๘๘๐. ปลูกด้วยดิน ทำด้วยใจ ไร้สารพิษ..


สำหรับผมแล้ว..สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือน้ำหมักชีวภาพและฮอร์โมนนม ต้องหมั่นเติมหัวเชื้อให้ผักอยู่เรื่อยๆ..แต่สำหรับ “สวนผักทุ่งดินดำ” เป็นผักไร้สาร..ต้องมีกรรมวิธีและรายละเอียดที่ต้องดูแลอย่างใกล้ชิดและจริงจัง..ผักจึงมีคุณภาพและค่อนข้างจะมีราคาสูง..

         ผมวิ่งออกกำลังกายในสวนผลไม้ของ “ทุ่งดินดำรีสอร์ท” มาหลายปี ตั้งแต่ยังไม่มีบ้านใครต่อใคร บรรยากาศทั่วไปดูสงบเงียบมากๆ..

    ที่ดินหลายร้อยไร่..ถูกจับจองเต็มหมด แต่ไม่ปรากฏสิ่งปลูกสร้าง นอกจากต้นลำไย มะม่วง มะขามและมะพร้าว ตลอดจนป่าไม้รกๆขึ้นปกคลุมเต็มไปหมด

        แต่ในช่วง ๕ ปีที่ผ่านมา..ทุกอย่างในรีสอร์ทเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ที่ดินเฟสใหม่ถูกประกาศขาย จากนั้น..บ้านหรูหราก็ตามมา..มีให้เห็นแทบทุกแปลง

        วันหยุดเสาร์อาทิตย์ รถวิ่งไปมาขวักไขว่เพื่อออกไปจับจ่ายซื้อของในตลาด ถ้าไม่อยากออกไปไหนก็มีร้านกาแฟสดอยู่ใกล้ๆ..ให้ได้ลิ้มรสอย่างสะดวกสบาย..

        ผมวิ่งเกือบทุกเย็นบนถนนของเฟสเก่า..เฝ้ามองดูพัฒนาการของที่ดินที่มีการเปลี่ยนมือ สังเกตได้จากรั้วและสวนผลไม้ จากป้ายที่ถูกเปลี่ยนชื่อไปแล้ว..

        หากเป็นรั้วที่มั่นคงแข็งแรง แสดงว่าเจ้าของมีแผนงานพัฒนาที่ดิน และถ้ารื้อสวนทิ้งไปก็หมายความว่า..เจ้าของที่ดินจะปลูกบ้านและคิดการใหญ่แน่นอน...

        ผมวิ่งผ่าน “สวนผักทุ่งดินดำ” ตั้งแต่ยังไม่มีเรื่องราว แต่ผมก็พอจะรู้ว่าเขาจะปลูกผักไร้สารพิษ ในที่ดิน  ๒ – ๓ ไร่ เห็นสร้างกระโจมใหญ่โต..ที่เรียกว่าผักกางมุ้ง ดูมาตรฐานมาก ภายในมีพัดลมระบายอากาศด้วย..

        ปี ๒๕๖๐..ผมรู้สึกว่า..สวนผักทุ่งดินดำ..ไม่ธรรมดาเสียแล้ว เพราะขยายกิจการเพิ่มขึ้น ซื้อที่ดินแปลงข้างเคียงและสร้างกระโจม(มุ้ง)ใหม่หลายหลัง

        มีการปรับปรุงวิธีการปลูกผัก คือปลูกแบบกางมุ้ง ปลูกในแปลงใหญ่ในที่โล่งและแบบยกแปลงขึ้นสูงโดยใช้ตะแกรงเหล็กปูด้วยพลาสติกตาถี่ๆ แล้วเทดินใส่ลงไป...

        ปี ๒๕๖๑..ผมเข้าไปศึกษาดูงาน..แล้วนำประสบการณ์ที่ได้รับไปปรับใช้ที่โรงเรียน และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ผักทุกชนิดที่โรงเรียนผมก็เจริญงอกงามดีขึ้นเป็นลำดับ...

        ความรู้ความเข้าใจที่ผมได้รับจาก “สวนผักทุ่งดินดำ” ไม่มีอะไรซับซ้อน เพียงแค่ลงมือปฏิบัติด้วยใจรัก ทำให้จริงก็จะเห็นผล..ซึ่งผมเองก็ได้ถ่ายทอดสู่เด็กอยู่เสมอ..

        เริ่มจากดิน..เป็นที่รู้กันว่าดินเลาขวัญ..ไม่สู้จะดีนัก แต่เราแกล้งดินได้ โดยผสมกับขี้เถ้าแกลบที่มีส่วนผสมของมูลไก่ หรือจะใช้มูลวัวก็ได้..

        ปุ๋ยอินทรีย์..ต้องใช้ในสัดส่วนที่พอเหมาะพอดี มีการผสมคลุกเคล้าให้ทั่วแล้วตากดินไว้ เวลาปลูกผักก็ควรจะคลุมด้วยฟางเพื่อสร้างความชุ่มชื้น..

        สำหรับผมแล้ว..สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือน้ำหมักชีวภาพและฮอร์โมนนม ต้องหมั่นเติมหัวเชื้อให้ผักอยู่เรื่อยๆ..แต่สำหรับ “สวนผักทุ่งดินดำ” เป็นผักไร้สาร..ต้องมีกรรมวิธีและรายละเอียดที่ต้องดูแลอย่างใกล้ชิดและจริงจัง..ผักจึงมีคุณภาพและค่อนข้างจะมีราคาสูง..

        ขั้นตอนอย่างหนึ่งที่น่าสนใจ..คือการเพาะต้นกล้าในกระบะพลาสติกสีดำ จากนั้นจึงค่อยนำไปลงแปลงใหญ่ การปลูกจึงจะดูเป็นระเบียบเรียบร้อยสวยงาม..

        ผมได้แนวคิดมากมายและเจ้าของสวนก็อนุญาตให้ผมกับนักเรียนมาเก็บผักเพื่อเข้าสู่โครงการอาหารกลางวันได้ ผมมาเก็บผัก ๔ ครั้งแล้ว เฉลี่ยสัปดาห์ละครั้ง..ที่โรงเรียนได้รับ “น้ำใจ”จากสวนผักทุ่งดินดำ

        นับเป็นอีกหนึ่งรายการ..ที่ผมได้เรียนรู้นอกห้องเรียน และคิดว่าจะทำให้เกิดมรรคเกิดผลที่โรงเรียน..โดยใช้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง..ถึงแม้จะไม่ยิ่งใหญ่เท่าสวนผักทุ่งดินดำ..

        แต่เราก็มีแนวคิดที่คล้ายกัน คือ ปลูกด้วยดิน ทำด้วยใจ..อาจจะไม่ไร้สารพิษเหมือนทุ่งดินดำ แต่ที่โรงเรียนก็ปลอดสารพิษแน่นอน..

ชยันต์  เพชรศรีจันทร์

๓๐  มกราคม  ๒๕๖๒

หมายเลขบันทึก: 659592เขียนเมื่อ 30 มกราคม 2019 21:34 น. ()แก้ไขเมื่อ 30 มกราคม 2019 21:34 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท