[review] รีวิว Ralph Breaks the Internet (2018)

[review] รีวิว Ralph Breaks the Internet (2018) สนุกมาก โดยส่วนตัวชอบมากกว่าภาคแรกอีก แสดงถึงความหมายของความสัมพันธ์ เป็นการพจญภัย และเปิดโลกทัศน์ที่ดีงาม

เมื่อราฟและเพเนโลพีเป็นเพื่อนรักกันมา 6 ปี พวกเขาไม่เคยห่างกันเลย วันหนึ่งเพเนโลพีต้องการหาความแปลกใหม่ให้กับชีวิต เธอเบื่อเส้นทางแข่งขันในเกมส์รถแข่งของเธอ เธอต้องการหาชีวิตใหม่ ราฟเพื่อนรักหาทางช่วยแต่เกิดควาทผิดพลาดขึ้นจนทำให้พวงมาลัยที่ควบคุมเกมส์รถแข่งหัก เจ้าของร้านเกมส์ตรวจสอบราคาพวงทมาลัยรถแข่งเกมส์นี้ในระบบอินเตอร์เน็ทจึงรู้ส่ามีราคาแพงถึง 200 us. จึงตัดสินใจจะถอดปลักแล้วยกปลดระวางเกมรถแข่งนี้ ราฟกับเพเนโลพีจึงตัดสินใจเดินทางเข้าสู่โลกอินเตอร์เน็ทเพื่อหาทางนำพวงมาลัยรถแข่งจาก ebay เพื่อแก้ไขสถานการณ์นี้ให้ได้ แต่โชคร้ายที่เขาทั้งสองคนไม่เข้าใจเรื่องการประมูลราคาจึงทำให้พวงมาลัยราคาเพิ่มขึ้นถึง 2 หมื่นกว่า us จึงเขาหาคนในโลกอินเตอร์เน็ทช่วยเหลือเพื่อให้หาเงินมาจ่ายกับ ebay ในเวลาที่กำหนด นั่นคือเรื่อราวการผจญภัยอันแสนวุ่นวายที่กำลังจะเกิดขึ้น เขาตั้งมั่นใจมนความสัมพันธ์อันซื่อสัตย์ระหว่างเพื่อนกับเพื่อนอย่างแรงกบ้ส

ด้วยความที่ดิสนีย์มีทรัพยากรตัวละครจากค่ายมหาศาล รวมถึงตัวละครจากหนังค่ายต่าง ๆ อย่าง Star Wars Marvel จึงนำตัวละครเหล่านั้นมาใช้ในภาพยนตร์เรื่องนี้อย่างเต็มที่ ทุกฉากที่มีตัวบะครจากโบกดิสนีย์เข้ามาร่วมฉากสร้างควาทตื่นเต้นให้กับเราคนดูได้อย่างมาก และไหนจะพวก Browser website Pop Up หรือ อะไรก็ตามที่อยู่ในอินเตอร์เน็ต เรียกได้ว่า Easter Egg มหาศาลล้นหนัง เลยทีเดียว ผู้กำกับหยิบใช้มุกเหล่านี้มาเล่นได้อย่างพอเหมาะพอเจาะ แต่ละฉากบนโลกอินเตอร์เน็ทล้วยตระการตามาก

โดยเฉพาะฉากรวมเจ้าหญิงดิสนีย์ซึ่งผมเชื่อว่าจะกลายเป็นฉากอมตะของโลกภาพยนตร์เลยทีเดียว มีความเป็นผู้หญิงสูง เม้ามอยเรื่องความสวยความงามเรื่องเสื้อผ้าหน้าผม แอบสงสัยว่าฉากนี้เขาเขียนบทกันยังไง พากษ์เสียง กันยังไง ดึงคาราเตอร์ของเจ้าหญิงแต่ละคนออกมาได้ชัดเจน มีความตลกมาก นับว่าสุดยอดมาก

ส่วนปรัชญาที่ชอบมาก ๆ คือการเสียดสีโลกอินเตอร์เน็ตโดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับกระแสนิยมของมนุษย์ที่สามารถเปลี่ยนแปลงไปได้อย่างรวดเร็ว สักพักมาสักพักก็ไป ไม่มีอะไรแน่นอน อีกทั้งเสียดสีพฤติกรรมของมนุษย์เกี่ยวกับการคอมเม้นในโลกของ Social Network ที่คิดอะไรก็แสดงความคิดเห็นอย่างนั้น ซ้ำร้ายคือการคอมเม้นท์อะไรแบบคึกคะนอง อาจสร้างผลเสียให้กับคนอื่นโดยไม่รู้ตัว

มุกตลก อารมณ์ขั้นทำได้ดีและลงตัว สอดแทรกคำสอนแบบง่าย ๆ ให้คนดูรู้สึกสะกิดใจได้แบยไม่ยัดเยียด มุกสร้างความปั่นป่วนวุ่นวายของราฟทำได้ดี แม้บางจุดราฟจะทำตัวงี้เง่าไปบ้าง ไม่บ้างสิเล่นซะโลกอินเตอร์ระบบแทบล่ม แต่นั้นก็คือความใสสื่อบริสุทธิ์ที่ทำออกมาด้วยความรัก และสามารถ "กลับมา" ได้อย่างมีความหมายด้วย

โดยส่วนตัวแล้วชอบเและเชียร์ Ralph Breaks the Internet สมควรได้รับรางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์อนิเมชั่นยอดเยี่ยมมากกว่า Spider-Man: Into the Spider-Verse ซะอีก เพราะ Ralph Breaks the Internet นำเสนอเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนกับเพื่อน ความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครกับสิ่งที่เป็นอยู่นำเสนอ การตั้งคำถามถึงการเหมือนเดิมและการเปลี่ยนแปลง นำเสนอข้อและข้อเสียของโลกอินเตอร์เน็ต ที่สำคัญดูแล้ว feel good อีกต่างหาก

9.5/10

หัก 0.5 เบื่อความงี่เง้าของราฟนิดนึงนะครับ

วาทิน ศานติ์ สันติ

#MovieStation #สถานีหนัง

#MovieAnimation