๖๗. จากสะพานทุ่งนามุ้ย...ถึงวัดจุฬาภรณ์วนาราม


ผมคนหนึ่งล่ะ...ที่ตั้งใจจะไปถ่ายภาพเป็นอย่างยิ่ง เพราะผมชอบอุโมงค์ต้นไม้ แต่พอไปถึง..สิ่งที่ประทับใจพอๆกับอุโมงค์ไผ่ก็คือความสะอาดของวัดและสวนหย่อมภายในวัด..ที่จัดได้อย่างเรียบร้อยสวยงาม

        ผมเคยคิดว่า..จังหวัดนครนายกเป็นเพียงจังหวัดเล็กๆ คงมีสถานที่ท่องเที่ยวไม่มากนัก..แต่พอเข้าไปในกูเกิลเท่านั้น..ก็รู้เลยว่ามากมายไม่แพ้จังหวัดอื่นๆ

    วันรุ่งขึ้น..หลังจากที่ผมเที่ยวชมเขื่อนขุนด่านปราการชลเป็นที่เรียบร้อย ผมก็ต้องกลับกรุงเทพฯ แต่ขาล่อง..ต้องแวะสัก ๒ แห่ง เพื่อเก็บภาพไว้เป็นที่ระลึก..

        ผมเลือกสะพานทุ่งนามุ้ย กับวัดจุฬาภรณ์วนาราม ตามเวลาที่เหลืออยู่ ก่อนอื่นก็ต้องเข้าไปดูคำแนะนำจากอากู๋ เพื่อสร้างแรงจูงใจ..ในการตัดสินใจ

        อย่างน้อยก็จะได้รู้ก่อนว่า น่าสนใจแค่ไหน? เขาพูดไว้ว่าอย่างไร?..ถ้าตัดสินใจไปเยือนถึงที่แล้ว..คราวนี้ล่ะ..เรื่องภาพถ่ายจะเป็นของเราทันที..

        จากคำบอกเล่าต่อๆกันมา..มีใจความว่า...     

         สะพานทุ่งนามุ้ย คือ สะพานไม้ไผ่ที่ทอดยาวคดเขี้ยวไปตามทุ่งนาเขียวขจี เป็นมุมถ่ายภาพที่งดงามมากๆ เป็นภาพที่หาชมได้ยากในสมัยนี้
         ภาพของทุ่งนามุ้ย สีเขียวกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา ขั้นไว้ด้วยสะพานไม้เมื่อมองจากมุมสูงจะเหมือนกับงานศิลปะที่ถูกสร้างสรรค์ไว้อย่างน่ามหัศจรรย์

         โดยรอบสะพานทุ่งนามุ้ย มีความร่มรื่นและเงียบสงบ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการหลีกหนีความวุ่นวายในเมืองกรุง มาสูดโอโซนให้เต็มปอด
        พื้นที่สีเขียวแห่งสะพานทุ่งนามุ้ยนี้ ตั้งอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพ เพียงขับรถมาไม่กี่ชั่วโมงคุณก็จะได้สัมผัสกับกลิ่นไอดินและใบหญ้า ที่หลายๆ คนโหยหามาตลอด

         ไฮไลท์ที่สะพานทุ่งนามุ้ยหลายๆ คนชื่นชอบที่สุด นั่นก็คือมุมถ่ายภาพที่ต้องห้ามพลาด รับรองว่าหากมาที่นี่คุณจะได้ภาพสวยๆ กลับไปลงในโซเชี่ยลแน่นอน

        เท่านั้นเอง...ผมก็ตัดสินใจที่จะไปสัมผัสเพื่อให้ได้ภาพติดตาตรึงใจ ดังคำร่ำลือ ซึ่งที่ตั้งสะพานทุ่งนามุ้ย ตั้งอยู่ที่ ต.สาริกา อ.เมือง จ.นครนายก

         และการเดินทางไปสะพานทุ่งนามุ้ยใช้เส้นทางเดียวกับทางไปเขื่อนขุนด่านปราการชล จังหวัดนครนายก และดูป้ายบอกทางเข้าสู่สะพานทุ่งนามุ้ย...ตอนนี้ตามผมไปดูภาพถ่ายก่อนก็ได้ครับ

        ออกจากสะพาน..ผมก็เดินทางตรงไปยังวัดจุฬาภรณ์วนาราม ก่อนที่รถยนต์จะขับเคลื่อนเข้าสู่ตัววัดที่สงบเงียบ ผมอ่านประวัติความเป็นมาของวัดจากกูเกิล..อ่านจบ..ก็ให้รู้สึกอยากสัมผัสบรรยากาศภายในวัดยิ่งนัก

          วัดจุฬาภรณ์วนาราม ตั้งอยู่ ตำบลบ้านพริก อำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก สร้างขึ้นในโอกาสที่ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ทรงพระชนมายุ ๕๐ พรรษา ในวันที่ ๔ กรกฎาคม ๒๕๕๐ และได้พระราชทานนามวัด"วัดจุฬาภรณ์วนาราม” พร้อมด้วยพระราชทานตราสัญลักษณ์ จภ เป็นตราประจำวัด เมื่อวันที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๐                                                                                                                      

           ด้านหน้าวัดจุฬาภรณ์วนาราม มีซุ้มไผ่เป็นอุโมงค์ไผ่ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ที่เอียงเข้าหากันระหว่างทางเดินที่ทอดยาวหลายเมตร จนกลายเป็นอุโมงค์ไผ่เขียวขจีที่สวยงาม   

         ยิ่งในช่วงที่มีแสงอ่อนของดวงอาทิตย์ส่องลอดลงมาผ่านต้นไผ่ด้วยแล้วยิ่งงดงาม ซุ้มต้นไผ่ มีบรรยากาศคล้ายกับป่าไผ่อาราชิยาม่า ที่ญี่ปุ่น เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นที่นักท่องเที่ยวต่างนิยมมาถ่ายภาพ ถือเป็นจุดพักผ่อนที่สวยงามร่มรื่น

        ผมคนหนึ่งล่ะ...ที่ตั้งใจจะไปถ่ายภาพเป็นอย่างยิ่ง เพราะผมชอบอุโมงค์ต้นไม้ แต่พอไปถึง..สิ่งที่ประทับใจพอๆกับอุโมงค์ไผ่ก็คือความสะอาดของวัดและสวนหย่อมภายในวัด..ที่จัดได้อย่างเรียบร้อยสวยงาม

        จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมนักท่องเที่ยวจึงนิยมมาไหว้พระและถ่ายภาพในวัดนี้..มีมุมที่สุดสวยมากมาย..เชื่อว่า..ใครก็ตามที่ได้ไปเห็นแบบผม ประทับใจแน่นอนครับ

ชยันต์  เพชรศรีจันทร์

๒๓  พฤษภาคม  ๒๕๖๒


หมายเลขบันทึก: 661785เขียนเมื่อ 23 พฤษภาคม 2019 21:26 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 พฤษภาคม 2019 21:26 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

แวะมาทักทายจ้ะท่าน ผอ.คนเก่งสบายดีนะจ๊ะ

ร่มรื่นดีมากเลยครับ ท่าน ผอ. ;)…

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท