บุคลิกทำลายสังคม



วารสาร Scientific American Mind ฉบับเดือนมกราคม ๒๕๖๒ ลงเรื่อง The Personality Trait that is Ripping American (and the World) Apart (1) บอกว่า โลกเข้าสู่ “ยุคบัดซบ” หรือ ยุค Twitter    ผู้เขียนคือ Scott Barry Kaufman ใช้คำรุนแรงมาก   ฟังคล้ายๆ จะเสียดสี ปธน. ทรัมป์

จิตวิทยาที่จะดึงมนุษยชาติสู่ความเสื่อมคือ “ลัทธิต่อต้าน” (antagonism)    ซึ่งตรงกันข้ามกับ “ลัทธิมีน้ำใจ” (agreeableness) ซึ่งประกอบด้วย ความสุภาพ (politeness) และความเห็นอกเห็นใจ (compassion)   

ลัทธิต่อต้าน นำไปสู่การเมืองประชานิยม   

จิตวิทยาสองขั้ว เรื่อง “ต่อต้าน – มีน้ำใจ” มีผลทั้งต่อชีวิตประจำวัน  ต่อโลก/สังคม    และต่อการเมือง

ในชีวิตประจำวัน คนนิสัยต่อต้าน เมื่อตนได้รับการปฏิบัติที่ไม่ดี มีแนวโน้มจะตอบโต้รุนแรง     แต่ถ้าคนอื่นได้รับการปฏิบัติเช่นนั้นกลับไม่สนใจ    ที่น่าสนใจ (และแปลกใจ) คือเมื่อคนมีนิสัยต่อต้านโดนหัวหน้าเล่นงาน จะปรับปรุงงานได้ดีกว่าคนมีน้ำใจที่ถูกหัวหน้าตำหนิ    อธิบายว่าคนมีนิสัยต่อต้านจะมีพลังเมื่อได้รับความรุนแรง    ในทางตรงกันข้าม คนมีน้ำใจจะมีพลังเมื่อได้รับความชื่นชม  

ในทางการเมือง  นักการเมืองนิสัยต่อต้านมักได้รับความสนใจจากสื่อ    และมักได้รับการเลือกตั้งมากกว่านักการเมืองมีน้ำใจ    ในสังคมทั่วไป คนนิสัยต่อต้านมักไม่เชื่อถือการเมือง  มักเชื่อทฤษฎีลับ-ลวง-พราง  และมักสนับสนุนขบวนการแยกตัว   

ทฤษฎีทางจิตวิทยามีความก้าวหน้าเรื่อง การตอบสนองที่ต่างกันของคนต่างบุคลิก ต่อการสื่อสารของนักการเมือง    นักการเมืองจึงฝึก “พูดภาษาที่สอดคล้องกับบุคลิก” ของผู้ฟัง    มีผลการวิจัยบอกว่า ผู้ลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง เลือกนักการเมืองที่มีบุคลิกตรงกับตนเอง   

ปฏิสัมพันธ์ทางการเมืองที่ส่งผลกระทบยิ่งใหญ่ต่อโลกในปัจจุบัน คือปฏิสัมพันธ์ระหว่าง การต่อต้าน กับประชานิยม    ลักษณะสำคัญของประชานิยมคือการสื่อสารความรู้สึกต่อต้านอำนาจปัจจุบัน (anti-establishment)    และสื่อสารการให้ความสำคัญแก่บุคคล   โดยกโลบายเบื้องหลังคือ  แยกประชาชนออกจากคนที่มีพลังอำนาจ

มีการวิจัยตอบคำถามว่า เกิดอะไรขึ้น เมื่อมวลชนที่มีบุคลิกต่อต้าน ได้รับการสื่อสารต่อต้านอำนาจปัจจุบัน    ผลการวิจัยใน ๗ ประเทศ ใน ๓ ทวีป ให้ผลตรงกันหมด ว่ามวลชนที่มีบุคลิกต่อต้าน สนองตอบและสนับสนุนต่อนโยบายประชานิยม ที่ไม่ว่าจะเป็นซ้ายหรือขวา    ข้อค้นพบนี้สนับสนุนโดยการวิจัยทางสรีรวิทยา ที่คนบุคลิกต่อต้านเมื่อได้รับสารประชานิยม สมองจะตื่นตัวมากกว่า   

ในยุคโซเชี่ยล มีเดีย   คนบุคลิกต่อต้านสังคม มีแนวโน้มจะสร้างสาร และสื่อสาร มากกว่า   

คนสนับสนุนนโยบายประชานิยม ต้องการผู้นำที่เข้มแข็ง ในการประยุกต์นโยบายที่ตนสนับสนุน   ผลการวิจัยบอกว่า นักการเมืองประชานิยมมักเป็น “ผู้นำที่อยู่ภายนอก” (outside leader) คืออยู่นอกกลุ่มผู้ทรงอำนาจ (elite) แต่มีสายสัมพันธ์ใกล้ชิดกับกลุ่มผู้ทรงอำนาจ   

เมื่อคนส่วนใหญ่ ที่เป็น “เสียงเงียบ” รู้สึกว่า กลุ่มผู้ทรงอำนาจไม่ได้เป็นตัวแทนแท้จริงของตน  การเมืองประชานิยม จะเข้ามามีอำนาจ   

วิจารณ์ พานิช

๓๐ ม..ค. ๖๒

ห้อง ๔๕๒๒  โรงแรมเซนทารา แกรนด์

 

หมายเลขบันทึก: 660054เขียนเมื่อ 23 กุมภาพันธ์ 2019 09:40 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 กุมภาพันธ์ 2019 09:40 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

This is a good point to ponder and perhaps to use for productivity issues : “… ที่น่าสนใจ (และแปลกใจ) คือเมื่อคนมีนิสัยต่อต้านโดนหัวหน้าเล่นงาน จะปรับปรุงงานได้ดีกว่าคนมีน้ำใจที่ถูกหัวหน้าตำหนิ อธิบายว่าคนมีนิสัยต่อต้านจะมีพลังเมื่อได้รับความรุนแรง ในทางตรงกันข้าม คนมีน้ำใจจะมีพลังเมื่อได้รับความชื่นชม…”

And this is (quite true) for Thailand’s Election 62: “…คนส่วนใหญ่ ที่เป็น “เสียงเงียบ” รู้สึกว่า กลุ่มผู้ทรงอำนาจไม่ได้เป็นตัวแทนแท้จริงของตน การเมืองประชานิยม จะเข้ามามีอำนาจ…”

Thank you.

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท