ถ้ำดงคสิริเป็นถ้ำหินแข็งมีขนาดประมาณ ๙ ตารางเมตร (คงเป็นขนาดเดียวกันกับสมัยที่พระโพธิสัตว์ทรงบำเพ็ญเพียร) ต้องเดินขึ้นเชิงเขาดงคสิริขึ้นไป มีวัดธิเบตตั้งอยู่ใกล้ถ้ำ เห็นธงหลากสีของชาวธิเบตผูกติดกับเชือกเป็นสายยาวระโยงระยาง ทั้งยังเป็นหน้าผาชันตัดตรงลงมา มีช่องประตูพอให้คนเข้าไปได้ เพราะเหตุที่ถ้ำนี้เป็นถ้ำจากผนังเขา ไม่ใช่ถ้ำที่อยู่ติดดิน พอนานปีก็มักมีดินพอกพูนจนพื้นถ้ำตื้นเขินทำให้ถ้ำมีขนาดเล็กลง
ภายในถ้ำดงคสิริเป็นที่ประดิษฐาน พระพุทธรูปพระโพธิสัตว์ ปางบำเพ็ญทุกรกิริยา ประทับนั่งขัดสมาธิ พระหัตถ์ทั้งสองซ้อนกันบนพระเพลา (ตัก) พระหัตถ์ขวาทับพระหัตถ์ซ้าย มองเห็นพระวรกายซูบผอมจนพระอัฐิ (กระดูก) และพระนหารุ (เส้นเอ็น) ปรากฏ ลักษณะพระวรกายผ่ายผอมเห็นหนังติดกระดูก พระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ตรงกลางถ้ำ ตั้งเด่นเป็นสง่าเหลืองอร่ามไปทั้งองค์ เพราะมีผู้ศรัทธามาปิดทองด้วยความเชื่อว่าจะเป็นสิริมงคล ป่วยเป็นโรคภัยไข้เจ็บอยู่ที่ไหนของร่างกาย หากปิดทององค์พระตรงนั้นก็จะหายเป็นปกติ
“ดงคสิริ” หรือตุงคสิริ หรือทุกรกิริยาบรรพต สถานที่บำเพ็ญทุกรกิริยาของเจ้าชายสิทธัตถะ ก่อนที่จะทรงตรัสรู้พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ คำว่าบำเพ็ญทุกรกิริยา แปลตามรูปศัพท์ได้ว่า “การกระทำที่ทำได้ยาก” ที่เน้นไปทางการทรมานร่างกายเสียส่วนใหญ่ ตั้งอยู่ห่างจากพระมหาเจดีย์พุทธคยาหรือพระมหาโพธิเจดีย์ ไปประมาณ ๑๖ กิโลเมตร อยู่ระหว่างหลักไมล์ที่ ๔ จากเมืองคยา ต้องข้ามแม่น้ำเนรัญชราไปไกลพอสมควร ปัจจุบันอยู่ในตำบลพุทธคยา อำเภอคยา จังหวัดคยา รัฐพิหาร ประเทศอินเดีย
ตำบลอุรุเวลาเสนานิคม แคว้นมคธ ในสมัยพุทธกาล เป็นสถานที่ตั้งอาศรมเดิมของพระอุรุเวลกัสสปะ อดีตพี่ชายใหญ่ในชฎิล ๓ พี่น้อง ซึ่งในปัจจุบันตั้งอยู่ห่างจากพระมหาเจดีย์พุทธคยาหรือพระมหาโพธิเจดีย์ ไปทางทิศใต้ประมาณ ๑ กิโลเมตร อยู่ใกล้ฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา และมีบ่อน้ำเก่าแก่เป็นอนุสรณ์
ไม่มีความเห็น