืนต่อไปในอนาคตแค่ไหน        

ต่อมาอีกราวๆ ครึ่งชั่วโมง   มีเรือโยงอีกสองลำ ไม่ได้โยง แต่มีพฤติกรรมแปลก     คือลำหนึ่งแล่นทื่อๆ ตรงไปแบบเรือโยงหลัก แต่ไม่ได้ลากเรือสินค้า     อีกลำหนึ่งแล่นแล้วหยุดๆ เป็นช่วงๆ    บางครั้งถึงกับแล่นถอยหลัง     ส่งเสียงดัง     ผมมองไปทางเหนือน้ำเห็นเรือสินค้าจอดอยู่ไกลๆ     คิดว่าเขาแล่นมาสำรวจสภาพแม่น้ำ     และจะกลับไปโยงเรือสินค้า     แต่ก็คาดผิด    เรือสั้งสองแล่นลงไปทางใต้จนลับไป    ไม่หวนกลับมาในช่วงที่ผมนั่งอยู่     จนบัดนี้ผมก็ไม่รู้ว่าเรือสองลำนี้แล่นมาทำอะไร      

ชีวิตสัตว์ที่เรียกความสนใจคือ นกปากห่างหลายคู่    บินไปเกาะที่แพผักตบชะวาบ้าง    ไปเกาะที่เสาริมแม่น้ำบ้าง     ให้ความมีชีวิตชีวา

วิจารณ์ พานิช

๓๐ พ.ค. ๖๒



1 ผักตบชะวาเต็มแม่น้ำ

2 เรือโยงมาแล้ว

3 เรือโยงทั้งคู่และเรือสินค้า

4 เรือโยงสองลำช่วยกันบังคับทิศทางของเรือสินค้า

4 เรือโยงสองลำช่วยกันบังคับทิศทางของเรือสินค้า

6 ลำหนึ่งแล่นๆ หยุดๆ ฉวัดเฉวียน

7 สองสามีภรรยาเก็บผักบุ้ง

8 นกปากห่าง

หมายเลขบันทึก: 661892เขียนเมื่อ 2 มิถุนายน 2019 16:34 น. ()แก้ไขเมื่อ 2 มิถุนายน 2019 16:34 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

คิดโยงออกไปจากใจตัวในหัววางกรอบความคิดสิ่งแวดล้อมจำกัดชีวิตเพ่งพิศจึงเห็นกลางๆ- - - - - - - - - - - - - -ขอไตร่ตรองสะท้อนคิดด้วยความเคารพครับอาจารย์

ภาพนั้นเป็น.. มายา.. หรือสิ่งที่เป็น.. ชีวิต.. ที่เห็นและที่เป็น…

เรียน อาจารย์ ในสถานภาพลูกชาวสวนที่เข้าเมื่องคนหนึ่ง ปัจจุบัน เมื่อกลับมารักษา ทรัพยากรเดิมของบรรพบุรุษ ดำเนินชีวิตผสมผสานระหว่าง สภาพรุ่นพ่อแม่ และรุ่นใหม่ ผสานภูมิศาสตร์ไทยกับเทคโนโลยี รู้สึกว่าลงตัวดีมากค่ะ อาจารย์ การขาดแคลนทรัพยากรฯ ทำให้…เป็นที่ต้องการของตลาดมาก และไม่จำเป็นต้องเครียดเรื่องต้นทุน แบบสังคมทุนนิยม เพราะทุนมาจากธรรมชาติ เป็นหลัก การลงแรง คือ ออกกำลังกาย ร่างกายมีสุขภาพดี ได้เงินเป็นผลตอบแทนด้วย (ถ้าเข้าสถานออกกำลังกายก็เสียเงิน) เราปรับตัวไปตามธรรมชาติ จึงดำรงอยู่ ใน ภาวะที่มีการเปลี่ยนแปลง… และไม่มีสิ่งใดจีรัง คือ กฎธรรมชาติ ค่ะ

ขอแสดงความนับถือ

คุณลิขิต

แก้วเป็นลูกของคนทำงานราชการแต่ทำไร่ ทำสวนมาด้วย ดังนั้นชีวิตผสานกันอย่างลงตัวค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท