[review] รีวิว Back to the Future (1985 1989, 1990) เจาะเวลาหาอดีต


[review] รีวิว Back to the Future (1985 1989, 1990) เจาะเวลาหาอดีต ในบรรดาหนังตระกูลไตรภาคที่มีเนื้อหาดีและดูสนุกไปพร้อมกันนั้น เรื่องหนึ่งที่ขอแนะนำคือ เจาะเวลาหาอดีต (Back to the Future) ทำออกมา 3 ภาคด้วยกันคือปี ค.ศ. 1985 1989 และ 1990 ตามลำดับ

เป็นหนังแนวผจญภัย วิทยาศาสตร์ กำกับโดยโรเบิร์ต เซเม็กคิส อำนวยการสร้างโดยสตีเฟน สปีลเบิร์ก ซึ่งเห็นชื่อของทั้งสองคนนี้แล้วการันตีได้เลยว่าหนังชุดนี้มีความสุขสนานอลังการแน่นอน นำแสดงโดย ไมเคิล เจ. ฟ็อกซ์ แสดงเป็น มาร์ตี้ แม็กฟลาย และ คริสโตเฟอร์ ลอยด์ แสดงเป็นด็อกเตอร์สติเฟื้อง เอ็มเม็ต แอล. บราวน์ (ซึ่งหนังตั้งใจทำให้บุคลิกโดยเฉพาะทรงผมเหมือนไอสไตล์) ที่สามารถสร้างรถข้ามเวลาได้

หนังทั้ง 3 ภาคมีการผูกเรื่องที่ค่อนข้างดี โดยโยงเรื่องราวทั้งหมดไปที่นาฬิกาของเมือง ซึ่งการย้อนเวลา หรือการข้ามไปอนาคตแต่ละครั้งมีความผูกพันกับนาฬิกาแห่งนี้ การย้อนเวลากลับไปแต่ละครั้ง จะกลับไปแก้ไขอดีตเพื่อไม่ให้เกิดบางสิ่งบางอย่างกับปัจจุบันที่ไม่ควรจะเป็น

หนังยังคงความระมัดระวังเกี่ยวกับกฏเหล็กของการแตะต้องกับเวลา เช่นห้ามไม่ให้ตัวเองในอดีตเห็น หากยุ่งกับอดีตมาเกินไปอนาคต (ปัจจุบัน) ก็จะเปลี่ยนแปลงไปด้วย หรือ การรู้เหตุการณ์ในอนาคตล่วงหน้าไม่ใช่ผลดีเสมอไป เพราะอาจสร้างความวุ่นวายอย่างคิดไม่ถึงเลยก็ได้ อย่างไรก็ตาม หนังไม่ได้ยึดกฏเหล่านี้จนเกินไปนัก จึงทำให้หนังดูสนุกไหลลื่นไปได้

อีกส่วนหนึ่งที่ชอบคือการให้ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ การเชื่อมโยงอดีต อนาคต ปัจจุบัน การไม่เข้าไปแก้ไขอดีตหรือการไม่แก้ไขอนาคต ซึ่งทุกสิ่งทุกอย่างควรจะถูกต้องและเป็นไปตามสิ่งที่มันควรจะเป็น แต่ในท้ายที่สุดแล้วหนังก็ได้อธิบายเพิ่มเติมว่าเราสามารถสร้างและเปลี่ยนแปลงอนาคตของเราได้ ถ้าการเปลี่ยนแปลงนั้นเป็นไปอย่างถูกต้องและเหมาะสม

ต้องยกความดีความชอบให้กับ โรเบิร์ต เซเม็กคิส กับผู้เขียนบทร่วมที่ทั้งให้ทั้ง 3 ภาคมีความเชื่อมโยงกันอย่างพอดิบพอดี หนังมีความสุขสนานโลดโผนผจญภัย ต้องเอาใจช่วยกับการแก้ไขสถานการณ์ต่างๆ ตามแบบฉบับของสตีเว่น สปีลเบิร์ก ซึ่งความสนุกสนานและด้านการผจญภัยนั้นผมมองว่า แทบจะไม่เป็นรอง Indiana Jones เลยก็ว่าได้

คุณจะเพลิดเพลินไปกับอุปกรณ์ไฮเทค เวลาเช่นรถ ข้ามเวลาได้ รถเหาะได้ รถไฟเหาะได้ สเก็ตบอร์ดที่ลอยบนพื้นได้ ถนนที่อยู่บนท้องฟ้า เครื่องสั่งและเสิร์ฟอาหารอัตโนมัติ เป็นต้น โดยเฉพาะในภาค 2 นั้นคุณจะเห็นเทคนิคพิเศษ CG ซึ่งถ้าเทียบแล้วในยุคนั้นนับว่าล้ำหน้าเป็นอย่างมาก ดูหนังมีการลงทุนสูง ฉากต่างๆ ทำได้ดีมาก แล้วเพลงประกอบที่นำมาใช้ในภาพยนตร์คิดถึงเพลงช่วงปี 80's-90's เช่นเพลงของไมเคิล แจ็คสันได้ดีจริงๆ

แม้ว่าการแสดงหากเราได้ชมในยุคปัจจุบันนี้จะมองว่ามีความเป็น overacting สูง แต่ถ้าเราได้ชมในช่วงเวลายุคปี 80's ถึง ต้น ปี 90's ผมมองว่าจะสนุกมาก

ในด้านความสนุกนั้นผมยกให้ภาค 2 เป็นภาพที่สนุกที่สุด เพราะมีเหตุการณ์และสถานการณ์ซับซ้อน ต้องแก้ไขตลอดเวลาอีกครั้งเชื่อมโยงกับภาค 1 ได้อย่างดียิ่ง รองลงมาเป็นภาค 1 ซึ่งเป็นภาคเปิดตัวของเรื่อง และท้ายที่สุดเป็นภาค 3 ซึ่งภาคนี้ไม่ได้มีการแก้ไขสถานการณ์อะไรมากนัก แสดงให้เห็นว่าการไม่แก้ไขอะไรเลยตามมิติเวลา แล้วปล่อยให้มันเป็นไปตามที่ควรจะเป็น เป็นสิ่งที่ถูกต้องที่สุด แต่หนังก็ยังทำให้เราได้ลุ้นตามมากนัก

Back To The Future เจาะเวลาหาอดีต ถือว่าเป็นหลังครอบครัวที่ทุกคนสามารถดูได้และสนุก เชื่อว่าทุกคนดูทั้ง 3 ภาคจบแล้วจะมีความสุขกับการดูหนังชุดนี้อย่างแน่นอน

คะแนนในภาพรวมทั้ง 3 ภาค 8.5/10

วาทิน ศานติ์ สันติ

#MovieStation #สถานีหนัง

หมายเลขบันทึก: 661772เขียนเมื่อ 22 พฤษภาคม 2019 18:49 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 พฤษภาคม 2019 18:50 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท