ผู้ใหญ่ท่านหนึ่งพูดถึงระบบการศึกษาใหม่ที่ญี่ปุ่นกำลังทดลองอยู่และคาดว่าจะนำมาใช้ปฏิวัติการศึกษาของญี่ปุ่น ผมกลับมาสืบค้นดู พบว่า ต้นฉบับการสื่อสารเป็นภาษาไทย น่าจะอยู่บนหน้าเฟสเพจของ ดร.อนันต์ งามสะอาด (Anand Ngamsa-ard สถาบันการเรียนรู้ตลอดชีวิต) ผมคัดลอกสาระสำคัญ ๆ มาได้ดังนี้ครับ
ปฏิวัติการศึกษาของญี่่ปุ่น
ญี่ปุ่นกำลังมีแผนการนำร่องในการปฏิวัติระบบการศึกษาของตนเอง โดยให้ชื่อว่า "การเปลี่ยนผู้กล้า" (Futoji no henko) และกำลังทดสอบ ๕ โปรแกรมการศึกษา โดยเปลี่ยนกระบวนทัศน์ใหม่ มุ่งฝึกฝนสร้างคนให้เป็น "พลเมืองโลก" ไม่ต้องปลูกฝังให้เป็น "พลเมืองของชาติ" คือ ไม่ต้องสร้างความเป็นชาติ
หลักสูตร ๑๒ ปี มีเพียง ๕ วิชา
แผนการนำร่องที่ปฏิวัติระบบการศึกษา มีชื่อว่า "การเปลี่ยนผู้กล้า" (Futoji no henko) กำลังถูกทดสอบในญี่ปุ่นโดยใช้โปรแกรมการศึกษา Erasmus, Grundtvig, Monnet, Ashoka และ Comenius เป็นการเปลี่ยนแปลงแนวคิดที่ทำลายกระบวนทัศน์ทั้งหมด มันเป็นการปฏิวัติที่ฝึกฝนเด็กๆ ในฐานะที่เป็น "พลเมืองของโลก" ไม่ใช่คนญี่ปุ่น
ในโรงเรียนนำร่องเหล่านี้ไม่มีการเคารพธงชาติ ไม่มีการสวดมนต์ ไม่มีการกล่าวขวัญถึงวีรบุรุษของชาติที่สร้างขึ้นโดยวิชาประวัติศาสตร์
นักเรียนต้องไม่มีทัศนคติว่าประเทศหรือชนชาติของพวกเขาเหนือกว่าคนอื่นเพียงเพราะพวกเขาเกิดที่นั่น
พวกเขาจะไม่ไปทำสงครามเพื่อปกป้องผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจให้กลุ่มอำนาจที่แฝงตัวมาเป็น
"ความรักชาติ"
ผลลัพธ์ของโปรแกรมนี้คืออะไร?
คนหนุ่มสาวที่อายุ ๑๘ พูดได้ ๔ ภาษา รู้จัก ๔ วัฒนธรรม ตัวอักษร ๔ ภาษา และ ๔ ศาสนา พวกเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญในการใช้คอมพิวเตอร์ พวกเขาอ่านหนังสือ ๕๒ เล่มทุกปี เคารพกฎหมาย นิเวศวิทยาและการอยู่ร่วมกัน มีความสามารถในการจัดการธุรกิจด้วยคณิตศาสตร์และเครื่องมือสำนักงาน
วิพากษ์
ผมอ่านบทความนี้แล้วรู้สึกห่วง "๓ เสาหลัก" มากขึ้น ดังที่ได้เขียนเรียนไปแล้วในบันทึกก่อน ๆ ว่า ๓ เสาหลักสำคัญเพียงใด เจอแนวคิดนี้เข้าไป โดยเฉพาะเผู้ใหญ่ในระดับที่จะเปลี่ยนแปลงการศึกษาของมหาวิทยาลัยได้ ยิ่งทำให้ผมยิ่งห่วง ... ผมคิดว่า
การศึกษาแบบนั้น อาจจะเหมาะสม แต่ก็เฉพาะกับคนที่มีโอกาสเท่านั้นเอง เหมือน ๆ กับประชาธิปไตยแบบฝรั่งเศส แบบฝรั่ง ที่จริงจังแล้วก็แค่ผลประโยชน์เท่านั้น
ไม่มีความเห็น