ผมร่วมพิธีการงาน “วันครู” ของเขตพื้นที่การศึกษาฯ ตั้งจิตอธิษฐานใจ ในความสงบและเงียบงัน ผมหลับตาฟังพระคุณเจ้าสวดมงคลคาถา กายและใจนิ่งอย่างเนิ่นนาน..
บทสวดคำฉันท์..บูชาพระคุณบูรพาจารย์ ผู้ประสิทธิประสาทวิชา นำพาให้รำลึกถึงคุณครูผู้ล่วงลับและคิดถึงครูปัจจุบันทุกท่านในทุกที่ที่ทำให้ผมเรียนรู้ได้ไม่รู้จบ แล้วกล่าวปฏิญาณตน..บอกตนเองว่า..จะเป็น “ครูดี” มีใจศรัทธาในงานตลอดไป
“วันครู” ไม่ใช่วันเริ่มต้นเพื่อจะคิดใหม่ทำใหม่ แต่เป็นวันทบทวนและบอกกล่าว..ให้มองตนให้ออก บอกตนเองให้ได้ว่า..ได้ทำหน้าที่ดีพอหรือยัง..ถ้าดีแล้วก็จงรักษา “คุณภาพ” และ “มาตรฐาน”วิชาชีพให้มั่นคงและยั่งยืน
ทำงานทุกวันอย่างมุ่งมั่นและมีความสุข..แรงบันดาลใจหาได้ไม่ยากเลย..สำหรับผมจะทำตามคำสอนของพ่อ....”พ่อ คือครูของแผ่นดินไทย ศาสตร์พระราชา..ยังคงทันสมัยและยิ่งใหญ่เสมอ..ที่ผมได้นำมาใช้จัดการศึกษาและพัฒนาตนเอง..
ในส่วนของคำขวัญ “วันครู” ๒๕๖๒ ยังคงสวยหรูดูเพลินเช่นเคย..”คุณธรรมนำครูไทย สร้างเด็กไทย หัวใจซื่อตรง..” เป็นของ คุรุสภา..คำขวัญของนายกรัฐมนตรีก็มี..มิได้หมายความว่า การศึกษาไทยไม่มีเอกภาพ เพียงแต่ว่าท่านนายกฯเน้นเทคโนโลยีมากกว่า..เท่านั้น
พื้นฐาน..ความซื่อสัตย์ของเด็ก...สร้างได้ด้วยครู แต่ครูเองซึ่งเป็นตัวอย่างที่สำคัญ การปฏิบัติของครูมีคุณค่ามากกว่าคำสอน..ครูต้องทำให้เห็นอย่างเพียงพอ โดยเฉพาะความซื่อสัตย์ต่อตนเองสำคัญที่สุด..
ในขณะที่มีเสียงหวานแหววของพิธีกร..ยังคงประกาศผ่านไมโครโฟนเหมือนเช่นทุกปี กล่าวซ้ำย้ำคำเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ให้ผู้บริหารและครูเลื่อนขึ้นมานั่งข้างหน้า..เพราะยังมีเก้าอี้ว่างอยู่อีกมากมาย..คงไม่ใช่เรื่องผิดปกติแต่อย่างใด สำหรับงาน “วันครู”
เพียงแต่ว่า..ก็แค่เป็นส่วนหนึ่งที่สะท้อนมุมมอง..แม่ปูสอนลูกปู และหรือ..ครูไทยพร้อมหรือยัง?ที่จะนำพาเด็กไทย ซื่อตรงและกล้าแสดงออก..ยังไม่ต้องมองไปถึง 4.0 ก็ได้
ผมรีบกลับโรงเรียน เพื่อเก็บกวาดบริเวณโรงเรียน ให้อาหารไก่ ปลา และรดน้ำแปลงผัก..เป็นกิจวัตรประจำวันที่ไม่มีอะไรพิเศษ ผมทำให้รู้สึกดีอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ
เพื่อสักวันจะได้ถอดบทเรียนด้วยเรื่องราวของแหล่งเรียนรู้ ที่ครูสร้างได้ และใช้เป็นสื่อสอนหรือเครื่องมือที่จับต้องได้ ใช้พัฒนาทักษะชีวิตทั้งของครูและนักเรียน
“วันครู” ในมุมมองของผม..จึงมีอยู่ในใจผมทุกวัน คำขวัญ..ช่วยจรรโลงใจ แต่งานในหน้าที่และความรับผิดชอบ..คือบันไดให้ก้าวไปสู่การแก้ปัญหา นำพาโรงเรียนให้บรรลุเป้าหมาย..ภายใต้ความสุขของบุคลากรที่เกี่ยวข้องทุกคน..
ผมเดินทางกลับบ้าน...แวะข้างบ้านที่เป็นสวนผัก เจ้าของสวนบอกให้ผักกวางตุ้ง..สำหรับโครงการอาหารกลางวันนักเรียน..
อากาศอบอ้าว..แต่ผมก็ถอนผักใส่ถุงอย่างสบายใจ..นึกถึงคำสอนของพ่อ “ขาดทุน คือกำไร..การให้..คือความสุขของชีวิต..ผมถามเจ้าของสวนผักว่า..ผมจะขอผักไปฝากผู้ปกครอง..ที่มาเลี้ยงอาหารในงานวันเด็กด้วยจะได้ไหม?
“ด้วยความยินดีเลยครับ..วันนี้เป็นวันครู..ครูเก็บผักได้ตามสบายเลยครับ”
ชยันต์ เพชรศรีจันทร์
๑๖ มกราคม ๒๕๖๒
ไม่มีความเห็น